ทำไม TESLA ถึงต้องการปลดพนักงาน 10,000 คน
เมื่อไม่นานมานี้ นายอีลอน มัสก์ เพิ่งออกมาประกาศว่าธุรกิจของ TESLA บริษัทนวัตกรรมแห่งอนาคตกำลังไปได้สวย และเพิ่งจะเปิดโรงงานเพิ่มไปอีก 2 แห่ง
แต่หลังจากนั้นเขาก็ได้ประกาศต่อหน้าสาธารณะ ยื่นคำขาดให้พนักงานต้องกลับมาทำงานที่ออฟฟิศของบริษัท ซึ่งถ้าใครไม่ปฏิบัติตาม ก็ถือว่าได้ลาออกจากบริษัทไปแล้ว จนทำให้เกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันยกใหญ่
แถมบริษัทยักษ์ใหญ่อื่น ๆ ที่มีวิธีการทำงานแบบไฮบริดอย่าง Amazon หรือ Google ก็ยังออกมาประกาศเชิญชวนให้พนักงานที่มีความสามารถของ TESLA มาทำงานกับตนแทน
แต่ว่าเรื่องราวก็ยังไม่จบเพียงเท่านี้ โดยล่าสุด นายอีลอน ยังได้ประกาศเตรียมปลดพนักงานของบริษัทราว 10% หรือเกือบ 10,000 คน ซึ่งในตอนแรกทุกคนคิดว่าเป็นเพราะนายอีลอน ซึ่งออกมาให้ความเห็นว่าตนเองนั่นกังวลกับสภาวะเศรษฐกิจถดถอย หรือที่เรียกว่า Recession รวมถึงมีอีเมล์ภายในส่งถึงผู้บริหารในบริษัทให้หยุดการรับสมัครพนักงานทันที โดยเมื่อข่าวนี้หลุดออกไป ราคาหุ้นของบริษัท TESLA ก็ร่วงลงไปถึง 9% ในวันเดียวกัน
แต่ถึงแบบนี้ หากเรามาดูสถิติตัวเลขยอดการผลิตรถยนต์ในปีที่ผ่านมาของ TESLA นั้นอยู่ที่ประมาณ 930,000 คัน ซึ่งสูงที่สุดตลอดกาลนับตั้งแต่ตั้งบริษัท แม้ว่าปัญหาชิปซึ่งเป็นชิ้นส่วนสำคัญในการผลิตนั้นขาดแคลนกำลังรุนแรงไปทั่วโลกก็ตาม แถมยังคาดการณ์ว่ายอดปีนี้จะแซงหน้าปีที่แล้วอีกเล็กน้อยด้วย
แล้วทำไมถึงยังปลดคนเกือบ 10% ?
คำตอบก็คือ จริง ๆ แล้วในตอนนี้ภายในบริษัท มีหลายแผนกที่มีพนักงานมากเกินความจำเป็น จากการรับพนักงานเข้ามาจำนวนมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้มีพนักงานที่ไม่ได้ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพเป็นจำนวนมาก
ในทางกลับกันบริษัทกำลังวางแผนรับคนเพิ่มให้มากกว่าจำนวนพนักงานทั้งหมดเดิมที่ 100,000 คนเสียอีก โดยจะเน้นไปที่แรงงานในสายการผลิตแทน ซึ่งการปลดพนักงานที่ไม่จำเป็นออก และรับพนักงานส่วนสายการผลิตเพิ่มนี้ ทำให้บริษัทจะคงฐานเงินเดือนไว้ตามเดิม ไม่มีการปรับเพิ่มอีกด้วย
ถือเป็นอีกหนึ่งรูปแบบการปรับโครงสร้างองค์กรที่เฉียบขาด และไม่ประณีประนอม แบบที่เรามักจะเห็นบ่อยในบริษัทอเมริกันยักษ์ใหญ่หลาย ๆ แห่ง
╔═══════════╗
ท่านที่สนใจรับการอัปเดตเทรนด์อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี ขอเชิญชวนเข้าร่วม Facebook Group: Trends Community เพื่อร่วมแบ่งปันเทรนด์ใหม่ๆ ในแต่ละอุตสาหกรรม ร่วมออกไอเดีย และแสดงความคิดเห็นร่วมกันว่าเทรนด์ใดที่เหมาะกับลูกค้าคนไทย และเทรนด์ใดจะเป็นโอกาสสำหรับประเทศไทยในอนาคต?
╚═══════════╝
Trendmizi คลังเทรนด์ออนไลน์เพื่อการพัฒนาแบรนด์และธุรกิจ โดยศูนย์วิจัยเทรนด์และคอนเซ็ปต์แห่งอนาคต Baramizi Lab
#Trendmizi
#คลังเทรนด์ออนไลน์
#trend
เรื่อง: Trendmizi Content Creator
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
