7 มิ.ย. 2022 เวลา 05:15 • นิยาย เรื่องสั้น
เมื่อฉันโกรธจนแทบจะร้องไห้
ไม่โกรธมานานมาก หงุดหงิดไม่นับ เพราะว่ามันไม่เหมือนกัน
หงุดหงิดก็แค่บ่น แต่โกรธก็การอยากจะพังมันไปกันซะข้างนึง
ฉันไปกินข้าว กินเสร็จเวลาเลิกเรียน ลานจอดรถแน่น
รถจอดปิดกันไปมา
แน่นอนว่า รถฉันออกไม่ได้ เพราะว่ารถอยู่ตรงกลาง ข้างหลังมีรถ ข้างหน้าก็มีจอดปิด
เบอร์ติดต่อก็ไม่มี เข็นก็ไม่ได้ ต่อให้โทรหาคันข้างๆมาเลื่อนให้ก็ออกไม่ได้อยู่ดี
แล้วไง ทำไรไม่ได้ รอสิ เดี๋ยวเค้าคงมา ถ้ามารับลูกเดี๋ยวก็กลับมา
เลยนั่งคิดงานรอ
1 ชั่วโมง
2 ชั่วโมง
ทนไม่ไหวแล้วโว้ยยยยยยยยย
เดินไปตลาดเผื่อว่าเป็นผู้ขาย
เดินไปถามร้านที่ 1 ถามว่าพี่ พอรู้ไหมว่านี่รถใคร
ร้านที่ 1 เดินไปร้านที่ 2 ถามว่าพี่นี่รถใคร
ร้านที่ 2 เฉลย "เข้าไปล๊อคนี้เลยน้อง ร้านเค้าอยู่สุดทาง ร้านขายข้าว 20 บาทหน่ะ"
โอเค เจอแล้ว
เดินตามคำบอก เจอร้าน
ถามว่าพี่นี่รถพี่ไหม เลื่อนรถให้หน่อยได้ไหม ออกไม่ได้
เค้าหันมามองฉัน มองลูกค้า แล้วบอกร้องว่า โอ๊ะ!
ชั่ววินาทีนึงก็หันมาบอกว่า
" เข็นออกได้ครับ รถผมไม่ได้ใส่เกียร์"
.... ห่ะ
ย้ำกันอีกรอบ
เราต้องเข็นออกแล้วเข็นกลับงั้นเหรอ
นางบอกว่า "ครับ!! ก็ต้องเป็นงั้นครับ ผมไม่สะดวก"
หอยหลอดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!! ก็เข็นไม่ไปไง
แน่นอนว่าอารมณ์พุ่งปรี๊ดอยากจะด่า
"ทำไมเมิงไม่เขียนไว้ว่าเข็นได้" "ทำไมไม่ทิ้งเบอร์ไว้"
แน่นอนเค้าคงบอกว่าไม่ใส่ park แล้วไง
มองหน้าแล้วเดินออกมา เพราะว่าชั่วจังหวะที่คิดว่าจะด่า
ก็ถามตัวเองว่าด่าแล้วจะได้อะไร มันจะไปช่วยเลื่อนรถไหม ก็คงไม่
เดินออกมาอแบบหงุดหงิด 1st shot
เดินกลับมารถ เข็นด้วยความยากลำบาก ไม่มีใครช่วย
รถเก่าและหนัก
โมโหมากจนปาของใส่รถ แน่นอนว่ารถไม่เป็น HA ไรเลย
เข็นต่อไป 2nd shot
แม่ง เข็นเเม่งทั้งไว้นี่แหละ ฉันออกได้จะไปแล้ว
อ้าว!
มีรถต่อมา
อ่ะ ถ้ากูไม่เข็นกลับ เค้าลำบากอีก
ก็ต้องเข็นกลับให้แม่ง 3rd shot
....
โว้ย!!!!!!!
หงุดหงิดแทบจะทนไม่ไหว บอกเลยว่าถ้าเค้าขายไม่ดีก็เพราะแรงพยาบาทของฉันนี้แหละ
กลับบ้านมาถามตัวเองว่า จะหงุดหงิดทำไม
ทำไมไม่ด่าให้จบๆ
ก็พบว่า อ้อ เราแม่งหน้าบางเดินไปนี่เอง
นี่อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของการโตเป็นคนแก่
ด่าไปแล้วได้อะไร ด่าไปแล้วเค้าก็ขายของ เค้าต้องเลือกเงินก่อนเลื่อนรถถูกแล้ว
เลื่อนรถทิ้งไว้ ต้องเลื่อนกลับสิเพราะว่าคนอื่นเค้าลำบาก
คราวนี้รู้เลยว่า เวลาเราเห็นคนที่เห็นใจคนอื่นตลอดเวลาเเม่งระเบิดลงเพราะอะไร
เพราะว่าเเม่งเกิน limit แล้วนี่เอง
แน่นอนนี่ไม่ใช่เรื่องของการมีมารยาท หรือว่าคงภาพลักษณ์ หรือว่าความเป็นผู้ดี
มันเป็นเพียงแค่ความวัด cost-benefit เปรียบเทียบกัน
ทำแล้ว benefit ของฉันจะมาไหม ฉันจะออกจากที่จอดรถเร็วขี้นไหม เปล่า
อ่ะ งั่นก็ไม่ทำ
แต่ แต่
หอยหลอดเอ๊ย
หงุดหงิด ship หาย
โฆษณา