10 มิ.ย. 2022 เวลา 09:59 • ปรัชญา
Wheel of Fortune ทุกอย่างย่อมเป็นไปตามกฎแห่งกรรม
หลังจากที่โครนัส(Cronus) ขึ้นครองบัลลังก์มาได้สักพัก พระพี่นางฟีบี้(Phoebe) เทพีแห่งโชคชะตาก็ได้แวะเวียนมาหา และได้ทำนายว่า บาปกรรมที่น้องได้ก่อไว้มันกำลังจะมาตามสนองน้องในไม่ช้า
โครนัสก็พลันนึงถึงคำสาปแช่งของแม่ไกอาขึ้นมา ตอนนี้โครนัสกลัวและหวาดหวั่นอย่างมาก เริ่มรู้สึกถึงความไม่มันคงในบัลลังก์แล้ว ก็สั่งให้เทพีรีอา(Rhea) พาลูกๆทั้ง 5 มาหาหน่อย แล้วก็จัดการเขมือบลูกทั้ง 5 คนลงท้องไปอย่างรวดเร็ว จบปัญหาการที่จะมีใครสักคนลุกขึ้นมาชิงบัลลังก์
ภาพวาดตอนโครนัสกินลูกตัวเอง (ที่มาของคำว่ากินเด็กหรือเปล่า555) โดย เปเตอร์ เปาล์ รือเบินส์ (Peter Paul Rubens)
รีอาตกใจมากไม่คิดว่าโครนัสจะทำแบบนั้น แต่ในขณะเดียวกันรีอาก็ท้องอ่อนๆอยู่อีกหนึ่ง โดยที่โครนัสยังไม่รู้ เธอก็แก้คิดหาวิธีแก้ปัญหาจนกระทั่ง วันที่ทารกน้อยคลอดออกมา แล้วก็เป็นไปตามคาด โครนัสก็เรียกรีอาไปหา แต่หารู้ไม่รีอาได้เตรียมแผนเอาไว้แล้วโดยการที่เอาหินห่อผ้าเอาไว้แกล้งทำว่าเป็นลูก
พอโครนัสขอดูก็จัดการกลืนลงท้องไปด้วยความรวดเร็วโดยที่ไม่ได้ทันสังเกตุเลยว่ามันเป็นหิน ทำไมถึงไม่รู้ล่ะเพราะปกติเวลาเราเคี้ยวหินมันก็จะมีเสียงกุ๊บกั๊บ เพราะว่าพี่แกกลืนโดยที่ไม่เคี้ยวเลยยังไงล่ะ
โอเค...หลังจากที่หลอกให้โครนัสกินหินไปเรียบร้อย รีอาก็พาลูกหลบลี้หนีภัยไปซ่อนไว้ที่เกาะครีต ขอบอกเลยว่าเรื่องนี้แม่ไกอามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยแหละ เนื่องจากหมั่นไส้ไอ้ลูกคนนี้มานานตั้งแต่ตอนที่แล้ว เด็กคนนี้ที่เอาไปซ่อนไม่ใช่ใครที่ไหน เค้าคือเทพเจ้าซุส(Zeus) มหาเทพในอนาคตนั่นเอง
1
ประติมากรรมยุคโรมันเรืองอำนาจ เป็นภาพตอนที่พวกนักรบคูเรเตสช่วยกันดูแลปกป้องซุสน้อย
แต่ตำนานนั้นมีหลากหลาย แต่ผมขอเลือกตำนานที่ว่าให้พวกนักรบคูเรเตส(Curetes) ดูแลแล้วกัน และ ตัวรีอาเองก็ต้องคอยหลบๆซ่อนๆ เวลามาหาลูก ก็มีอมัลเธีย(Amaltheia) เป็นคนให้นมตอนที่รีอามาหาไม่ได้ อ่อลืมบอกไปอมัลเธียเป็นแพะ ซึ่งจะเรียกว่าเป็นแม่บุญธรรมของซุสเลยก็ว่าได้
ผลงานภาพพิมพ์ ของ ยาโกบ ยอร์ดานส์ ( Jacob Jordaens) เป็นภาพตอนที่ซุสกำลังกินนมจากเต้าของอมัลเธีย
เมื่อมหาเทพซุสเติบโตเป็นหนุ่มก็เริ่มสำแดงเดชแบบที่เทพเจ้าเป็นกัน นั่นคือความเจ้าชู้ ก็ไปได้กับลูกสาวของเทพโอซีอานีสและเทพีธีธิส เธอคนนี้มีนามว่ามีทิส(Metis) จะว่าไปก็ไม่ได้เป็นแค่เมียอย่างเดียว แต่เป็นพี่เลี้ยง เป็นครู เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว
เอาจริงๆเหมือนเรื่องนี้แม่ไกอาก็อยู่เบื้องหลังอีกแล้ว มีทิสเนี่ยเป็นคนที่ฉลาดมาก และเธอก็สอนสรรพวิชาต่างๆให้แก่ซุส รวมถึงยังเล่าเรื่องที่โครนัสกินพี่น้องตัวเองเข้าไปด้วย
จนถึงเวลาเมื่อซุสเติบใหญ่เต็มตัว ก็เป็นไปตามที่เทพพยากรณ์ทำนายไว้ไม่มีผิด ซุสก็ให้มีทิสผสมยาพิษให้ และแอบปลอมตัวเข้าไปเป็นคนใช้ในวังของโครนัส โดยมีแม่ไกอาคอยช่วยอยู่ตลอด เมื่อถึงจังหวะเหมาะก็รินยาพิษใส่ลงไปในเหล้าให้โครนัสดื่ม เมื่อโครนัสดื่มก็อ้วกออกมา เป็นพี่น้องของซุส ก็มี
1.โพไซดอน(Poseidon)
2.เอดีส(Hades)
3.เฮรา(Hera)
4.เฮสเตีย(Hestia)
5.ดิมีเตอร์(Demeter)
ส่วนใครจะมาทำหน้าที่อะไรเดี๋ยวเล่าในตอนต่อไป และสุดท้าย คือน้องก้อนหิน ใช่ครับก้อนหินที่รีอาหลอกให้โครนัสกินเข้าไปก็ออกมาด้วย ไอ้หินก้อนนี้สุดท้ายมันก็ไปอยู่ที่วิหารเดลฟี(The Oracle of Delphi) ของเทพพยากรณ์
รูปร่างหน้าตาของหินที่โครนัสอ้วกออกมาที่วิหารเดลฟี (The Oracle of Delphi)
หลังจากพี่น้องอยู่กันพร้อมหน้า ก็ยกมือแบบประชาธิปไตยให้ซุสเป็นหัวหน้า และได้รวบรวมเหล่าเทพเพื่อก่อกบฎล้มล้างอำนาจโครนัส ฝ่ายโครนัสเองก็กลัวสิครับก็พยายามระดมพลมาต่อสู้กับซุสเหมือนกัน แต่พี่น้องทางฝั่งผู้หญิงไม่เอาด้วย ยังไม่พอทางฝั่งผู้ชายอีกสองคนก็ไม่เอาด้วย สองคนนั้นคือโพรมิธิอัส และ เอพิเมธิอัส
ไม่เอาด้วยยังไม่พอยังไปเข้าร่วมกับฝ่ายซุสด้วย ตอนนี้เหมือนซุสจะมีกำลังที่มากกว่าแล้วหล่ะครับ ถึงตอนนี้ทางฝั่งโครนัสก็มีผู้นำทัพหลักๆก็คือ แก๊งค์ไททัน 4 คน และอีกทัพนึงก็คือทัพของแอตลาส (กล่าวไว้ในตอนที่แล้ว) ที่เป็นจะผู้นำเพื่อปราบกบฏซุส
ภาพของดาวอมัลเธีย (Amaltheia) จากยานวอยเอจเจอร์ 1 (Voyager I)
เกร็ดเล็กน้อย...หลังจากที่อมัลเธียตายไปแล้ว ซุสก็นำเธอขึ้นไปเป็นดาวบนท้องฟ้า พูดง่ายๆก็เป็นดาวบริวารของดาวพฤหัสหรือจูปิเตอร์ (ชื่อภาษาโรมันของ Zeus คือ Jupiter) นั่นแหละ แล้วก็เอาหนังมาหุ้มโล่อีจีส(Aegis) เขาของเธอก็กลายเป็นของวิเศษเรียกว่าคอร์นูโคเฟีย(Cornucopia) เป็นเขาสารพัดนึก ดลบันดาลได้ทุกสิ่งตามแต่ใจปรารถนา
คอร์นูโคเฟีย (Cornucopia) ยังมีชื่อเรียกอีกหลายชื่อ เช่น แตรแห่งอมัลเธีย (Horn of Amalthea) หรือ กรวยแห่งความอุดมสมบูรณ์ (Harvest cone)
โอเคเรื่องตำนานจบไป มาว่ากันเรื่องไพ่ใบต่อมาดีกว่า
ไพ่ใบนี้ทำให้นึกถึงคำทำนายของเทพพยากรณ์ และกฎแห่งกรรมที่โครนัสต้องพบเจอ เคยทำอะไรไว้ตอนนี้เวรกรรมใกล้จะตามมาทันเต็มทีแล้ว จึงขอเลือกไพ่ Wheel of Fortune หรือ ไพ่วงล้อแห่งโชคชะตา แทนเหตุการณ์ได้อย่างดีที่สุด เอาจริงๆแล้วไพ่ใบนี้มันจะมีเรื่องราวของกลุ่มเทพีมอยเร(Moira) แต่เทพีกลุ่มนี้จะมาหลังจากทีเฮดีสปกครองปรโลกแล้ว แล้วจะเล่าให้ฟังทีหลัง
คราวนี้มาดูความหมายของไพ่บ้าง
เมื่อไพ่ใบนี้ขึ้นมามันหมายถึง ชีวิตนั้นย่อมพลิกผันไปตามโชคชะตา ทุกคนต้องพบเรื่องราวที่ดีและร้ายตามแต่การกระทำที่เราได้เคยทำมาทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นเราก็ควรทำดีไว้เสมอ ไม่ว่าวงล้อจะหมุนไปทางไหนก็จะได้เจอแต่ความดีนั่นเอง
อันนี้ไพ่ Wheel of Fortune แบบ Classic (Rider Waite)
สัญลักษณ์ต่างๆในไพ่ใบนี้ค่อนข้างมีนัยยะเยอะพอสมควร จะยกตัวอย่างคร่าวๆ สังเกตุตรงวงล้อจะมีคำว่า TARO ถ้าอ่านตามเข็มนาฬิกาที่มาของไพ่ว่าทำไมเราเรียกว่าไพ่ทาโรต์เพราะมันใช้ทำนายโชคชะตานั่นเอง และถ้าอ่านทวนเข็มจะเป็นคำว่า TORA หมายถึงคำภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของชาวอียิปต์ที่ชื่อว่า Torah ถ้าอ่านจากล่างตามเข็มนาฬิกาจะได้คำว่า ROTA แปลว่ากงล้อ
นอกจากนี้ยังอ่านเป็น ORAT ที่แปลว่าการสื่อสาร และ ATOR ที่เป็นชื่อเทพเจ้าแห่งความเชื่อของชาวอียิปต์ได้อีก ถ้าเอามาเรียงกันดีๆจะแปลว่า
วงล้อแห่งการพยากรณ์นี้ จะดำเนินไปตามกฎแห่งกรรม
(ROTA TARO ORAT TORA ATOR)
1
ตัวอย่างไพ่ Wheel of Fortune ที่ไม่ใช่แบบ Classic อันนี้น่าจะได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องราวของกลุ่มเทพีมอยเร(Moira)
โอเค จบสำหรับตอนนี้ ตอนหน้าจะเป็นเรื่องอะไรก็ติดตามต่อไป
โฆษณา