เงินเฟ้อไทย 7.1% สูงสุดในรอบ 14 ปี
รู้ไหมว่า ถ้าเรามีรายได้เท่าเดิม เราจะจนลง 7.1%
เพราะคำว่าเงินเฟ้อ แปลว่าสินค้าราคาแพงขึ้น
ถ้าเรามีรายได้เท่าเดิม ก็แปลว่าเราซื้อสินค้าได้น้อยลง
และนั่นก็หมายความว่า เราจะจนลง 7.1%
เงินเฟ้อในครั้งนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในประเทศไทย
แต่มันกำลังเกิดขึ้นทั่วโลก
แล้วมันน่าเป็นห่วงอย่างไร ลงทุนแมนจะสรุปให้ฟัง
วันนี้กระทรวงพาณิชย์ ประกาศตัวเลขเงินเฟ้อเดือนพฤษภาคม ซึ่งสูงกว่าระดับที่ตลาดคาดการณ์เอาไว้ และเรียกได้ว่าสูงสุดนับตั้งแต่ปีวิกฤติซับไพรม์ในปี 2008
โดยเป็นผลมาจากราคาสินค้ากลุ่มพลังงานปรับตัวสูงขึ้นตามราคาโลก รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภค
โดยเฉพาะอาหารสดและอาหารสำเร็จรูป ก็ได้ปรับตัวสูงขึ้นตามต้นทุนการผลิต และการขนส่ง
ในขณะเดียวกัน คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ก็ยังมีมติให้ปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซล จาก 33 เป็น 34 บาทต่อลิตร มีผลตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป
เนื่องจากราคาน้ำมันอ้างอิงในตลาดดูไบ ปรับตัวขึ้นสูงมากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
และกองทุนน้ำมันอุ้มไม่ไหว โดยล่าสุดติดลบอยู่ราว 8.6 หมื่นล้านบาทแล้ว
การปรับขึ้นราคาของน้ำมันดีเซล ซึ่งเป็นต้นทุนหลักของการขนส่งในประเทศ
ก็จะยิ่งทำให้ต้นทุนการขนส่งของทุกธุรกิจสูงขึ้นไปอีก
และทำให้ ต้นทุนทั้งหมดที่กล่าวมา ก็มีแนวโน้มจะถูกผลักมาหาผู้บริโภค
พูดง่าย ๆ ก็คือ ต้นทุนในการใช้ชีวิตของคนไทยจะสูงขึ้นอีกในอนาคต
จริง ๆ แล้ว เงินเฟ้อมักจะเกิดขึ้นในยามที่เศรษฐกิจดี
แต่ในเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่เศรษฐกิจชะลอตัว แต่กลับมีเงินเฟ้อ
สาเหตุสำคัญก็คือ สงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน และหลายประเทศร่วมกันคว่ำบาตรสินค้าของรัสเซีย ซึ่งรวมถึงน้ำมันด้วย ที่รัสเซียถือว่าเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ เมื่อความต้องการน้ำมันมีเท่าเดิม แต่ของมีให้ซื้อน้อยลง มันก็เลยส่งผลให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้น
ซึ่งนอกจากน้ำมัน รัสเซียก็ยังมีสินค้าที่เป็นปัจจัยการผลิตที่สำคัญ เช่น ปุ๋ย ส่วนยูเครนก็เป็นประเทศที่สำคัญในการผลิตอาหาร เช่น ข้าวสาลี
นอกจากนั้นก็ยังมีปัญหาเรื่องซัปพลายเชนที่มีปัญหาในประเทศจีน ทำให้การส่งออกสินค้าไปทั่วโลกหยุดชะงัก ซึ่งทุกคนก็รู้ดีว่าจีนเปรียบเสมือนเป็นโรงงานของโลก และสินค้าจากจีนก็เป็นวัตถุดิบที่สำคัญในการผลิตสินค้าทั่วโลก
สำหรับประเทศไทยนั้น ก็ได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งราคาวัตถุดิบ และราคาเชื้อเพลิง ต่างปรับตัวสูงขึ้นตามตลาดโลก ทำให้ผู้ผลิตต่างพากันแบกรับต้นทุนไม่ไหว จนต้องปรับขึ้นราคาสินค้าตาม
ผู้ที่ได้รับผลกระทบก็ดูเหมือนว่าจะเป็นคนไทยที่มีรายได้น้อย ที่สินค้าอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวันที่ปรับตัวขึ้นแม้เพียงเล็กน้อย แต่ก็ถือเป็นสัดส่วนที่มากเมื่อเทียบกับรายได้
ที่สำคัญคือ เงินเฟ้อน่าจะสูงขึ้นกว่านี้อีกถ้ารัฐบาลไม่ได้อุดหนุนราคาสินค้าบางอย่างเอาไว้ เช่น การอุดหนุนน้ำมันดีเซลของกองทุนน้ำมัน ที่ตอนนี้กองทุนน้ำมันถึงขั้นติดลบเกือบแสนล้านบาท และต้องกู้เงินมาอุดตรงนี้
นั่นหมายความว่า เมื่อราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลง คนไทยก็ต้องทำใจไว้เลยว่า ราคาน้ำมันที่เราใช้กันอยู่จะไม่ปรับตัวลงตามในทันที เพราะต้องกันส่วนหนึ่งไปใช้หนี้ในกองทุนน้ำมันที่ตอนนี้ติดลบหนักอยู่
ถ้าใครคิดว่าเงินเฟ้อเป็นเรื่องไกลตัว และไม่เกี่ยวกับเรา
อาจต้องปรับตัว ทำความเข้าใจ และต้องเริ่มยอมรับว่า
ราคาสินค้าที่เรากำลังซื้อ ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม เสื้อผ้า และของใช้ มันอาจเป็นราคาสุดท้ายที่เราได้เจอ ก่อนที่มันจะแพงขึ้นกว่านี้..
หนังสือ BRANDING THE NATION หนังสือที่เล่าถึงการสร้างแบรนด์ของแต่ละประเทศที่ทำให้ แต่ละประเทศเป็นแบบทุกวันนี้
เช่น ทำไมเยอรมนีเป็นประเทศแห่งรถยนต์ ทำไมฝรั่งเศสเป็นประเทศแห่งแบรนด์หรู สั่งซื้อเลยที่
- 184
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
