8 มิ.ย. 2022 เวลา 08:40 • นิยาย เรื่องสั้น
ฟุ้ง
Photo by Dan Gold on Unsplash
ฟุ้งเลื่อนหน้าจอมือถือของตัวเอง สายตามองหาสิ่งที่เธอต้องการ ‘ต้องมีคนเอามาขายต่อบ้างแหละ’ เธอหวังให้เป็นอย่างนั้น เพราะเหนื่อยกับการตามหาสิ่งที่ต้องการแล้วไม่ได้มาสามวันแล้ว
ฟุ้งเป็นสาวออฟฟิศนักช็อปของลดราคา แต่ด้วยรายได้ทำให้เธอมีข้อแม้กับตัวเองว่า อะไรที่ราคายังเกินกว่าห้าร้อยบาทถือว่าแพง แต่ละวันการเสาะหาโปรโมชั่นหรือของถูกใจราคารับได้ในอินเทอร์เน็ตเป็นสิ่งที่โปรดปรานที่สุด
ไม่นานมานี้เธอเพิ่งเข้ากรุ๊ป ‘กลุ่มสะสมแก้วกาแฟ’ ของร้านกาแฟแบรนด์หนึ่งที่ขึ้นชื่อว่ามีราคา แต่ก็มีแก้วลวดลายน่ารักออกมายั่วใจลูกค้าให้ซื้อเสมอ กลุ่มนี้มีการซื้อขายแก้วกาแฟในราคาต่ำกว่าร้านค้า เพราะสมาชิกหลายคนได้โปรโมชั่นพิเศษจากยอดการกินกาแฟมา แล้วพวกเขาก็มักจะเหมาซื้อมาขาย หรือบางทีร้านเพิ่งเปิดโปรโมชั่นลดราคาแบบทันทีทันใด
ลูกค้าไม่ประจำอย่างฟุ้งก็ไปยื้อแย่งแก้วลดราคาตามคนกลุ่มนี้ไม่ทันเสียแล้ว
วันหนึ่งฟุ้งออกมาช็อปปิ้งหลักเลิกงานตามเคย ระหว่างที่กำลังรอรถกลับบ้าน เธอเลื่อนมือถือเล่นดูนั้นดูนี่ แล้วก็สะดุดกับโพสต์ในกลุ่มที่ว่า ร้านกาแฟแบรนด์โปรดของเธอกำลังลดราคาแก้ว limited edition ที่เธอผ่านตาเห็นคนในกรุ๊ปเอามาโชว์กัน และโปรโมชั่นที่ว่าคือลดราคาถึง 50 เปอร์เซ็นต์ เวลานั้นฟุ้งอยู่ซื้อของอื่น ๆ อยู่ในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เธอจึงแวะเข้าไปร้านที่ว่าอย่างทันควัน
เธอรีบเดินไปที่ร้านและตรงไปที่ชั้นสินค้าทันที – ใช่แล้ว – ฟุ้งเห็นป้ายสีแดงเขียนว่า sale 50% off ‘สาขานี้คงไม่มีใครรู้จัก ไม่มีคนเลย’ ฟุ้งรีบเดินเข้าไปใกล้ เธอมองปราดเดียวก็เห็นว่า แก้วกาแฟ limited edition สีทองแดง รูปทรงแปลกตาที่เธอเคยเห็นและคิดว่าสวยว่าอยู่ตรงนั้นถึง 3 ใบ
ฟุ้งรีบคว้าแก้วใบนั้นไว้ ราวกับกลัวว่าใครจะมาแย่ง เธอพลิกที่ใต้ก้นแก้ว เห็นราคาบนป้ายเป็นตัวเลข 1,950 บาท ในหัวคิดคำนวณหารราคาลงครึ่งหนึ่งทันใด ‘ลดแล้วก็ยังเหลือเกือบพันสินะ’
ในใจเวลานั้นก็คิดว่าแพงอยู่สำหรับรายได้อย่างเธอ และเวลานี้ก็สิ้นเดือนเสียด้วย แต่ถ้าจะได้ครอบครองแก้วรุ่นพิเศษในราคานี้ คงไม่มีโอกาสอีกแล้ว ‘แต่มันเก็บความเย็นได้ด้วยนะ นี่แหละสมราคาแล้ว’ อีกใจรีบหาเหตุผลใหม่มาแย้ง
ฟุ้งรู้สึกอึดอัด อยากได้ก็อยากได้ แต่พอมองถุงช็อปปิ้งในมือ แล้วกดโทรศัพท์เช็คยอดเงินจากแอพธนาคารก็รู้ว่า ตอนนี้เงินในบัญชีของเธอเกือบหมดแล้ว กว่าเงินเดือนจะออกก็อีกเกือบสัปดาห์ ‘หรือจะรูดบัตรดีนะ’ เธอลังเลใจ เพราะยอดหนี้ในบัตรก็ไม่ใช่น้อย
ทุกเหตุผลที่เธอมีในเวลานั้นบอกว่าเธอไม่ควรซื้อในเวลานี้ ‘ซื้อไปก็อาจจะไม่กล้าใช้อยู่ดี ใช้แก้วถูก ๆ ที่มีไปก่อนก็ได้’ ฟุ้งถอดใจ แต่ก็ถือแก้วในมือไว้อีกสักพัก ทำเป็นมองแก้วใบโน้นใบนั้นเหมือนถ่วงเวลาให้ได้จับต้องของที่อยากได้นานอีกสักหน่อย
วินาทีนั้นเธอหาเหตุผลที่จะซื้อของราคาเป็นพันในวันที่เงินยังจะไม่พอใช้ไม่ได้ จึงตัดใจ วางมันหลบมุมไว้ เหมือนจะแอบไม่ให้ใครเห็น และมันอาจเล็ดรอดมาถึงมือสักใบ ถ้าเธอยังมีโอกาส
ฟุ้งว้าวุ่นใจมาก แต่กลับบ้านทำงานที่ต้องสะสาง ก็พอลืมไปได้ เธอวุ่นวายกับเรื่องอื่น ๆ ไปได้อยู่สี่วัน จนกระทั่งเงินเดือนออก
ความรู้สึกที่ว่า ‘ฉันมีเงินแล้ว’ พุ่งปะทะเข้ามาในใจ ภาพแก้วในวันนั้นเข้ามาในหัวทันที ความอยากได้รุนแรงพุ่งขึ้นมาอีกครั้ง เธออยากให้วันนี้หมุนไปอย่างรวดเร็วเพื่อไปดูแก้วใบนั้นที่ห้างสรรพสินค้าใกล้ที่ทำงานโดยพลัน เพราะใจที่อยากได้นั้นเรียกร้องอย่างรุนแรง
หลังเลิกงานฟุ้งพุ่งตัวออกไปทันที เธอกระวนกระวายระหว่างเดินทางไป ‘ฉันอยากได้ อยากได้ อยากได้’ ภาพในหัวที่เธอได้แก้วใบสีทองแดงทรงสวยมาครอบครอง เธอกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปยังร้านกาแฟนั้น ทันทีที่เปิดประตูเข้าไป มองที่ชั้นก็ไม่เห็นแก้วกาแฟแล้ว ‘แน่สิ ใครก็อยากได้แก้วพิเศษราคานี้’ ฟุ้งนึกเสียใจอย่างรุนแรง แต่ก็ไม่วายคิดหาทางออกที่จะเสาะหาแก้วใบนี้มาให้ได้
พรุ่งนี้เป็นวันหยุด เธอจะรีบออกไปหาแก้วกาแฟที่ว่า ในโซนที่มีร้านกาแฟนี้อยู่ใกล้กันหลายสาขา แน่นอนว่า เธอจะแอบไปคนเดียว เพราะถ้าใครรู้คงค้านเธอน่าดู ฟุ้งลิสต์สาขาที่จะไป และเธอลองโพสต์รูปแก้วกาแฟใบนั้นไว้ในกลุ่ม เผื่อจะมีใครเห็นว่ามีอยู่ที่ไหน หรือใครอยากส่งต่อในราคาที่เอากำไรสักหน่อยเธอก็สู้ แต่ทว่าก็ไม่มี รุ่งขึ้นเธอรีบตื่นแต่เช้า เข้าเมืองตะลุยหาแก้วกาแฟที่ว่านี้
สาขาแรกที่เธอไปถึง แก้วลดราคาบนชั้นแทบจะหมดเกลี้ยง เธอไม่ยอมแพ้รีบเดินไปอีกสาขาในห้างใกล้ ๆ ‘ไม่มี’ คือคำตอบที่น้องพนักงานบอกตอนไปถามถึง เธอเดินเข้าเดินออกอยู่ห้าสาขาในละแวกนั้น ด้วยใจที่เปี่ยมความหวังว่าจะต้องมีสักใบที่หลงมือใครต่อใครมาได้ ยิ่งเจอว่าไม่ได้ มันเหมือนยิ่งท้ายทายให้เธออยากได้มากขึ้นไปอีก
เธอหมดเวลาหลายชั่วโมงในการดันทุรังเดินตามหาแก้วที่เหมือนจะรู้ในใจว่า ‘ไม่มีแล้ว’ ความอยากได้ยิ่งประทุในใจให้แสวงหาอย่างไม่หยุด แต่ทว่าโอกาสได้ครอบครองไม่ได้เป็นของเธอแล้วจริง ๆ สาขาแถวนั้นไม่มีแก้วใบนี้หลงเหลือ เธอต้องกลับบ้านมือเปล่า พร้อมกับใจที่ค่อนข้างช้ำ เพราะเชื่อมั่นว่าเธอต้องได้มันมาครอบครอง
กว่าจะทุ่มเทพยายามทำให้ได้มา แต่มาทำในเวลาที่ช้าเกินไป มันก็สายไปเสียแล้ว
ฟุ้งกลับบ้านมาอย่างผิดหวัง เพราะไม่ได้ดังใจอย่างที่มุ่งหมายไว้ก่อนออกจากบ้าน แค่แก้วกาแฟใบเดียวทำเอาเธอพลุ่งพล่าน ผลีผลามออกจากบ้านไปแต่เช้า แล้วก็กลับเข้ามาแกร่วได้ถึงขนาดนี้ ทำไมหนอวัตถุสิ่งของถึงมีผลต่อใจเธอได้
ฟุ้งได้แต่ถอนใจกับความอยากได้ที่ไม่ได้ดังใจ คิดว่าถ้าพอมีโชคที่จะได้ครอบครองมันไว้ เธอคงจะเห็นคนโพสต์ขายในวันใดวันหนึ่งที่พร้อมจ่ายมันได้จริง ๆ
โฆษณา