ปฏิทรรศน์ของแฟร์มีคืออะไร? มีมนุษย์ต่างดาวใน จักรวาลและอวกาศ หรือไม่?
"ปฏิทรรศน์ของแฟร์มี" เป็นความขัดแย้งทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวและการเดินทางในอวกาศ เป็นการอธิบายข้อขัดแย้งระหว่างการประเมินค่าสูงไปของการมีอยู่ของอารยธรรมต่างดาวกับการขาดหลักฐานที่เกี่ยวข้อง
วันหนึ่งในปี พ.ศ. 2493 เมื่อนักฟิสิกส์ชาวอเมริกัน-อิตาลี ผู้ได้รับรางวัลโนเบล ศาสตราจารย์ เอนริเก แฟร์มี พูดคุยเกี่ยวกับปัญหาจานบินและมนุษย์ต่างดาวกับคนอื่นๆ จู่ๆก็มีประโยคหนึ่งว่า “พวกเขาทั้งหมดอยู่ที่ไหน?” คำถามทางวิทยาศาสตร์ที่หยิบยกขึ้นมาจากคำถามนี้ เรียกว่า ปฏิทรรศน์ของแฟร์มี
ปฏิทรรศน์ของแฟร์มี คืออะไร?
ความหมายของ ปฏิทรรศน์ของแฟร์มี คือ ตามทฤษฎีแล้ว มนุษย์สามารถเดินทางไปยังดาวเคราะห์ทุกดวงในทางช้างเผือกได้ภายใน 1 ล้านปี ดังนั้น มนุษย์ต่างดาววิวัฒนาการเร็วกว่ามนุษย์เพียง 1 ล้านปีเท่านั้น พวกมันควรจะมาถึงโลกแล้วในขณะนี้ กล่าวอีกนัยหนึ่ง ปฏิทรรศน์ของแฟร์มีแสดงให้เห็นถึงความขัดแย้งดังกล่าว
ก. มีมนุษย์ต่างดาวอยู่จริง - การอนุมานทางวิทยาศาสตร์สามารถพิสูจน์ได้ มนุษย์ต่างดาววิวัฒนาการเร็วกว่ามนุษย์มาก ควรจะมายังโลกแล้วและมีอยู่ที่ไหนสักแห่ง
ภาพโดย Pawel86 จาก Pixabay
ข. มนุษย์ต่างดาวไม่มีอยู่จริง - จนถึงตอนนี้ มนุษย์ไม่พบเบาะแสใดๆ เกี่ยวกับการดำรงอยู่ของมนุษย์ต่างดาว ปฏิทรรศน์ของแฟร์มีอธิบายถึงความขัดแย้งระหว่างการประเมินค่าการดำรงอยู่ของอารยธรรมต่างดาวที่สูงเกินไปและการขาดหลักฐานที่เกี่ยวข้อง
มีมนุษย์ต่างดาวในจักรวาลหรือไม่
ในปี พ.ศ. 2502 นักดาราศาสตร์ฟิสิกส์สองคนจากมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ ดร.ฟิลิป มอร์ริสัน และดร.จูเซปเป้ โคนีย์ ตีพิมพ์บทความในวารสาร Nature เรื่อง "Seeking Interstellar Communication" บทความนี้ได้รับการยกย่องจากนักวิจัยในสาขานี้ว่าเป็น "ความคลาสสิกท่ามกลางความคลาสสิก"
พวกเขาชี้ให้เห็นถึงศักยภาพของการใช้คลื่นไมโครเวฟสำหรับการสื่อสารระหว่างดวงดาว นี่เป็นการเปิดฉากโหมโรงของการค้นพบอารยธรรมนอกโลกด้วยกล้องโทรทรรศน์
ภาพโดย Javier Rodriguez จาก Pixabay
ในปีถัดมา นักดาราศาสตร์ชาวอเมริกัน ดร.แฟรงค์ ดีเร็ก ก็ได้ข้อสรุปเช่นเดียวกัน และเป็นครั้งแรกในฤดูใบไม้ผลิของปีนั้น บริษัทค้นหาสัญญาณไบโอมาร์คเกอร์ในระบบสุริยะที่อยู่ใกล้เคียงด้วยคลื่นวิทยุ จากนั้นจึงเริ่มโครงการ Ozma ที่มีจุดมุ่งหมายและจัดระเบียบครั้งแรกในประวัติศาสตร์อารยธรรมมนุษย์เพื่อค้นหา "มนุษย์ต่างดาว" ในอวกาศ นอกจากนี้ เขาคิดสมการ Drake ขึ้นมา
ศาสตราจารย์คาร์ล เซแกน นักดาราศาสตร์และนักเขียนวิทยาศาสตร์ชื่อดังชาวอเมริกันประมาณการว่า จากสมการ Drake จะได้ว่า จำนวนดาวเคราะห์ที่มีสิ่งมีชีวิตที่ฉลาดจากนอกโลกควรมีประมาณ 1 ล้านดวง
ภาพโดย Thomas Budach จาก Pixabay
ดร.ไอแซค อาซิมอฟ นักเขียนนวนิยายวิทยาศาสตร์ชาวรัสเซีย-อเมริกัน เชื่อว่า น่าจะมีดาวเคราะห์ดังกล่าวจำนวน 670,000 ดวง ในทางกลับกัน Drake ใช้แนวทางอนุรักษ์นิยมมากกว่า เขาประเมินว่าดาวเคราะห์ดังกล่าวควรจะเป็น 100,000 ดวง นอกจากนี้ เขาเชื่อมั่นว่าก่อนที่อารยธรรมของโลกจะถูกทำลายล้าง อารยธรรมมนุษย์ต่างดาวเหล่านี้จะติดต่อกับมนุษย์เรา
ศาสตราจารย์แอนดรูว์ วัตสัน นักโหราศาสตร์ชาวอังกฤษ เคยกล่าวถึงวิวัฒนาการของชีวิตที่ชาญฉลาดบนโลก เขาได้สร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ ผลการวิเคราะห์แสดงให้เห็นว่า โอกาสในการค้นพบสิ่งมีชีวิตที่ชาญฉลาดบนดาวเคราะห์ดวงอื่นนั้นต่ำมาก
ภาพโดย Thomas Budach จาก Pixabay
เขาคิดว่า ไม่มีดาวเคราะห์ดวงใดที่จะให้เวลาอันเป็นอนันต์ในการวิวัฒนาการของชีวิต ดาวเคราะห์อย่างโลก ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับชีวิตได้รับผลกระทบจากความสว่างของดวงอาทิตย์ หลังจากช่วงเวลาหนึ่งแล้ว ช่วงเวลาแห่งความเหมาะสมสำหรับชีวิตจะสิ้นสุดลง
มนุษย์ต่างดาวเป็นภัยคุกคามต่อมนุษยชาติหรือไม่หากมีอยู่จริง?
การยืนยันทางดาราศาสตร์สมัยใหม่ การเกิดขึ้นของโลกมนุษย์เป็นผลมาจากวิวัฒนาการของจักรวาล เนื่องจากกฎของธรรมชาติเป็นสากลในจักรวาล ปัจจัยที่นำไปสู่การกำเนิดของโลกมนุษย์ก็จะปรากฏที่ไหนสักแห่งในจักรวาลอันกว้างใหญ่ ดังนั้น นักวิทยาศาสตร์หลายคนเชื่อว่า มีมนุษย์ต่างดาวอยู่ในจักรวาล และการปรากฏตัวของมนุษย์ต่างดาวก็ทำให้เกิดความวิตกกังวลในบางคนเช่นกัน
ตัวอย่างเช่น นักดาราศาสตร์ฟิสิกส์ชาวอังกฤษและผู้ได้รับรางวัลโนเบล ศาสตราจารย์ Martin Ryle เขียนถึง International Astronomical Union (IAU) ในปี 1970 รณรงค์ไม่ให้มนุษย์ติดต่อกับมนุษย์ต่างดาว เพื่อไม่ให้มีผู้เสียชีวิต
ภาพโดย 0fjd125gk87 จาก Pixabay
อีกตัวอย่างหนึ่ง ศาสตราจารย์สตีเฟน ฮอว์คิง นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษได้กล่าวอ้างหลายครั้งในศตวรรษนี้ว่า มนุษย์ต่างดาวสามารถชั่วร้ายได้ การสัมผัสกับพวกมันเป็นสิ่งที่อันตรายมาก หากมนุษย์ต่างดาวตัดสินใจ "มาเยี่ยม" เรา แล้วผลที่ได้ก็อาจจะเหมือนกับเมื่อชาวยุโรปมาถึงอเมริกา ชนพื้นเมืองอเมริกันไม่ได้รับผลประโยชน์มากนัก
อย่างไรก็ตาม ศาสตราจารย์โจว ไห่จง นักวิทยาศาสตร์และนักอนาคตวิทยาชาวจีน ชี้ให้เห็นในช่วงปี 1990: หากมนุษย์ต่างดาวสามารถมายังโลกได้ แสดงให้เห็นว่าพวกเขามีอารยะธรรมมากกว่ามนุษย์อย่างเรา ยิ่งระดับอารยธรรมสูงเท่าใด มีโอกาสน้อยที่จะมีความรุนแรง
ภาพโดย ELG21 จาก Pixabay
เขาคิดว่า การกังวลเกี่ยวกับภัยคุกคามจากมนุษย์ต่างดาวนั้นไม่จำเป็นอย่างยิ่ง เพราะตราบใดที่พวกเขาเป็นชีวิตที่ชาญฉลาดขั้นสูง ความมีเหตุผลของพวกเขากำหนดว่าพวกเขาต้องปฏิบัติต่อสิ่งมีชีวิตที่ชาญฉลาดอื่น ๆ อย่างสมเหตุสมผล ดังนั้นมนุษย์ต่างดาวและมนุษย์จะสามารถอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ร่วมมือกันอย่างเป็นมิตร และพัฒนาร่วมกันต่อไปในอนาคต
บังเอิญว่า ดร.เดวิด มอร์ริสัน นักโหราศาสตร์ชาวอเมริกัน กล่าวเมื่อไม่นานนี้ว่า หากอารยธรรมสามารถดำรงอยู่ได้หลายร้อยหลายพันปี ถ้าอย่างนั้นก็ต้องมีความก้าวหน้ามากกว่ามนุษย์ อารยธรรมนี้จะแก้ปัญหาต่างๆ ที่เราเผชิญอย่างแน่นอน จึงไม่มีความจำเป็นที่จะบุกโลก เขายังคิดว่ามนุษย์ต่างดาวเป็น "ผู้ส่งสารเพื่อสันติภาพ" เป็นมิตรและน่ารัก และกล่าวติดตลกว่า “หากมนุษย์ต่างดาวมาเยือน ฉันจะดูแลพวกเขาอย่างดี "
ภาพโดย LionFive จาก Pixabay
ความสำคัญของปฏิทรรศน์ของแฟร์มี
ปฏิทรรศน์ของแฟร์มีได้รับการเสนอเป็นเวลา 70 ปี ไม่ว่าจะเป็นเพื่อชุมชนดาราศาสตร์ หรือสำหรับนิยายวิทยาศาสตร์ ทั้งหมดเป็นคำถามปลายเปิด ทุกคนสามารถคิดคำตอบเองได้ ก่อนจะได้สัมผัสกับมนุษย์ต่างดาวจริงๆ ไม่มีใครรู้คำตอบที่ถูกต้องสำหรับคำถามนี้
อย่างไรก็ตาม จากความน่าจะเป็นและการวิเคราะห์เชิงตรรกะ ในจักรวาลอันกว้างใหญ่ น่าจะมีดาวเคราะห์คล้ายโลกจำนวนมากมายที่เหมาะสำหรับการดำรงอยู่ของมนุษย์ต่างดาว ส่วนมนุษย์ต่างดาวจะร้ายหรือเป็นมิตร สถาบันการศึกษายังไม่ได้ข้อสรุป จะต้องมีการสำรวจและยืนยันเพิ่มเติม
ภาพโดย ELG21 จาก Pixabay
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
