9 มิ.ย. 2022 เวลา 07:23 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
หลางหยาป่าง ภาคแรก
อันเนื่องมาจากมีผู้ขอให้เขียนถึงเรื่องนี้ จัดให้ค่ะ ต้องขอบคุณด้วยเช่นกัน เพราะเพิ่งนึกได้ว่าทำไมไม่เขียนถึงเรื่องนี้
แต่ขอออกตัวก่อนว่า เรื่องนี้มีมุมมองเยอะมาก เขียนเท่าที่นึกออกนะคะ
จริง ๆ แล้วได้ดูหลางหยาป่าง 2 ก่อน แล้วค่อยไปควานหาดูหลางหยาป่าง 1
 
หลางหยาป่างว่า 2 สนุกแล้ว แต่หลางหยาป่าง 1 สนุกกว่าอีก
เรื่องราวเกี่ยวกับการรักษาอำนาจแย่งชิงอำนาจในราชสำนัก ส่วนยุคไหนนั้น แค่คล้ายตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อย ไม่ตรงตามประวัติศาสตร์เป๊ะ ๆ น่าจะสมมุติขึ้นมามากกว่า แต่ถ้าประเมินจากเสื้อผ้าหน้าผมก็แถวราชวงศ์เหลียว
พล็อตหลักของเรื่อง จะเรียกว่า เป็นการกลับมาทวงความยุติธรรม หรือ แก้แค้นนั่นแหละ
นับแต่เหมยฉางซูปรากฏตัวที่เมืองหลวง ขั้วอำนาจก็เริ่มเปลี่ยนแปลง รัชทายาท องค์ชายรอง และขุนนางที่เคยเป็นสาเหตุให้องค์ชายใหญ่(ฉีอ๋อง) และครอบครัวแม่ทัพใหญ่ตายทั้งบ้าน ถูกกำจัดอย่างแสบสันต์ แล้วดันองค์ชายปลายแถวที่ไม่มีอำนาจแม่เป็นเพียงสนมชั้นผินให้ขึ้นมาแทนที่
ต้นเหตุทั้งหมดของเรื่องก็คือ ความระแวงระดับบ้าคลั่งของฮ่องเต้คนเดียวเท่านั้น จึงหาเรื่องฆ่าไปเรื่อย แล้วไอ้ที่ฆ่าไปเนี่ยก็ล้วนแต่เป็นครอบครัวตัวเองทั้งสิ้น ทั้งลูก หลาน น้องสาว น้องเขยซึ่งร่วมรบชิงแผ่นดินกันมา
หากมองในมุมฮ่องเต้ ไม่ผิดที่จะระแวง เป็นธรรมดาของคนที่ขึ้นไปอยู่จุดสูงสุดก็ต้องพยายามรักษาอำนาจไว้ แต่วิธีที่ใช้ไม่ฉลาดเท่าไหร่
ถ้ากำจัดคนเก่งไปเสียหมด เพราะกลัวว่าคนเหล่านั้นจะแย่งอำนาจ ท้ายที่สุดก็จะเหลือแต่ขุนนางโง่ ๆ ที่ไม่สามารถช่วยรักษาบัลลังก์ได้อยู่ดี
ผู้นำที่เก่งคือ ผู้นำที่สามารถ “ซื้อใจ” คนเก่งให้ “ภักดี” ต่างหาก
1
ผลของการกำจัดองค์ชายเก้าลูกชายที่เก่งที่สุด จึงเหลือแต่ลูกโง่ ๆ อ่อนแอ เห็นแก่ตัว (รัชทายาท และอวี่อ๋อง)
ลูกที่นิสัยดีที่สุดก็ซื่อบื่อ (จิ้งอ๋อง) ตรงเป็นไม้บรรทัด เล่นเกมแห่งอำนาจไม่เป็น ถ้าไม่ได้พี่น้องเพื่อนรักอย่างเหมยฉางซูทั้งผลักทั้งดัน อาจตายหรือไม่ก็ถูกส่งไปอยู่ชายแดนโน่น
เป็นคนดีมันก็ดี แต่มันก็ต้องฉลาดด้วย คนดีที่ไม่ฉลาดก็ไม่ต่างจากคนโง่ โดยเฉพาะในเกมการเมือง
เรื่องที่ฮ่องเต้พลาดที่สุด คือ คนที่คิดว่ากำจัดไปแล้ว ดันไม่ตาย กลับมาวางแผนปั่นหัวฮ่องเต้ ,รัชทายาท- อวี้อ๋อง ที่กำลังแย่งอำนาจกันอยู่ รวมถึงคนที่วางแผนใส่ร้าย ทำเอาป่วนไปทั้งวัง
ท้ายที่สุดฮ่องต้องถูกบีบให้ยอมรับว่าทำผิดพลาด ซึ่งเท่ากับสูญเสียอำนาจ ทั้งที่ยังเป็นฮ่องเต้ นั่นแหละ
จะว่าไปเป็นฮ่องเต้เองที่เปลี่ยนผู้ภักดีให้กลายเป็นศัตรู เปลี่ยนหลินซูที่ห้าวหาญพร้อมตายเพื่อแผ่นดิน ให้เป็นเหมยฉางซู ผู้อยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงขั้วอำนาจครั้งใหญ่
จีนนั้นมีประวัติศาสตร์มานานนับพันปี สู้รบเปลี่ยนราชวงศ์มารู้เท่าไหร่ รวมแผ่นดินได้ แล้วก็แตกออกเป็นเสี่ยง แล้วรวมกันใหม่ ไม่รู้กี่รอบ
เรียกว่ามีประสบการณ์ด้านการเมืองการปกครองมาแล้วทุกรูปแบบ พบเห็นการทรยศหักหลัง ในเกมการเมืองมามากมาย ยังไม่นับตำราพิชัยสงคราม ที่ปัจจุบันหลายส่วนยังใช้ได้จริง ๆ ทั้งในแง่การปกครองและการทำธุรกิจ
นักเขียนจีน จึงมีวัตถุดิบทางความคิดมากมาย ไม่น่าแปลกใจที่จะมีนิยาย หรือบทละครที่เขียนออกมาได้ซับซ้อน ซ่อนเงื่อนวางแผนวางหมากสามชั้นห้าชั้นกันออกมานับไม่ถ้วน
เหมยฉางซู เป็นไปตามสูตร “แก้แค้นสิบปีไม่สาย” ไม่ใช่แค่วางแผนมาเท่านั้น แต่วางคน วางสาย ในเมืองหลวงมาก่อนหน้านั้นหลายปี
หากตามข่าวประเทศในแง่การเมืองโลกอยู่บ้าง ก็จะรู้ว่าจีนนั้น “ไม่ลืม” ความเจ็บช้ำน้ำใจจากบาดแผลในประวัติศาสตร์ แต่อดทนจนตนเองยิ่งใหญ่ ทุกวันนี้จึงไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหม ฟาดได้ฟาด
กลับมาที่ซีรีส์ เรื่องนี้มีมุมมองเรื่องการบริหารจัดคน จิตวิทยา เต็มไปหมด ถ้าเขียนทั้งหมดคงได้เป็นนิยายอีกเล่ม (ฮา)
ขอยกมาบางเรื่อง ที่ส่วนตัวเคยนำมาใช้ก็แล้วกัน
ตอนที่จิ้งอ๋องคุยกับเหมยฉางซู เรื่องการเลือกคนมาทำงานให้ จิ้งอ๋องมองว่าควรเลือกคนที่ซื่อสัตย์ ส่วนเหมยฉางซูนั้นมองว่าแล้วแต่สถานการณ์ บางเรื่องอาจต้องใช้คนเก่ง บางเรื่องก็ต้องใช้คนซื่อสัตย์
ประเด็นนี้ ถ้าเป็นผู้บริหารเรื่องที่ถูกท้าทายตลอดเวลาคือ เราควรรับพนักงานแบบไหน ระหว่างคนดีกับคนเก่ง
เคยบอกผู้บริหารรุ่นน้องไปว่า ถ้าต้องเลือก ระหว่างคนเก่งที่นิสัยไม่ดี กับคนดีที่ไม่เก่ง ให้เลือกคนที่เรา “คุม” ได้ ไม่อย่างนั้นต้องคอยมาถอนมีดออกจากหลังแน่ ๆ ล่าสุดก็ต้องได้พูดว่า “ พี่เตือนแล้ว”
อีกเรื่องคือ ตอนที่โรงงานผลิตดอกไม้ไฟระเบิด มีคนตายแล้วจิ้งอ๋องไปช่วยผู้ประสบภัย เหมยฉางซูพูดทำนองว่า “ทำดีก็ต้องให้คนรู้ด้วย”
ถ้าเป็นสมัยนี้ก็เรียกว่าพีอาร์ตัวเอง แต่นั่นหมายความว่าต้องทำความดีจริง ไม่ใช่สร้างภาพว่าตนได้ทำความดี
1
ตอนอายุยังน้อยก็คิดว่าทำดีเป็นเรื่องที่ควรทำ ใครจะเห็นหรือไม่เห็น หาได้แคร์ไม่ แต่พอต้องมาเป็นผู้บริหาร การที่คนอื่นต้องรู้ว่าเราทำงานได้ดีหรือไม่ มันมีผลถึงลูกน้องด้วย ดังนั้นจึงต้องทุกวิถีทางให้ผู้บริหารระดับสูงกว่ารู้ให้ได้ว่า ทีมเราทำงานหนักแค่ไหน เก่งแค่ไหน
ส่วนที่เด่นที่สุดของเรื่องนี้คือ ความสัมพันธ์ของพี่น้องมิตรสหาย
เรื่องนี้เป็นเรื่องแรก ๆ ที่กลับมาดูซีรีส์จีน หลังจากเลิกดูซีรีส์ฮ่องกงไปนานมาก แล้วรู้สึกว่า ซีรีส์ที่ไม่ได้ดำเนินเรื่องด้วยเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ก็สนุก น่าประทับใจกับความสัมพันธ์ของพี่น้องมิตรสหายได้เช่นกัน
จริง ๆ ตัวละครในเรื่องล้วนแต่เป็นพี่น้องหรือไม่ก็ญาติกันทั้งสิ้น ขุนนางแม่ทัพก็ล้วนเกี่ยวพันเป็นญาติทางการแต่งงาน ถึงอย่างนั้นเมื่อต้องแย่งกันมีอำนาจ ญาติพี่น้องมิตรสหาย ก็ไม่ได้มีความหมายอะไรมากนัก
1
ยกเว้นก๊วนของเหมยฉางซู ที่ผูกพันกันแน่นแฟ้น
แม่ของหลินซู เป็นน้องของฮ่องเต้ นับแล้วก็หลินซู กับจิ่งเหยี่ยนก็เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน แถมยังเติบโตมาในฐานะเพื่อนสนิท เป็นทหารนักรบเหมือนกัน นับถือฉีอ๋องเป็นผู้นำเหมือนกัน
ชอบภาษากายของหวังข่ายเวลาจิ้งอ๋องเห็นอากัปกิริยาหลายอย่างของเหมยฉางซูแล้วสงสัย เพราะเหมือนกับหลินซู แต่ความที่เถรตรงบวกซื่อบื่อ และไม่ใช่ผู้หญิง ก็ได้แต่สงสัยไม่พยายามหาความจริงเหมือนกับหนีหวง
ฉากที่นับว่าเป็นฉากเด่นของเรื่องนี้คือตอนที่ เหมยฉางซูไปห้ามไม่ให้จิ้งอ๋องไปช่วยเว่ยจิง ห้ามเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง ก็เลยเรียกชื่อ จิ่งเหยียน พร้อมกับด่าไปอีกหลายประโยค ฉากนี้ให้อารมณ์ฟาดกันไม่ยั้ง (ถึงอย่างนั้นจิ้งอ๋องก็ยังไม่สะกิดใจว่าเหมยฉางซูเป็นใครถึงกล้าเรียกแบบนั้น)
เรื่องนี้แทบไม่มีฉากรักระหว่างพระ-นาง สักเท่าไหร่ จนบางคนแซวว่า ไม่จำเป็นต้องมีนางเอกก็ได้มั้ง
ต้องบอกว่าจำเป็น เพราะหนีหวงคือคนที่ทำให้ภาพของเหมยฉางซูออกมาครบในทุกมิติ
แม้จะมีฉากรักไม่เยอะ แต่ทุกฉากที่ทั้งคู่เจอกันแสดงให้เห็นถึงด้านที่อ่อนโยนของเหมยฉางซู ซึ่งมีใครทำแทนได้
เหมยฉางซูปิดบังความลับจากทุกคนได้ จิ้งอ๋องสงสัยหลายครั้ง เขาก็ไม่เคยยอมรับ แต่โดนหนีหวงคาดคั้นนิดหน่อย ก็เก็บความรู้สึกไม่อยู่แล้ว
หนีหวงเป็นคนเดียวที่เขาเปิดเผยความรู้สึกทุกข์ร้อนให้รับรู้ (ตอนย่าตาย)
หนีหวงเถียงได้ ดื้อได้ หึงได้ โดยเหมยฉางซูไม่เคยโกรธ ไม่เคยเสียงดังใส่ เต็มที่ก็ได้แต่อ่อนใจเพราะเป็นห่วง
จริง ๆ แล้วหนีหวงคือจุดอ่อนของเหมยฉางซูที่ไม่มีใครสังเกตเห็น แต่ต่อให้รู้ก็ทำอะไรไม่ได้มาก เพราะหนีหวงแข็งแกร่งแถมยังเป็นผู้บัญชาการของกำลัง ที่แม้แต่ฮ่องเต้ยังเกรงใจอยู่หลายส่วน
กรณีหนีหวงสะท้อนให้เห็นถึงค่านิยมคุณธรรมเรื่องความสัมพันธ์ในครอบครัวของคนจีน หลินซูโตมากับหนีหวง หมั้นหมายกันมาแต่เด็ก สำหรับเหมยฉางซู หนีหวงคือรักเดียว ไม่มีสายตาให้คนอื่น ไม่ว่าจะพยายามเสนอตัวขนาดไหน แถมตัดรอนแบบไม่มีเยื่อใยอีกต่างหาก
ส่วนหนีหวงนั้นถือว่าตนเองแต่งเข้าตระกูลหลินไปตั้งแต่หมั้นหมายแล้ว เหมยฉางซูวางแผนยังไง ให้ทำอะไรว่า ก็ว่าตามกัน กองทัพทรัพย์สิน พร้อมสนับสนุนเต็มที่ แม้แต่ตอนหลังยังเอาตำแหน่งสะใภ้ตระกูลหลินที่ไม่ได้บอกเลิกมาอ้างเพื่อรื้อฟื้นคดีกบฏ
ชอบบทที่แทรกมาเล็ก ๆ น้อย แต่แสดงให้เห็นว่า หนีหวงเป็นคนพิเศษ คนสำคัญของเหมยฉางซู เช่น ตำแหน่งที่นั่งคืออยู่ข้าง ๆ แถมเหมยฉางซูยกน้ำชาให้ดื่ม หรือสามารถเอื้อมไปจับมือเขาแล้วส่งหินร้อนให้ได้ บ่าวไพร่ หมอ เฟยหลิว ก็ทำแบบนี้ไม่ได้
ตัวละครที่มีบทบาทในเรื่องในฐานะเบื้องหลัง ก็คือเหล่าแม่ ๆ ขององค์ชายทั้งหลาย แม่ของจิ้งอ๋องฉลาดสุด รู้ว่าเมื่อไหร่ควรพูด แล้วพูดเรื่องอะไร เมื่อไหร่ควรถอย ควรรุก เด็ดขาดเมื่อควรเด็ดขาด
จิ้งอ๋องไม่ได้นิสัยแม่มาเลย ถ้าไม่ได้แม่คอยดึงคอยหนุน และเพื่อนรักอย่างเหมยฉางซูที่ทั้งผลักทั้งดัน ชะตากรรมไม่น่าต่างจากฉีอ๋อง สักเท่าไหร่
บ่าวที่น่าสนใจที่สุด คือ เกากงกง เรียกว่าอยู่เป็นสุด ๆ ไม่ว่าใครจะมาเป็นนาย ตำแหน่งแกก็ไม่เปลี่ยน แถมแอบเลือกนายแบบลับ ๆ อีกต่างหาก
ถ้าอยากเป็นลูกน้องที่มีชีวิตอยู่รอดปลอดภัย ก็ต้องเลือกหัวหน้าเป็นด้วย
อันนี้ก็จะยากนิดนึง นายบางคนเป็นคนดี แต่ไม่ฉลาด เราก็อาจซวยตามไปด้วย นายฉลาดแต่ไม่ดี อันนี้ก็ซวยเหมือนกัน นายฉลาด นิสัยดี แต่ไร้ซึ่งวาสนา อันนี้ไม่ซวย แต่ไม่เจริญ
นักแสดงเรื่องนี้ คัดแต่สายฝีมือมาเล่น เล่นถึงมากถึงมากที่สุดทุกคน
ดาราสมทบหลายคนก็กลายเป็นพระเอกนางเอกในปัจจุบัน โดดเด่นที่สุดก็คืออู๋เหล่ย ใคร ๆ ก็เอ็นดูเฟยหลิว ตอนเล่นตัวยังเตี้ยกว่าหูเกออยู่เลย ตอนนี้เหมือนจะสูงกว่าแล้ว
เรื่องนี้ฉายไปตั้งแต่ปี 2015 กลับไปดูอีกครั้ง โปรดักส์ชั่นอะไรก็ยังไม่เรียกว่าเชยเลย เรื่องนี้กลายเป็นต้นแบบการสร้างซีรีส์จีนแนวชิงไหวชิงพริบทางการเมืองในเวลาต่อมา
พระเอกจีนไม่จำเป็นต้องเป็นมีแข็งแรงมีวิทยายุทธเก่งกว่าใครในยุทธภพอีกแล้ว อ่อนแอ ขี้โรคก็ได้ แต่ต้อง “ฉลาด” เป็นกรดมาทดแทนกัน
พิเศษ
จิ่งรุ่ยเป็นตัวละครที่น่าสงสารที่สุด เรื่องชาติกำเนิดก็ไม่ใช่ความผิดของตัวเอง เป็นคนที่ให้ความสำคัญกับมิตรภาพมากที่สุด และทำให้เหมยฉางซูละอายใจที่สุด เพราะแม้จะถูกใช้เป็นหมาก แต่ไม่ต่อว่าเหมยฉางซูสักคำ แถมยังบอกประมาณ ไม่ว่าเหมยฉางซูเห็นเขาเป็นเพื่อนหรือไม่ เป็นเขาเองที่เต็มใจเป็นเพื่อนกับเหมยฉางซู
เฉียวซินภาคแรกเป็นอวี้เหวินเหยียน น้องสาวคนละแม่ของจิ่งรุ่ย ส่วนภาคสองเป็นอันหรู หลานฮองเฮาที่แต่งไปกับอ๋องไหลหยาง ล่าสุดเป็นนางเอกเรื่อง ชิวเยียนยอดหญิงพลิกชะตา

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา