11 มิ.ย. 2022 เวลา 23:00 • ธุรกิจ
ผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในเชกเตรียมปรับราคา
นักวิเคราะห์ในกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ คาดการณ์ว่า สินค้าประเภทอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ส่วนประกอบ Semiconductor จะปรับราคาสูงขึ้น
เนื่องจากผู้ผลิตชิ้นส่วน/ส่วนประกอบและชิปเตรียมปรับขึ้นราคา เนื่องจากต้นทุนการผลิตสูงขึ้นจากราคาวัตถุดิบและค่าแรง โดยบริษัทต่าง ๆ อาทิ Taiwan Semiconductor Manufacturing (TSMC), Samsung และบริษัท Intel ต่างเตรียมปรับขึ้นราคาสินค้าดังกล่าว
โดยก่อนหน้านี้บริษัทผู้ผลิตชิป/ส่วนประกอบรายใหญ่ที่สุด ได้ปรับขึ้นราคามาแล้วประมาณร้อยละ 10-20 และ ดังนั้น คาดว่าบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จะปรับขึ้นราคาสินค้าประมาณร้อยละ 5-7
ผู้ผลิตไมโครชิปและวัสดุที่เกี่ยวข้องเตรียมปรับขึ้นราคาให้สูงขึ้น ตามต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งรวมถึง ต้นทุนเพื่อการขยายธุรกิจ ได้ส่งผลให้ต้องปรับราคาขึ้นไปอีก ทั้งนี้ นอกจากดีมานด์ของชิปมีเพิ่มมากขึ้นแล้ว ยังมีปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่จำเป็นในการผลิต Semiconductor และราคาค่าจ้างที่ปรับตัวสูงขึ้น ทั้งนี้ นักวิเคราะห์จาก Bain คาดว่าสถานการณ์ราคา ของ Semiconductor จะเริ่มดีขึ้นในช่วงปลายปี
นาย Glenn O’Donnell นักวิเคราะห์จากบริษัท Foresster ให้ความเห็นว่า ราคาของชิปที่ปรับขึ้นเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน โดยคาดว่าราคาสินค้ากลุ่มนี้จะปรับขึ้นประมาณร้อยละ 10-15 ตามอัตราเงินเฟ้อในช่วงสองปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ สินค้ากลุ่ม Semiconductor เป็นที่ต้องการของตลาดสูงมากในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 เนื่องจากประชาชนต้องเก็บตัวอยู่ในบ้านและใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น คอมพิวเตอร์ เครื่องเล่นเกม และอื่น ๆ
ดังนั้น ผู้ผลิตจึงเริ่มพิจารณาว่าควรจะจัดส่งชิปให้ผู้ผลิตรถยนต์หรือ ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ก่อน ขณะเดียวกัน ผู้ผลิตชิปต่างเผชิญกับปัญหา Supply chain ซึ่งกรณีสงครามใน ยูเครนทำให้ปัญหาดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับราคาพลังงาน/ไฟฟ้าที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งการผลิตชิปต้องใช้ไฟฟ้า จำนวนมาก ทำให้ต้นทุนเพิ่มสูงขึ้น
ด้วยสถานการณ์ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว จึงคาดว่า บริษัทที่ใช้ชิปในการผลิตสินค้าต่างๆ จะปรับขึ้นราคาสินค้า โดยผลักภาระต้นทุนที่สูงขึ้นไปยังผู้บริโภค
นาย O’Donnell คาดว่า คอมพิวเตอร์ รถยนต์ ของเล่น อุปกรณ์เครื่องใช้ อิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน รวมถึงสินค้าอื่น ๆ จะมีราคาสูงขึ้นมากกว่าเดิม เนื่องจากผู้ผลิตจำเป็นต้องปรับราคาสินค้าดังกล่าว นาย Syed Alam ระบุว่า การปรับขึ้นราคาสินค้าแต่ละชนิดจะขึ้นอยู่กับการปรับขึ้นราคาของ Semiconductor รวมถึงขึ้นอยู่กับความสามารถในการลดต้นทุนการผลิตของผู้ผลิตและการแข่งขันในตลาด
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ปริมาณความต้องการสินค้าเริ่มชะลอตัวลงในบางกลุ่มสินค้า เช่น สมาร์ตโฟน ทำให้การผลักภาระต้นทุนไปยังผู้บริโภคมีความยุ่งยากมากขึ้น ดังนั้น จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะผลักภาระต้นทุนที่สูงขึ้น ไปยังผู้บริโภค
ราคาสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ มีแนวโน้มว่าจะสูงขึ้นอีกตามปัจจัยลบและแรงกดดันของอัตราเงินเฟ้อ ราคาพลังงานไฟฟ้าที่สูงขึ้น รวมถึงสถานการณ์สงครามในยูเครน โดยก่อนหน้านี้บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วน/ชิป ได้ปรับขึ้นราคามาก่อนหน้านี้แล้ว
อย่างไรก็ดี การปรับขึ้นราคาสินค้าดังกล่าวอาจจะไม่ส่งผลดีต่อผู้ผลิตสำหรับบางรายการสินค้า เนื่องจากสินค้าบางชนิดมีปริมาณความต้องการของตลาดลดลง
ผู้ผลิต/ผู้ประกอบการไทยในกลุ่ม Semi-conduct ควรติดตามสถานการณ์ราคา และแนวโน้มความต้องการของตลาดเป้าหมายอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ การปรับขึ้นราคาสินค้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในตลาดเช็ก อาจจะมีต่อเนื่อง ในช่วงระยะเวลาที่ตลาดยังคงเผชิญกับปัจจัยลบทั้งด้านราคาพลังงาน ภาวะเงินเฟ้อ และสถานการณ์ความไม่แน่นอนของความขัดแย้ง
ซึ่งจะส่งผลให้ความต้องการของตลาดสำหรับสินค้ากลุ่มนี้มีลดลง ผู้ประกอบการกลุ่ม ชิ้นส่วน/semi-conducts อาจหาแนวทางบริหารจัดการการผลิต และลดต้นทุนการผลิตคิดค้นนวัตกรรมใหม่ เพื่อลดต้นทุน ตลอดจนการหาพันธมิตร รวมไปถึงการบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์ เพื่อเตรียมการรับมือกับสถานการณ์ของตลาดที่ยังมีความไม่แน่นอนในช่วงปีนี้
โฆษณา