11 มิ.ย. 2022 เวลา 07:02 • ปรัชญา
อ่านแล้วดีจึงอยากแบ่งปั่น
คุณเป็น #นักคิด หรือ #นักทำ
(Thinker VS Doer)
คนที่เป็นผู้นำองค์กร หรือ เจ้าของธุรกิจสามารถที่จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ กลุ่มที่เป็น นักคิด และ กลุ่มที่เป็น นักทำ
"นักคิด"
นักคิด จะมองในภาพกว้าง จะเก่งในด้านการวิเคราะห์ การวางแผน การวางกลยุทธ์ คนกลุ่มนี้จะคิดให้ดีก่อนการตัดสินใจ มีการประเมินข้อดีข้อเสีย นึกถึงเหตุผล และความเสี่ยงต่างๆที่จะเกิดขึ้น เป็นคนรอบคอบ ในหัวมักจะวางแผนเป็นขั้นตอน รู้ว่าผลคืออะไร และ รู้ว่าจะไปให้ถึงจุดนั้นได้อย่างไร
ข้อดีของการเป็นนักคิด คือ ไม่ประมาท มีเป้าหมาย และกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจอย่างชัดเจน
ข้อเสีย ก็คือ บางทีอาจจะคิดมากไป อาจทำให้ตัดสินใจอะไรช้า
"นักทำ"
นักทำ เป็นพวกที่จะทำอะไร ก็ลงมือทำเลย ไม่ต้องคิดอะไรให้มากมาย ไม่ชอบวิเคราะห์ วางแผน มีเป้าหมายชัดเจนรู้ว่าต้องการอะไร แต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะต้องไปเป็นขั้นๆยังไง แค่รู้ว่า ทำๆไปเลย เดี๋ยวก็ถึงเป้าหมายเอง ผิดก็ไม่เป็นไร ลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ
ข้อดี ของการเป็นนักทำ คือ รู้ลึก รู้จริง เพราะทำเองกับมือ ทำอะไรรวดเร็ว ออกไปลุยด้วยตัวเอง
ข้อเสีย ก็คือ บางทีทำอะไรเร็วเกินไป ทำให้พลาดในเรื่องที่ไม่น่าจะพลาด หลายคนลองทำอะไรไป เจอแต่ลองผิด ไม่เคยเจอ ลองถูกซะที เพราะทำโดยไม่ได้คิด
นักคิดมักจะถูกเปรียบว่า เป็นพวกชอบเงยหน้ามองฟ้า ส่วนนักทำ เป็นพวกก้มหน้ามองดิน.. หากทั้งสองคน เดินป่าในตอนกลางคืน นักคิดก็จะมองดวงดาว เพื่อดูทิศทางที่จะไป และรู้ว่าจะไปทางไหน ส่วน นักทำจะเป็น คนที่มองดูพื้นดิน ระหว่างทางที่เดิน ก็จะคอยระวังหิน ระวังกิ่งไม้
หากมีแต่นักคิด.. มองเห็นเป้าหมาย เงยหน้ามองฟ้า หากเดินไปเรื่อยๆ โดยไม่ก้มหน้ามองดินลงมาก็คงจะมีเดินชนหิน ชนต้นไม้กันแน่ๆ
กลับกัน หากมีแต่นักทำ ก็คงแต่เดินหลบหิน หลบต้นไป เดินทางกันไปเรื่อยๆ ไม่หกล้ม ไม่เจ็บตัว แต่ไปผิดทิศ ผิดทาง หลงป่าแน่นอน
ขนาดกีฬาต่างๆ ยังต้องมี โค้ชที่เป็นนักคิด และ มีนักกีฬาที่เป็นนักทำ ไม่ว่าจะเป็น ฟุตบอล มวย วอลเลย์บอล บาสเก็ตบอล หรือ แม้แต่ นักวิ่ง เพราะ บางทีคนทำเห็นแต่สิ่งที่อยู่ตรงหน้า ไม่ได้มองเห็นภาพรวม คนที่เห็นภาพรวมจะคิดและวางแผนอะไรได้ดีกว่า
"นักคิดที่เก่ง ไม่จำเป็นต้องทำอะไรเก่งไปทุกอย่าง"
โค้ชเก่งๆที่เล่นกีฬาไม่เก่งมีเยอะไป
"นักทำที่เก่ง ก็ไม่จำเป็นต้องคิดเก่งเช่นกัน"
นักกีฬาเก่งๆที่คิดแบบโค้ชไม่ได้ก็มีเยอะเช่นกัน เพราะหน้าที่มันแบ่งออกมาอย่างชัดเจน
หากเป็นองค์กรใหญ่ คุณอาจจะหาคนที่เป็นนักคิด กับ นักทำ มาอยู่ทีมเดียวกัน ทำงานด้วยกันได้ ก็จะได้ผลที่ดี
แต่ถ้าเป็นกิจการของตัวเอง คุณต้องฝึกที่จะเป็นทั้งนักคิดและนักทำ เมื่อองค์กรมีเงิน องค์กรใหญ่โต ค่อยผันตัวไปเป็นนักคิดอย่างเดียวก็ได้ เหมือนอย่างพวกเจ้าสัวทั้งหลาย ที่ทุกวันนี้ ส่วนใหญ่เป็นนักคิดกันแทบทั้งนั้น แต่กว่าจะถึงจุดนั้นได้ ทุกคนก็ผ่านการเป็น นักทำ กันมาทั้งสิ้น
ถ้าคุณคิดเก่ง ควรหาทีมงานหรือจ้างคนภายนอก มาช่วยคุณทำงานให้ได้ตามที่คุณคิด
ถ้าคุณทำเก่ง ควรหาที่ปรึกษา มาช่วยคุณคิด วางแผน และ วางกลยุทธ์
ถ้าคุณคิดเก่งและทำเก่ง.. ตอนนี้คุณยังทำไหวก็ทำเองไปเลยครับ แต่พอถึงวันนึง ขอแนะนำให้เลือกสักทางว่าจะไปเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านคิด หรือ ด้านทำ
อ่านถึงตรงนี้แล้ว..
คุณคิดว่าตัวคุณ เป็น นักคิด หรือ นักทำ
Cr.YESClub
โฆษณา