ขยันแรงไม่เหนื่อยฟรี ถ้าความคิดไม่เป็นพิษ
ทุกอย่างเป็นไปตามจิตสำนึก จิตสำนึกทำงานโดยที่เราไม่รู้ตัว เช่นถ้าถูกถามตอนนี้ว่า มือของคุณวางอยู่ไหน จะมีกี่คนที่ตอบได้ทันที ถ้าไม่ถูกถามคุณก็อาจไม่ทันสังเกตุมือคุณ กับคำพูดบางคำ แม้ว่าจะฟังแล้วดูโบราณแต่จริง
เราทุกคนล้วนมีเทปเสียงประมาณ 25000 ชั่วโมงของเสียงพ่อแม่ที่ดังอยู่ในใจที่บันทึกมาทั้งชีวิต
ครูฮ้วง
กี่เทปที่เป็นการชื่นชมตัวเอง บอกว่าคุณเป็นคนที่ยอดเยี่ยม คุณเป็นคนฉลาด คุณจะโตมาประสบความสำเร็จ และกี่เทปที่เป็นการตำหนิ ดูถูก ด่าทอ และเรานั้นยังคงเก็บไว้ในใจแม้จะผ่านล่วงเลยมานาน
เรามักจะตำหนิตัวเอง เหมือนกับพ่อแม่ และครูในวัยเด็กพูดกับเราโดยไม่รู้ตัว
"แกมันไม่รักดี ไปตายซะ" ไม่น่าเชื่อว่า คำพูดนี้เป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งกระโดดตึกตายตอนอายุ 36 จากการทะเลาะกับสามี แต่เธอยังเขียนบันทึกคำด่าที่พ่อแม่เคยด่าตอน 5 ขวบได้
"ต่อให้ใครมาดูถูกลูก อย่าไปเชื่อ สักวันลูกจะเป็นเศรษฐีพันล้าน" และเด็กที่ยากจนคนนั้น ก็เติบโตเป็นมหาเศรษฐีที่มีนามว่า Christ Garner
คำเหล่านี้หากหลุดออกมาจากปากพ่อแม่ ครูอาจารย์ มีผลต่อเด็กทั้งชีวิตอย่างไม่รู้ตัว
เสียงเทปบันทึกในใจนั้นมันยังเป็นตัวสั่งการในการกระทำของเราแต่ละวัน หลายๆครั้งที่เรามักคิดว่าเรารู้ตัวว่าเราทำอะไรอยู่ เรามีสติพอ แต่หารู้ไม่ว่า ทุกอย่างในตัวเราถูกควบคุมโดยพลังจิตใต้สำนึก เราจะมั่นใจตัวเองได้มากแค่ไหนว่าเรารู้ตัวอยู่ตลอดเวลา ซึ่งช่วงที่เราไม่รู้ตัว จิตสำนึกด้านลบมันจะผุดขึ้นมาทำลายเราอย่างเป็นธรรมชาติ หากเราไม่เรียนรู้ที่จะจัดการกับมันให้เรียบร้อยเสียก่อน
บางคนเป็นคนเก่ง หัวไว แต่ทำไมเข้ากับผู้คนได้ยาก
บางคนทำงาน หาเงินเก่ง แต่ใช้เงินเก่งมากกว่า หรือตะหนี่จนขาดสิ่งดีที่ควรได้
ทำไมบางคนใช้ชีวิตทั้งชีวิตเพื่อเอาอกเอาใจคนอื่น โดยที่ตัวเองต้องทุกข์ระทม
สิ่งเหล่านี้มาจากความสัมพันธ์ในใจที่บิดเบี้ยว ของการรักตัวเองไม่พอ
ครอบครัวต้องเป็นพื้นที่ๆปลอดภัย ให้กำลังใจ อบรมสิ่งที่ดีงามให้ลูกหลาน แต่ก็พูดยาก ในท่ามกลางปัญหารอบด้าน บางครั้งชีวิตก็ยากจะเป็นสดใสตลอดเหมือนในละคร แต่ทั้งนี้หากคุณมีคำพูดที่มืดดำอยู่ในใจ ลองอ่านเรื่องราวของ Louise Hay นะคะ
ลูวิซ เฮย์ เป็นเด็กหญิงที่ชีวิตโตมากับด้านมืด พ่อแม่หย่ากัน พ่อเลี้ยงใช้ความรุนแรง และถูกข้างบ้านข่มขืนตอน 5 ขวบ เธอมีความนับถือตัวองต่ำมาก จนยอมพลีร่างให้ใครก็ได้ที่ใจดีกับเธอ ในที่สุดเธอท้องมีลูกคนแรกตอนอายุ 16 ปี แต่เธอเลี้ยงไม่ไหว จึงยอมสละลูกให้กับสามี ภรรยา คู่หนึ่งที่มีลูกไม่ได้ ต่อมาก็เป็นโรคมะเร็ง
ที่เล่ามาคือประวัติของคนผู้หญิงคนหนึ่ง ที่สามารถปล่อยวางปัญหา ปมในอดีต จนกลายเป็นครูทางจิตวิญญาณของคนนับล้านทั่วโลก และมีชีวิตอย่างสวยงามในบั้นปลาย จากโลกนี้ไปตามวัยอันควรคือ 90 ปี (1926-2017)
แม้การกล่าวโทษพ่อแม่ของเรา สิ่งแวดล้อมของเรา เป็นสิ่งที่ง่าย แต่มันทำให้เรายังไม่เป็นอิสระไปไหนไม่ได้
แล้วจะทำให้ปัญหาเดิมๆเกิดขึ้นซ้ำๆ อย่างถาวร
ให้เราสืบค้นประวัติพ่อแม่ให้ชัดเจนที่สุด ลองถามเค้าว่าเค้าได้รับความรักมาแบบไหน ถูกลงโทษมาแบบไหน แรงกดดันในวัยเด็กของพ่อแม่คืออะไร พ่อแม่มีงานทำตอนเริ่มเป็นผู้ใหญ่มั้ย พยายามทำความเข้าใจว่าเค้าเติบโตมาแบบไหน ทำไมถึงทำแบบนั้น พอเรารู้ เราจะเข้าใจถึงการแสดงออกของพ่อแม่บางอย่างที่เขาพลั้งเผลอทำ ดุ หลุด ด่า โดยไม่รู้ตัว แล้วเราจะให้อภัยท่านได้
จงเข้าใจพ่อแม่ของคุณ เช่นเดียวกับที่คุณอยากให้ท่านเข้าใจ
ทุกคนมีเด็กน้อยในตัวเอง พร้อมกับเสียงดุของพ่อแม่ที่มีอยู่ในใจ โดยที่เสียงดุนั้นไม่เคยหยุดทำงานเลย จงเยียวยาเด็กคนนั้น คุยกับเค้าให้รู้ว่าในวันนี้เด็กน้อยคนนั้นเค้ามีคนที่เข้าใจและพร้อมจะปลอบโยนเค้าคือตัวคุณเองที่เป็นผู้ใหญ่มากขึ้นในวันนี้
"ขอโทษที่หลายปีที่ผ่านมา ไม่เคยได้คุยกับเค้าเลย ขอโทษที่ดุด่า ดูถูกเค้ามานาน มีอะไรจะให้ช่วยมั้ย เราพร้อมจะชดเชยทุกเวลาที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกันทำอะไรบ้างที่จะช่วยให้มีความสุข"
เด็กน้อยผู้นั้นคือตัวคุณในอดีตที่ถูกละเลยยังไม่ได้เยียวยา และวันนี้ เค้าได้รับการช่วยเหลือแล้วคือตัวคุณที่เป็นผู้ใหญ่ขึ้น เติบโตขึ้น และเข้าใจเค้ามากที่สุด
คุณก็ต้องรักเด็กน้อยในตัวคุณอย่างไม่มีเงื่อนไขให้ได้ เพราะตัวคุณคือคนเดียวที่จะต้องอยู่กับตัวตนของคุณตลอดไป ถ้าคุณไม่รักเค้าก็ยากที่จะให้ใครมารักคุณจริง
ครูฮ้วง
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
