ในฐานะผู้ผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารประเภทแป้งรายใหญ่รายนึง ทางบริษัทไทยวานั้นทราบดีถึงความสำคัญของเหล่าเกษตรกรที่มีต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย เพื่อเป็นการฉลองวันสิ่งแวดล้อมโลกประจำปี 2022
เราจึงอยากแบ่งปันประสบการณ์ในการใช้ไอเดียต่างๆด้านความยั่งยืนและนวัตกรรมด้านการเกษตรเพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของเหล่าเกษตรกรคนสำคัญของเรา เพราะเราเชื่อว่าเกษตรกรคือกุญแจสำคัญที่จะนำความยั่งยืนมาสู่อุตสาหกรรมเกษตรและอาหารในอนาคต
ถึงแม้จะมีโครงการด้านความยั่งยืนและรักษาสิ่งแวดล้อมมากมายกับพาร์ทเนอร์หลายๆทีม วันนี้เราขอแชร์เกี่ยวกับโครงการที่ได้ทำกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) หรือ NSTDA ในปี 2021 ซึ่งสำหรับโครงการนี้เราได้ใช้พื้นที่ ทุ่งกุลาร้องไห้ ซึ่งเป็นที่ราบขนาดใหญ่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นฐานการดำเนินการ
โดยมีเป้าหมายว่าต้องการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรในพื้นที่ และ ทำให้พวกเขามีรายได้เพิ่มขึ้นเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางโอกาส ซึ่งไทยวาจะมีการนำความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาแบ่งปันกับเกษตรกรมากมาย
อาทิ การใช้ประโยชน์จากถั่วเขียว เนื่องจากโดยปกติแล้วพื้นที่เพาะปลูกจะถูกทิ้งร้างเป็นเวลากว่า 8 เดือนหลังจากการเก็บเกี่ยวข้าวผ่านไป ทางไทยวาจึงแนะนำให้มีการหว่านเมล็ดถั่วเขียวต่อเลยเพื่อให้ได้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่เพาะปลูกอย่างเต็มที่ อีกทั้งถั่วเขียวยังช่วยให้ดินนั้นอุดมสมบูรณ์มากขึ้นและสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านปุ๋ยเคมีแบบยั่งยืนได้อีกด้วย
มีเกษตรกรกว่า 500 คนเข้าร่วมโครงการในครั้งนี้และหลังจากจบโครงการเราพบว่าเกษตรกรมีรายได้เฉลี่ยเพิ่มขึ้นถึง 2,200 บาทต่อไร่เลยทีเดียว
ซึ่งทำให้เหล่าเกษตรกรสามารถดำเนินชีวิตต่อได้อย่างยั่งยืนอย่างแท้จริง โครงการนี้ประสบความสำเร็จอย่างมากจนทาง NSTDA ตกลงดำเนินการโครงการฉบับใหญ่ขึ้นให้ครอบคลุมบริเวณทุ่งกุลาร้องไห้ของทั้ง 5 จังหวัด โดยภายในเวลา 3 ปี เราคาดหวังว่าจะได้เห็นเกษตรกรกว่า 50% ในบริเวณทุ่งกุลาร้องไห้สามารถก้าวข้ามเส้นแบ่งความยากจนได้ และ เห็นเกษตรกรกว่า 20,000 มีอิสระในการเข้าถึงข้อมูลต่างๆมากขึ้นเพื่อช่วยให้สร้างผลผลิตที่ดีขึ้นเรื่อยๆ
นอกจากโครงการนี้กับ NSTDA แล้ว ไทยวายังมีโครงการด้านเกษตรกรรมแบบยั่งยืนอีกมากมาย ทั้งที่ทำกับ มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ และ สภาเกษตรกรจังหวัดตาก เพื่อช่วยให้ความรู้เกษตรกรเกี่ยวกับนวัตกรรมใหม่ๆและวิธีการทำการเกษตรอย่างยั่งยืน
รวมถึงการให้โอกาสเกษตรกรรุ่นใหม่ได้มีพื้นฐานทางธุรกิจเพื่อกลับมาพัฒนาบ้านเกิดอีกด้วย เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ในวันนี้ จะเป็นการปูทางไปสู่อนาคตที่ยั่งยืนและยุติธรรมสำหรับอุตสาหกรรมเกษตรของไทยในวันข้างหน้า