5 มิ.ย. 2022 เวลา 03:45 • การตลาด
PTT Station VS PT
ศึกปั๊มน้ำมันที่แข่งกันมากกว่าขายน้ำมัน
ความน่าสนใจของสถานีบริการน้ำมันในทุกวันนี้ ไม่ใช่แค่ปั๊มน้ำมันที่เอาไว้แค่เติมน้ำมันเท่านั้น แต่ทุกวันนี้ปั๊มน้ำมันกลายเป็น Community หนึ่งไปแล้ว ไม่ว่าจะเรื่องของร้านกาแฟ ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร มีศูนย์บริการเช็ครถ สินค้าไลฟ์สไตล์ต่างๆ ไปจนถึงห้องละหมาดก็มี เพื่อรองรับความต้องการผู้บริโภค ทำให้มี Traffic เข้ามาใช้บริการมากขึ้น
1
วันนี้การแข่งขันกันในการทำธุรกิจค้าปลีกที่ไม่ใช่น้ำมัน หรือ nonoil ดุเดือดขึ้น ทำให้ค่ายน้ำมันต่างมุ่งไปที่การทำธุรกิจ nonoil ที่ให้ผลกำไรมากขึ้น รวมไปถึงการมองไปที่พลังงานแห่งอนาคต อย่างรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่จะเข้ามาแทนที่รถที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป มีจุดสถานีให้บริการชาร์จ
อย่าง PTT Station ปีที่ผ่านมามีรายได้อยู่ที่ 511,799 ล้านบาท แบ่งเป็น กลุ่มธุรกิจ Mobility 91.1 % กลุ่มธุรกิจ Lifestyle 3.3 % กลุ่มธุรกิจ Global 5.4 % อื่นๆ 0.2 % มีกำไรอยู่ที่ 11,474 ล้านบาท
มีจำนวนสถานีบริการน้ำมัน 2,083 สถานี สถานีบริการแก๊ส LPG 32 แห่ง สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า 106 แห่ง 7-Eleven และ Jiffy รวม 2,104 สาขา ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ร้านกาแฟอย่าง Café Amazon 3,628 สาขา Texas Chicken 96 สาขา ร้านชานม Pearly Tea 159 สาขา และฮั่วเซ่งฮงติ่มซำ 30 สาขา ศูนย์บริการยานยนต์ FIT Auto 72 แห่ง และมีจำนวนบัตรสมาชิกBlue Card อยู่ที่ 7 ล้านสมาชิก
และอีกหนึ่งเจ้า PT แม้จะเป็นเบอร์ 2 ของตลาด แต่สิ้นปี 2564 มีรายได้อยู่ที่ 133,759 ล้านบาท คิดเป็นรายได้จากธุรกิจน้ำมัน 95.4% และรายได้จากธุรกิจ Non-oil อยู่ที่ 5,624 ล้านบาท คิดเป็น 4.2% ของรายได้ เพิ่มขึ้น 33.1% จากปี 2563
แม้จะเป็นเบอร์ 2 ของตลาด แต่ก็ไม่ได้มองว่าสถานีบริการเป็นเพียงแค่ขายน้ำมันเพียงอย่างเดียว แต่ต้องการใช้เครือข่ายสถานีบริการที่เดินหน้าขยายสาขาต่อเนื่อง ตอบโจทย์ทั้งด้านพลังงาน และบริการ Non-oil โดยใช้ความได้เปรียบการมีสาขากระจายอยู่ในทุกอำเภอทั่วไทยในการเข้าถึงผู้บริโภคในชุมชน
ปีที่ผ่านมา PT มีสถานีบริการน้ำมัน 1,994 สถานี สถานีบริการแก๊ส LPG 171 แห่ง สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า 35 แห่ง มีธุรกิจค้าปลีก Max Mart 267 สาขา ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม กาแฟพันธุ์ไทย 267 สาขา ศูนย์บริการยานยนต์ AUTOBAC 26 สาขา และมีแอปพลิเคชั่น Max Rewards จำนวนบัตรสมาชิก PT Max Card 16.9 ล้านสมาชิก
ซึ่งสิ่งที่ตามมาคือ Big Data มหาศาล ที่ PT สามารถนำมาใช้ในการวิเคราะห์เพื่อทำความเข้าใจผู้บริโภคมากขึ้น มีบริการใหม่ๆ ตอบโจทย์ลูกค้าตลอดเวลา นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าต่อให้เป็นเบอร์ 2 แต่ก็มีฐานคนที่รัก
ศึกปั๊มน้ำมันที่แข่งกันมากกว่าขายน้ำมันในครั้งนี้ของ PTT Station และ PT แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของปั๊มน้ำมันที่กลายเป็น Community และเทรนด์พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ในอนาคตก็ต้องดูกันต่อ ว่าสถานีบริการน้ำมันจะงัดกลยุทธ์อะไรออกมาสู้
อ่านเพิ่มเติม https://www.brandage.com/article/31205/PTT-Station-vs-PT
#BrandAgeOnline #BrandBattle #PTTStation #PT #ปั๊มน้ำมัน
โฆษณา