5 มิ.ย. 2022 เวลา 12:59 • อสังหาริมทรัพย์
10 ปัจจัยที่ควรรู้ก่อนการลงทุนซื้อ “คอนโด” ในปี 2022-2023
คอนโด หรือ อสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบัน ถือว่ามีเยอะมากแน่นอนว่าการแข่งขันก็สูงมากเช่นกัน อีกทั้งการลงทุนประเภทนี้ยังเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้กับตัวเองเพราะคอนโด เป็นทรัพย์สินชิ้นใหญ่ มีสภาพคล่องที่ต่ำ การเลือกลงทุนในทำเลไม่ดีก็เหมือนเพิ่มหนี้ก้อนโตให้กับตัวเอง
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว อะไรคือปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจในการเลือกซื้อคอนโดในการลงทุน ต้องพิจารณาอย่างไรบ้าง ให้มีความเสี่ยงน้อยที่สุด ลองดูในบทความที่เรานำมาให้ทุกท่านได้เลือกตัดสินใจกันครับ
10 ปัจจัยที่ควรรู้ก่อนการลงทุนซื้อ “คอนโด” ในปี 2022-2023
1.รายละเอียดทำเลที่ตั้ง
ถือว่าเป็นสิ่งแรกที่ควรพิจารณาเลยก็ว่าได้ สำหรับทำเลที่ตั้ง พื้นที่โครงการตั้งอยู่บริเวณไหน พื้นที่นั้นโอกาสที่จะเป็นทำเลทองหรือไม่ ตั้งอยู่ใกล้สิ่งอำนวยสะดวกประเภทใด เช่น ตั้งอยู่ใกล้ สถานีรถไฟฟ้า MRT หรือสถานนีรถไฟฟ้า BTS หรือไม่ หรืออยู่ใกล้ห้างสรรพสินค้าอะไร ตลอดจนสถานที่รักษาพยาบาลอะไร เป็นต้น
กล่าวคืออยู่ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกในการดำเนินชีวิตนั่นเอง เพราะฉะนั้นการเลือกทำทำเลที่ตั้งที่ดีก็เหมือนลดความเสี่ยงในการลงทุนเช่น กัน
สำหรับใน รอบ 36 ปีที่ผ่านมา ราคาที่ดินเพิ่มมากขึ้น ถึง 72.6 เท่า หรือคิดเฉลี่ยเพิ่มขึ้นปีละ 12.64% ซึ่งเป็นเปอร์เซ็นต์ที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ หรืออัตราดอกเบี้ยพันธบัตรอีกด้วยซ้ำ
2. ความพร้อมทางการเงิน
ความพร้อมทางการเงินเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่มีเงินทุนหรือเงินเก็บก้อนโตพอครอบคลุมในการใช้จ่ายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เงินสำรองระหว่างรอลูกค้าเข้าพักอาศัยอย่างน้อย 3-6 เดือน ค่าเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งห้องต่างๆ ตลอดจนค่าส่วนกลาง เป็นต้น
สำหรับ การเลือกที่จะกู้เงินมาลงทุนต้องดูศักยภาพของตัวเราเองด้วยว่ามีความสามารถในการผ่อนจ่ายหรือไม่ มีผลกระทบมากน้อยแค่ไหน
3.รายละเอียดสัญญาการซื้อ-ขาย คอนโด
เมื่อเราดูทำเลที่ตั้งและเตรียมความพร้อมทางด้านการเงินแล้ว ลำดับ ต่อมาคือ รายละเอียดสัญญาการซื้อ-ขาย เป็นอย่างไร เงื่อนไขและข้อตกลงสัญญาการซื้อ-ขาย เป็นอย่างไร ต้องดูว่าเราซื้อห้องมือหนึ่งจากโครงการเลย หรือเป็นการซื้อ Resale มือสองจากเจ้าของเดิม ตรงนี้สำคัญ ต้องอ่านให้ละเอียด ตรงนี้สำคัญมาก เพราะถ้าหากตกลงเซ็นสัญญาแล้ว อาจจะเกิดปัญหาตามมาในภายหลัง
4.สภาพแวดล้อมรอบโครงการในช่วงเวลาต่างๆ บริเวณ คอนโด
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ควรลงพื้นที่สำรวจหรือเข้าไปดูก่อน ก่อนการตัดสินใจควรดดูในระยะเวลาที่ต่างกัน เพราะความคิดของแต่ละคนการตัดสินใจในการใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน เช่น สภาพพื้นที่โครงการมีความวุ่นวายแค่ไหน ระยะเวลาไหนรถติด เป็นต้นเพื่อสะดวกในการตัดสินในก่อนการซื้อและเข้าไปอยู่
1
5. ที่จอดรถ
ถือว่า เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงในลำดับต้นๆอีกเช่นกัน เพราะปกติแล้ว เปอร์เซ็น ประชาชนในวัยทำงาน หรือ นักศึกษา ที่จะเข้ามาเช่าสินทรัพย์ หรือตัวผู้ซื้อคอนโดเพื่ออยู่อาศัยเองผมมั่นใจว่า อย่างน้อยต้องมีรถอย่างน้อย 1คัน แน่ๆ นี่แหละครับอย่า พึ่งรีบตัดสินใจซื้อคอนโดที่ ราคาถูกกว่าปกติ จนลืมนึกถึง สถานที่จอดรถนะครับ ไม่งั้น จะติดดอยอสังหาริมทรัพย์โดยไม่รู้ตัวทันที
6.เส้นทางเข้าออกโครงการเป็นอย่างไร
เป็นปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรกๆเลยก็ว่าได้เพราะ เส้นทางการเข้าออกโครงการ เป็นหัวใจหลักๆในการพิจารณาเลือกซื้อคอนโด เพราะเกิน 70% ของที่ตัดสินใจซื้อ ผมเชื่อเลยครับว่า เพราะการเดินทางสะดวก ใกล้ที่ทำงาน สิ่งที่เราควรรู้คือทางเข้าออกโครงการและถนนสาธารณะที่จะเข้าโครงการด้วย ทางเลือกในการเข้าสู่พื้นที่โครงการมีกี่เส้นทางมีความสะดวกสบายมากน้อยแค่ไหน ถ้าหากใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นประจำ
7. การอำนวยความสะดวกส่วนกลางมีอะไรบ้าง
การอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆไม่ว่าจะเป็น ฟิตเนส สระว่ายน้ำ ห้องสมุด สวนหย่อม ร้านกาแฟ ตลอดจน กล้อง CCTV และการรักษาความปลอดภัยต่างๆ ก็เป็นหนึ่งใน Option ในการเพิ่มมูลค่ารวมถึงเป็นปัจจัยนึงในการตัดสินใจอีกเช่นกัน
8.ค่าบำรุงรักษาส่วนกลาง คอนโด
ค่าบำรุงรักษาส่วนกลางก็เป็นอีกปัจจัยนึงที่ ไม่ควรมองข้าม คือเงินของลูกบ้านไปเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารส่วนต่างๆที่เป็นส่วนรวมของโครงการ เพราะเมื่อคิดตามสัญญาข้อตกลงต่างๆแล้ว ค่าบำรุงรักษาส่วนกลาง เมื่อเราเข้าไปอยู่จะคุ้มค่าหรือไม่
ซึ่งแต่ละแห่งจะไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับสิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการ การทำความสะอาด มีความสม่ำเสมอหรือไม่ เนื่องจากค่าบำรุงรักษาส่วนกลางจะคิดตามจำนวนตารางเมตรในห้องคอนโดที่เราตกลงซื้อ อย่างเช่นถ้าคอนโดคิดค่าส่วนกลางตารางเมตรละ 30 บาท แล้วเรามีห้องขนาด 35 ตารางเมตร ก็เท่ากับว่าต้องจ่ายค่าส่วนกลาง 30*35 = 1,050 บาท/เดือน หรือถ้าคิดเป็นรายปีก็จะเท่ากับ 1050*12 = 12,600 บาท/ปี โดยทั่วไปแล้ว
ค่าส่วนกลางจะอยู่ประมาณตารางเมตรละ 30-50 บาท ตามทำเลและสิ่งอำนวยความสะดวก
9. จำนวนยูนิตร้านค้า Mixeed – Use หรือบริการ
ในลำดับนี้ จะสอดคล้องกับค่าส่วนกลาง มีร้านค้าอำนวยความสะดวกมากน้อยแค่ไหนในกรณีนี้ หมายถึงร้านค้าภายนอก ไม่รวมกับส่วนกลาง มีการแบ่งคิดค่าใช้จ่ายรวมกันกับยูนิตที่พักอาศัยหรือแยกจากกันหรือไม่อย่างไร เพราะอาจมีผลต่อค่าบำรุงรักษาส่วนกลาง ถ้าหากในโครงการแบ่งพื้นที่ร้านค้าไว้รวมเป็นส่วนเดียวกับส่วนกลางอาจจะทำให้ยอดค่าใช้จ่ายของเราเพิ่มขึ้นอีก
10.จำนวนลิฟต์
เป็นการมองไปที่โครงสร้างของโครงการถ้าหาก คอนโด นั้นเป็นโครงการที่เป็น High – Rise ที่เป็นตึกสูง และยูนิตมีจำนวน 300-500 ห้องขึ้นไป หลักการคิดสัดส่วนควรจะอยู่ที่ 100 ห้อง ต่อ ลิฟต์ 1ตัว หรือ (1:100) หรือในอัตราส่วนที่น้อยกว่านี้ยิ่งดี
เช่น 1:75เหตุผลที่เป็นเช่นนี้เพราะ หากเราเลือกซื้อ ในโครงการ ที่มีลิฟต์ ในอัตราที่ไม่สมดุลกันทำให้เราเสียเวลาในการรอลิฟต์นานในเวลาเร่งด่วน หากเป็นโครงการที่มีผู้พักอาศัยอยู่มากยิ่งไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด
ทางเข้าออกเป็นอย่างไรถนนหน้าโครงการ คอนโดของเรามีการจราจรแต่ละช่วงเป็นอย่างไร มีจุดกลับรถที่ใกล้ที่สุดอยู่ไกลแค่ไหน
การเดินทางโดยสารผ่านขนส่งมวลชนอย่างรถไฟฟ้า ทางเดินจากหน้าโครงการจนถึงสถานีมีความปลอดภัยหรือไม่อย่างไร ระยะทางไม่เปลี่ยวและไกลจนเกินไป เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เรานำมาเป็นปัจจัยในการพิจารณาเลือกซื้อคอนโดเป็นแค่ปัจจัยหลักๆที่เรามองว่าเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงในลำดับแรกๆ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความคิดเห็นของผู้พักอาศัยด้วย สุดท้าย NANASARANEWS หวังว่าข้อมูลข้างต้นนี้จะมีประโยชน์ต่อผู้อ่านทุกท่านนะครับ
อ่านความรู้สาระดีๆได้ที่นี่ https://bit.ly/3xh9uxO
โฆษณา