"Gangubai Kathiawadi" 2022
จากโสเภณีข้างถนนที่ไต่เต้าเดิมพันด้วยศักดิ์ศรี
สู่ราชินีมาเฟียแห่งมุมไบ ผู้ไถ่ทวงความยุติธรรม
การต่อสู้เพื่อสิทธิสตรีที่สร้างมาจากเรื่องจริง
Gangubai Kathiawadi
ภาพยนตร์ดราม่าชีวประวัติ ที่สร้างมาจากหนังสือ Mafia Queen of Mumbai ของ Hussain Zaidi นักเขียนชาวอินเดียว ที่ตีแผ่เรื่องราวของโสเภณีในมุมไบ ถูกตีพิมพ์เมื่อปี 2011 โดยได้ Sanjay Leela Bhansali นั่งแท่นผู้กำกับ ได้เข้าฉายรอบปฐมทัศน์ในงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเบอร์ลิน ก่อนจะเป็นกระแสโด่งดังและถูกกล่าวขานอย่างทั่วถึง
เรื่องราวของ คงคา (Alia Bhatt) เด็กสาวที่มีความฝันอยากเป็นดารา แต่เธอกลับถูกแฟนหนุ่มหลอกมาขายในซ่อง เพียงแค่เงินไม่กี่รูปี แม้เธอจะเป็นแค่หญิงขายบริการแต่ก็ไม่คิดยอมจำนนต่อโชคชะตา ความทะเยอทะยานได้เปลี่ยนเธอให้เป็น คังคุ หญิงแกร่งที่แม้แต่แม่เล้ายังต้องเกรงใจ
ก่อนจะไต่เต้าขึ้นมาเป็นผู้นำซ่องและได้รับการไว้วางใจจากเพื่อนสาวโสเภณีทุกคน แม้แต่ คาริม (Ajay Devgn) มาเฟียแห่งบอมเบย์ยังยกให้เธอเป็นน้องสาว เธอต่อสู้ในระดับการเมืองท้องถิ่น ไม่ยอมแพ้ต่ออำนาจมืดและยืนหยัดจะสู้เพื่อทวงคืนความยุติธรรมให้แก่หญิงสาวโสเภณีในเมืองกว่า 4,000 คน ไปจนถึงการเรียกร้องสิทธิสตรี และได้กลายมาเป็นตำนานแห่งเมืองกามธิปุระ
ด้วยกระแสที่แรงมากจนไม่ดูไม่ได้ ยอมรับเลยว่าเป็นหนังอินเดียเรื่องแรกที่ได้ดู และก็รู้สึกว้าวมากๆ ไม่ว่าจะงานภาพ โปรดัคชั่น แสงสี เพลงประกอบ ทุกอย่างทำออกมาได้ดี เปิดโลกในการดูหนังไปอีกขั้น คังคุไบไม่เพียงแต่สะท้อนถึงการต่อสู้เพื่อสิทธิ Sex Worker แต่ยังพาผู้ชมได้เห็นถึงเสน่ห์ของวัฒนธรรมการเป็นอยู่ของผู้คนในอินเดีย ไม่แปลกเลยที่จะก้าวสู่ระดับโลก และได้รับคำวิจารณ์อย่างล้นหลาม
องค์ประกอบสำคัญที่ทำให้หนังเรื่องนี้กลายเป็นไวรัลและได้รับคำชื่นชม คงจะไม่พ้นการแสดงของสาว อเลีย บาตต์ ที่เล่นได้อย่างสมบทบาท ทั้งสวยงามและน่าเกรงขามสมกับที่เป็นราชินีมาเฟีย แม้ตัวละครอื่นจะดูโดดเด่นมากมาย แต่ไม่มีใครแย่งซีนไปจากเธอได้เลยจริงๆ
หนังชูประเด็นสะท้อนสังคม ความเหลื่อมล้ำต่างๆที่เกิดขึ้นในยุคนั้น ทั้งการกดขี่ทางเพศ การเลือกปฏิบัติ ทำให้ตลอดทั้งเรื่องอินไปกับการต่อสู้ของคังคุไบ เธอคือตัวแทนของคนที่ลุกขึ้นสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงบางสิ่งในสังคม โดยไม่ต้องโทษโชคชะตาหรือต้นทุนชีวิต เพียงแค่ทำมันให้ถึงที่สุด แม้จะต้องสูญเสียบางอย่างในชีวิตไปก็ตาม
ไม่เพียงแค่บทและการดำเนินเรื่องจะดีเท่านั้น หนังยังมีโควทเด็ดๆกินใจมากมาย ตีแผ่ให้เห็นว่าโสเภณีก็เป็นอาชีพๆหนึ่ง มีศักดิ์ศรีไม่ได้ด้อยไปกว่าอาชีพอื่น และควรได้รับสิทธิเสรีขั้นพื้นฐานเหมือนคนทั่วไป ไม่ควรแบ่งแยกหรือเลือกปฏิบัติ มองอีกแง่อาชีพนี้ยังช่วยลดให้อาชญากรรมทางเพศน้อยลงเสียด้วยซ้ำ
ประโยคเด็ดในหนังที่ชื่นชอบเป็นพิเศษก็คือ "โสเภณีเป็นอาชีพที่เก่าแก่ที่สุด หากไม่มีพวกเราแม้แต่สวรรค์ก็ไม่มีทางสมบูรณ์" ในฉากปราศัยของคังคุไบ ต้องบอกเลยว่าถ่ายทอดออกมาได้ดีและเท่เอามากๆ
แม้หนังจะยาวกว่าสองชั่วโมงครึ่งแต่ก้ไม่ได้รู้สึกเบื่อหรือง่วงอะไร หนังมีละครเพลงสอดแทรกเป็นระยะ คงสไตล์หนังอินเดีย เพียงแต่หนังพยายามจะนำเสนอหลายประเด็นไปเสียหน่อย ทั้งการดิ้นรนไต่เต้า ความรักของคังคุ การต่อสู้ในท้องถิ่นกับราเซียไบ (Vijay Raaz) ตรงนี้ที่นึกว่าจะพีคไปจนจบ
แต่หนังก็เบี่ยงประเด็นมาสู่การเรียกร้องสิทธิสตรี ทำให้รู้สึกว่าหนังไปไม่สุดเท่าไหร่ เหมือนสองชั่วโมงครึ่งมันยังสั้นไป หากตัดทอนฉากเต้นรำทำเพลงลองเทคหรือเล่าได้กระชับกว่านี้คงจะไม่มีอะไรให้ต้องติ
เป็นภาพยนตร์น้ำดีอีกเรื่องที่เปิดโลกสู่การดูหนังอินเดีย ไม่เพียงแต่ได้รับความบันเทิง แต่ยังได้เห็นถึงความสวยงามของหนังมากมาย รวมไปถึงข้อคิดต่างๆที่สอดแทรกอยู่ตลอดทั้งเรื่อง ใครที่ยังไม่เคยรับชม อยากให้ลองเปิดใจ นี่เป็นหนังอินเดียที่ดีงามไม่แพ้ฮอลลีวูดเลยทีเดียว
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
