12 มิ.ย. 2022 เวลา 06:59 • ความคิดเห็น
เรื่องราวของคำว่าชีวิตนั้น เราต้องทำความเข้าใจตัวเอง ก่อนว่า ชีวิตที่เรามีเรือนกายนี้ อะไรคือความสำคัญให้กายนี้ มีชีวิตอยู่รอดได้ มีลมหายใจเข้าออกสะดวก ร่างกายแข็งแรง เราก็รู้ว่าต้องทำอย่างไร ถึงจะให้ได้อาหาร ที่อยู่อาศัย ที่พักกาย ที่พักจิต
ในเมื่อยุคสมัยมันเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่สังคมการเกษตรแบบแต่ก่อน ที่สามารถเสาะแสวงหาหาสิ่งจำเป็นพื้นฐานให้ขีวิตนี้อยู่ได้ มันมีการเปลี่ยนแปลง เปลียนถ่ายกันมากขึ้น มีการเรียนการสอนให้เป็นผู้ใช้แรงกายหาธนบัตร เงินทอง ต้องใช้แรงทำงาน แลกเปลี่ยน มีงานหนักงานเบา มีตลาดเค้าว่า ตลาดแรงงาน เราก็ควรศึกษา ให้เข้าใจ
เพราะเมื่อจบวัยการเรียนรู้นั้น ต้องทำงานเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าจ้าง ไปแลกเปลี่ยนใช้สอย นั้น ชีวิตในวัยทำงาน มันต้องใช้ชีวิตอยู่กับเรื่องงานที่เราทำ ไม่ว่าจะงานอะไร ก็ต้องทำ ทำเพื่อให้ได้ปัจจัยนั้นมา แล้วเราก็ต้องทำงาน..เพื่อเงินทอง เป็นเวลานาน ต้องเจอะเจอ ผู้คนมากมาย ทำงานมันก็เหน็ดเหนื่อย
เมื่อตอนก่อนเรียนจบ ในห้องก็มีคนเรียนเก่ง นั่งแถวหน้า ในห้องก็รู้กันว่า พวกนี้สอบติดหมอแน่นอน ..วันหนึ่งอาจารย์ ประจำชั้นก็เข้ามาในห้อง..เรียกคนเรียนเก่ง มาถาม..ถามว่า ที่อยากไปเรียนหมอนั้น อยากเรียนเพราะพ่อแม่ให้เรียน หรือ ว่าคิดได้เอง
แล้วอาจารย์ก็เล่าเรื่องเพื่อนที่เป็นหมอศัลยกรรมกระดูกให้ฟัง อาจารย์บอกว่า นานๆเพื่อนที่เป็นหมอจะว่างๆ เจอกันทีไร ก็บ่น..ชีวิต.ก.มันอยู่กับน้ำเลือดน้ำหนอง เงินทองได้มาก็ไม่มีเวลาจะใช้ ให้ลูกเมียใช้ ก..อยู่กับเลือดหนองเหม็น สะอิดสะเอียน ก็ต้องทำ
..อาจารย์..ก็เลยให้ข้อมูลว่า ก่อนตัดสินใจเรียนอะไร คิดให้ดีครบถ้วนเสียก่อน เพราะเราต้องใช้ชีวิตอยู่กับสิ่งที่เราต้องมีความรับผิดชอบ หน้าที่ดูแล ภาระอะไรต่างๆ ที่เราต้องมี ..ถึงเวลามันมาเอง แล้วเราจะเตรียมตัว เตรียมรับสถานการณ์ ข้างหน้าอย่างไร เพราะมันกำหนดไม่ได้
เราคิดยาวๆนั้นดี แต่ว่าต้องทำในสิ่งที่จำเป็นเกิดขึ้นก่อน เพื่อจะนำไปสู่ที่เราอยากจะให้เป็น นั่นคือ เมื่ออยากเป็นอะไร ก็ฝึกเรียนรู้ ฝึกตนเองทำ เรียนรู้ในสิ่งที่เรา อยากจะเป็น
..แล้วเราก็ย่อมรู้ดีว่า สิ่งที่เราอยากจะมีอยากเป็น นั้นต้องทำอะไรบ้าง เราก็มาแก้ไขตรวจสอบตัวเราเอง แล้วก็ก้าวเดินไปด้วย ความรู้ความเข้าใจว่า เราทำสิ่งนี้ มุ่งเพื่อไปสู่อนาคต ที่คาดหวังว่าดี วันข้างหน้าเราก็ไม่รู้ แต่ถ้าไม่เริ่มต้น มันก็ก้าวต่อไปไม่ได้เลย
โฆษณา