อุตสาหกรรมเกม เป็นอะไรที่มากกว่าคำว่า “นั่งเล่นเกม”🎮
เพราะ Ecosystem ของธุรกิจเกมเติบโตสูงมาก เฉลี่ย 20% ต่อปี
และเด็กรุ่นใหม่ก็นิยมเล่นเกมกันมากขึ้น จนถึงขนาดว่ารัฐบาลจีนออกกฎหมายควบคุมการเล่นเกมของเยาวชน ในธุรกิจที่โตเร็วเช่นนี้ ถ้าเราอยากจะเป็นส่วนหนึ่งก็เพียงแค่เข้าไปซื้อหุ้น แต่เราในฐานะนักลงทุนไทย
จะหาซื้อหุ้นเกมไม่ใช่เรื่องง่าย แล้วแบบนี้เราพอจะมีวิธีไหนได้บ้าง มาติดตามกัน
🎮ลงทุนใน "หุ้นเกม"
บทความจากคอลัมน์ "StreetSmart เปิดโลกตลาดหุ้น" บนแอป 2read
ธุรกิจเกม... แค่ฟังชื่อเราก็อาจจะสงสัยแล้วว่า มันทำเงินได้ด้วยเหรอ
มันทำเงินได้ครับ และอุตสาหกรรมเกมก็เติบโตขึ้นมากด้วย
จากข้อมูลของ Newzoo มีตัวเลขชี้ชัดว่าในปี 2019 มูลค่าตลาดเกมอยู่ที่ 1.46 แสนล้านดอลล่าร์ และคาดว่าในปี 2023
ตลาดเกมจะใหญ่ราวๆ 2.18 แสนล้านดอลล่าร์
นั่นหมายความว่าการเติบโตจะอยู่ที่ 20% ต่อปี ถือว่าสูงมาก
ฟังแล้วอาจจะคิดว่าเป็นเรื่อง "เหลือเชื่อ" แต่มันได้เกิดขึ้นจริงๆ
ถามว่าสาเหตุที่ทำให้อุตสาหกรรมเกมเติบโตได้มากขนาดนี้
🎮หลักๆ มาจาก 5 ปัจจัยด้วยกัน คือ
1. การเข้ามาของเทคโนโลยีใหม่ๆ ราคาถูกลง และมีความสมจริงมากขึ้น
ในอดีตการเล่นเกมมีต้นทุนที่สูง ถ้าบ้านไม่รวยจริงเป็นเรื่องยากมากที่จะเล่นเกม
แต่ปัจจุบัน การเข้าถึงเครื่องเล่นเกมมีราคาถูกมาก ราคาเกมก็ไม่แพง สามารถซื้อออนไลน์และเล่นออนไลน์ เข้าถึงผู้เล่นพร้อมกันทั่วโลก
2. ธุรกิจโมบายเกมมิ่งหรือเกมมือถือ ที่เข้าถึงคนได้มากขึ้น
แค่มีสมาร์ทโฟนก็สามารถดาวน์โหลดเกมมาเล่นกันฟรีๆ ได้เลย (Free to Play) ทำให้ดึงดูดผู้เล่นเกมรายใหม่ๆ ได้มาก
ซึ่งถ้าเรานับเฉพาะธุรกิจเกมมือถือจริงๆ จะมีมูลค่าตลาดในปี 2021 สูงถึง 9.3 หมื่นล้านดอลล่าร์ เติบโตมากถึง 52% จากปี 2020 โดยเฉพาะประเทศจีนที่วัยรุ่นเล่นกันทั้งวันทั้งคืน จนรัฐบาลออกมาสั่งควบคุมอย่างที่เป็นข่าวในปัจจุบัน เพราะเชื่อว่า "เกม คือ ฝิ่น"
3. เกมคือพื้นที่ของคนรุ่นใหม่ ที่สามารถสร้างงาน สร้างเงิน
ในสมัยก่อน การเล่นเกมคือเรื่องไร้สาระ เป็นเรื่องของการเสียเงิน
แต่การเล่นเกมในปัจจุบัน เราสามารถแชร์บนโลกออนไลน์ สร้างผู้ติดตาม สร้างเครือข่ายเป็นของตัวเอง เกิดเป็นอาชีพใหม่ๆ รับสปอนเซอร์ ทำโฆษณาในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง
เป็นการเปิดโอกาสให้กับเด็กรุ่นใหม่เริ่มทำงานตั้งแต่อายุยังน้อยจากสิ่งที่ตัวเองชอบ
🎮4. การทำเป็นอาชีพ สร้างเงินมหาศาลในวงการ E-Sport ได้ตั้งแต่อายุยังน้อย
เชื่อหรือไม่ว่า คนที่เล่นเกมเป็นอาชีพ มีสปอนเซอร์ มีผู้ติดตาม มีการแข่งขันแบบเป็นเรื่องเป็นราวที่เรียกกันว่าวงการ E-Sport เป็นการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่สร้างเงินมหาศาลได้ตั้งแต่อายุยังไม่มาก
อ่านมาถึงตรงนี้ เราอาจจะเริ่มรุ้สึกว่า "ธุรกิจเกม" มีความน่าสนใจ
เราควรจะเข้าไปซื้อหุ้นเกม หรือบริษัทที่ทำเกี่ยวกับเกมใช่ไหม
คำตอบคือ ใช่ครับ แต่ข้อมูลแค่นั้นอาจจะไม่เพียงพอ
เราต้องเข้าใจถึงอุตสาหกรรมเกมให้มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น
🎮รู้หรือไม่ว่าธุรกิจเกมมีขนาดใหญ่กว่าธุรกิจภาพยนตร์และธุรกิจดนตรีรวมกันซะอีก
🎮ปัจจุบันอุตสาหกรรมเกม มีมูลค่าตลาดมากถึง 1.5 แสนล้านดอลลลาร์สหรัฐ สร้างรายได้สูงถึง 1.78 แสนล้านดอลลาร์ และในปี 2023 จะมีมูลค่าสูงถึง 2.18 แสนล้านดอลลาร์
🎮ธุรกิจเกมมี "Ecosystem" ที่ใหญ่มาก ไม่ใช่เรื่องของการเล่นเกมหรือขายเกมอย่างเดียว แต่รวมไปถึงระบบ Cloud Service ระบบเกมในมือถือ เติมเงินเพื่อซื้อไอเทมในเกม อุตสาหกรรมอีสปอร์ต อุตสาหกรรมสตรีมมิ่ง Virtual Reality อุปกรณ์เพื่อการเล่นเกม
ยังไม่นับรวมระบบ "Subscription" ที่ทาง Microsoft กำลังทุ่มงบมหาศาลให้กับการสมัครสมาชิกเล่นเกมรายเดือนแบบไม่จำกัด ซึ่งทาง Microsoft ออกมาบอกเองว่าตอนนี้มีผู้ใช้บริการอยู่ราวๆ 25 ล้านคนทั่วโลก เติบโตสูงถึง 38% ในปี 2020-2021
🎮อุตสาหกรรมนี้ยังเติบโตได้อีกมาก โดยปัจจุบันคนเล่นเกมมีราวๆ 40% ของประชากรโลก และคนรุ่นใหม่ที่เกิดมานิยมเล่นเกมมากขึ้น เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ราคาถูกลง เข้าถึงคอมมูนิตีกับผู้อื่นง่ายๆ ด้วยการเล่นเกม
ประเด็นคือ เราในฐานะที่เป็นนักลงทุนคนไทย
อยากจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจเกมบ้าง
แต่ตลาดหุ้นไทยหาหุ้นเกมได้ยากเหลือเกิน พอจะมีวิธีบ้างไหม?
คำตอบคือ มีครับ วิธีที่ง่าย ใช้เงินไม่สูง
และสามารถซื้อผ่านโปรแกรมซื้อ-ขาย Streaming ได้เลย
คือการเข้าซื้อกองทุน ETF ที่มีชื่อว่า "UHERO"
กองทุน UHERO ที่ลงทุนในหุ้นเกมโดยเฉพาะ Source : hoonsmart.com
กองทุน UHERO เป็นกองทุนที่อยู่ภายใต้การดูแลของ UOB Asset Management ที่จะเอาเงินลงทุนของเราไปซื้อหน่วยลงทุนของ Global X Video Games & Esports ETF (หรือที่ใช้ตัวย่อในตลาด NASDAQ ว่า "HERO") ที่ลงทุนเฉพาะหุ้นที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเกมอย่างเดียว
เช่น ผู้ผลิตเกม ค่ายเกม ผู้ผลิตคอนเทนต์เกี่ยวกับเกม Social Streaming Platforms ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ E-Sport และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Virtual Reality (VR)
หุ้น 10 อันดับแรกที่กองทุนถืออยู่ เช่น
Source : https://www.globalxetfs.com/funds/hero/
1. ACTIVISION BLIZZARD เจ้าของเกมที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง Call of Duty เมื่อไม่นานมานี้วอร์เรน บัฟเฟตต์ ได้เข้าซื้อหุ้น ก่อนที่จะมีข่าวการซื้อกิจการของ Microsoft ซึ่งการเข้าซื้อก็เป็นการการันตีได้ว่า วงการเกมยังไปได้อีกไกล
2. ELECTRONIC ARTS เจ้าของเฟรนไชส์เกมที่ประสบความสำเร็จ เช่น FIFA, The Sims และยังได้ร่วมมือกับ Disney เพื่อสร้างเกมที่ทำมาจากภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จอย่าง StarWars
3. NEXON, NETEASE ผู้ผลิตเกมมือถือที่เติบโตสูงมาก
4. NINTENDO เจ้าของเครื่องเล่นเกม Nintendo Switch และเฟรนไชส์เกมที่ประสบความสำเร็จมายาวนานอย่าง Mario ที่ได้กลายเป็นมาสคอตประจำชาติของญี่ปุ่นไปแล้ว
บริษัท Nintendo เจ้าของเฟรนไชส์เกม Mario ที่ฮิตกันทุกยุคทุกสมัย Source : www.pexels.com
5. KONAMI, EMBRACER, UBISOFT, KRAFTON ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ผลิตเกมที่แต่ละค่ายก็มีเฟรนไชส์เกมประสบความสำเร็จด้วยเหมือนกัน
เราอาจจะสงสัยว่า ทำไมมีแต่ค่ายเกม ผู้ผลิตเกมอย่างเดียว
ซึ่งถ้าเราเลื่อนลงไปดู จะเห็นความหลากหลายของอุตสาหกรรมเกมมากขึ้น เช่น
6. Bilibili, KAKAO, DOUYU ทำธุรกิจ Social Streaming Platforms ที่มีคนเข้าไปดูหลายสิบล้านคนต่อวัน
อย่าง Bilibili แพลตฟอร์มของจีนมีคนใช้บริการเฉลี่ย 72 ล้านคนต่อวัน จนทางการจีนต้องออกมาควบคุมการดูของเยาวชน เพื่อให้เยาวชนมีเวลาไปทำอย่างอื่นบ้างไม่ใช่ดูเกม เล่นเกมเพียงอย่างเดียว
7. Corsair Gaming, Turtle Beach Corp. ทำธุรกิจอุปกรณ์เพื่อการเล่นเกม เช่น เมาส์ คียบอร์ด อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ หูฟังเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ
8. ROBLOX เจ้าของเกม ROBLOX เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการสร้างเกมต่ออีกทีหนึ่ง ว่ากันว่าในช่วงโควิด-19 มีเด็กจำนวนมากใช้เวลาไปกับเกม ROBLOX เพื่อสร้างเกม มีการใส่ไอเดียแปลกใหม่ลงไปทำให้ค่ายเกมหลายๆ แห่งขอซื้อต่อในมูลค่าหลายสิบล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อนำไปพัฒนาต่อ เมื่อไม่นานมานี้ทางผู้ผลิตเกม ROBLOX ออกมาแสดงความเห็นว่า ก้าวต่อไปคือ การนำ ROBLOX ก้าวเข้าสู่ธุรกิจ VR และ Metaverse ต่อไป
จะเห็นได้ว่าธุรกิจเกม เป็นมากกว่าการนั่งเล่นเกมไปแล้ว...
เพราะเกมมี Ecosystem ที่ยังขยายได้อีกเยอะ ทั้งในเรื่องของการสรรสร้างไอเดียแปลกใหม่ การโฆษณา ธุรกิจอีสปอร์ต ยังไม่นับรวมว่าเด็กรุ่นใหม่ที่กำลังเติบโตมาจะนิยมเล่นเกมมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจดูมีความน่าสนใจก็จริง แต่บรรทัดสุดท้ายที่เราจะต้องตัดสินว่าควรลงทุนหรือไม่ อยู่ที่ราคาที่เราซื้อ เพราะการลงทุนที่ดี แต่ถ้าเราซื้อในราคาแพงเกินไป ย่อมไม่ใช่การลงทุนที่ดี
ถ้าเราไปดูราคาย้อนหลังของกองทุน Global X Video Games & Esports ETF ลดลงค่อนข้างมาก โดยผลตอบแทนในรอบ 1 ปี -29% ผลตอบแทนในรอบ YTD -18% สอดคล้องกับหน่วยลงทุน UHERO ที่ลดลงราวๆ -27%
การลดลงค่อนข้างมาก อาจจะมีสาเหตุเรื่องของหุ้นเทคโนโลยีหลายๆ ตัวที่ถูกเทขายมาตั้งแต่ช่วงต้นปี แสดงให้เห็นว่าตลาดมองหุ้นที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเกม ก็คือหนึ่งในหุ้นเทคโนโลยีด้วย นั่นเอง
ราคาหน่วยลงทุน UHERO ลดลงมากกว่า 28% Source : google
ดังนั้น ถ้าใครมองว่าการร่วงลงอย่างรุนแรงของหุ้นเทคโนโลยีเป็นโอกาสในการเข้าลงทุน น่าจะมองธุรกิจเกมเป็นตัวเลือกแรกๆ เพราะการเติบโตที่สูงทั้งตัวอุตสาหกรรมเกม และจำนวนคนที่เข้ามาเล่นเกมก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ที่สำคัญราคาหน่วยลงทุนที่ร่วงลงมา จากราคาประมาณ 10 บาท
เหลือเพียง 9.18 บาท ถือเป็นอีกกองทุน ETF ที่เราไม่ควรมองข้าม
เรื่องโดย : นักลงทุนเงา
เติมอาหารสมองและพลังใจด้วยคอนเทนต์สาระจาก 2read
กดถูกใจ กดติดตามเพจ กดไลค์โพสต์นี้ให้เราด้วยนะคะ 👍
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
