7 มิ.ย. 2022 เวลา 01:55 • การตลาด
1. ไม่มีทางเป็นไปได้ในโลกแห่งความจริง ผลิตเงินออกมาแจกคนทุกคนในโลก โลกจะวุ่นวาย เงินจะกลายเป็นเศษกระดาษ ขาดความน่าเชื่อถือ ไม่มีมูลค่า แม้แต่กระดาษทิชชู่ก็จะแพง เพราะเขาจะไม่รับเงิน การค้าขายจะเปลี่ยนไปในรูปแบบอื่นที่ไม่ใช้เงิน อาจจะเป็นทองคำหรือ barter trade ทุกคนไม่ใช่คนรวย แต่จะเป็นคนจนกันหมดทั้งโลก ต่างแย่งชิงทรัพยากร ด้วยการทำสงคราม
2. การที่ทุกคนในโลกมีเงินเท่ากันหมด นั่นหมายความว่าไม่มีคําว่ารวยหรือจน สมมติว่าตัดหลักเศรษฐศาสตร์ออกไป ไม่มีเงินเฟ้อ ข้าวของราคาปรกติ ( สมมติ ) โลกก็จะเกิดความวุ่นวายอยู่ดี เพราะจะไม่มีคนทํางานในงานที่คนไม่อยากทำ เช่น เก็บขยะ ล้างจาน ใช้แรงงาน แบกข้าวสาร ทําประมง หรือพนักงานเซเว่นอย่างที่คุณบอก สู้นอนกระดิกเท้าอยู่บ้านไม่ดีกว่าหรือ กิจกรรมทางเศรษฐกิจจะหยุดชงัก เพราะกลไกลมันไม่ทํางาน
เหมือนระบบเครื่องยนต์ ที่เกียร์มันหยุดทํางาน เพราะมันขี้เกียจ รถยนต์ก็วิ่งต่อไปไม่ได้ ดังนั้นอาชีพที่คนไม่อยากทํา ก็จะมีมูลค่าค่าแรงสูงมาก อาจจะสูงกว่าหมอ หรือวิศวกร ซึ่งบังคับให้กลไกทางเศรษฐศาสตร์มันทํางาน โดยอัตโนมัติ อาชีพอื่นรายได้จะตํ่า ทําให้เกิดคําว่ารวยหรือจนขึ้นมาอีก ทั้งนี้ ถ้ามีคนพิเรนทร์ปั๊มเงินมาแจกให้คนทั้งโลกอีก โลกก็จะกลับไปวุ่นวายเหมือนในข้อ 1.
3. โลกที่คุณกล่าวถึง คือโลกแห่งความเท่าเทียม ที่ใช้เงินเป็นตัวจัดการ ที่ไม่มีอยู่จริง ในความใกล้เคียงก็จะเป็นระบบสังคมนิยมหรือคอมมิวนิสต์กลายๆ ที่รวมศูนย์ทรัพยากร แล้วกระจายให้ทั่วถึงคนทั้งประเทศโดยรัฐ อีกส่วนหนึ่งที่มีอยู่จริงเป็นโลกพระศรีอริยเมตไตรย์ ที่ทุกคนไม่ใช้เงินใช้ทอง ไม่ยึดติดในตัววัตถุสิ่งของ คุณค่าต่างๆอยู่ที่จิตใจ ดังนั้นความคิดจะเป็นเหมือนเงินที่ใช้บันดาลสิ่งต่างๆ
โฆษณา