Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Red Diary
•
ติดตาม
2 ก.ค. 2022 เวลา 01:00 • ประวัติศาสตร์
คดีฆาตกรรมสาวร่างทรงฆ่าหั่นศพสามี - เหมย พรสุรีย์ ดีแผ่ว
Cr.รูป คม ชัด ลึก
สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน วันนี้เรดมีคดีฆาตกรรมสยองขวัญของไทยมานำเสนอ เป็นคดีที่แอบหลอน ซ่อนความน่ากลัว ของหญิงสาวคนหนึ่งที่เธอเชื่อว่าตนเองเป็นร่างทรง และทรงเจ้าในตัวเธอสั่งให้เธอลงมือสังหารสามีเธอเอง เป็นบทความคดีที่เรดทำแล้วรู้สึกขนลุกตามอยู่เหมือนกันนะคะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปติดตามเรื่องราวของเธอกันเลยค่ะ
"เรื่องราวสุดสยองขวัญสั่นประสาทเริ่มต้นขึ้น"
เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2555
Cr.ข่าวสด
ช่วงเวลาประมาณ เวลา 09.00 น. พรสุรีย์ได้เรียก รปภ.ประจำอพาร์ตเม้นท์ให้มาช่วยยกกระเป๋าเดินทางที่ห้องของตน และบอกกับ รปภ. ว่า เป็นเสื้อผ้าเก่าจำนวนมากที่จะนำไปบริจาค รปภ.ได้ยินดังนั้น จีงช่วยลากกระเป๋าเดินทางไปข้างล่างตามคำขอของหญิงสาว ระหว่างทางที่ลากกระเป๋าไป รปภ.รู้สึกว่ากระเป๋ามีน้ำหนักผิดปกติ และเขาก็ได้พบคราบเลือดจากมุมกระเป๋า จึงตัดสินใจแง้มกระเป๋าดู
3
แต่ . . . เขาก็ต้องช็อคกับภาพที่เห็นตรงหน้า เพราะสิ่งที่อยู่ภายในกระเป๋าเดินทางคือชิ้นส่วนข้อมือทั้งสองข้าง และข้อเท้าขวา รปภ.ไม่รอช้า รีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลบางขุนนนท์ด้วยความหวาดผวาในทันที
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้ง ก็ไม่รอช้า รีบมาถึงอพาร์ทเม้นท์ที่ได้รับแจ้งทันที จากการตรวจสอบศพก็พบว่า เป็นศพของนายประสิทธิ์ ศรีสมบุญญานนท์ สามีวัย 47 ปี และเป็นอดีตดีไซเนอร์
เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกไปห้องของพรสุรีย์ ภรรยาของผู้ตาย ก็พบกับพรสุรีย์นั่งพนมมือไหว้บูชาเทพอยู่ภายในห้อง เจ้าหน้าที่พบว่า ประตูหน้าต่างมีผ้ายันต์และอักขระติดอยู่เต็มไปหมด และยังพบคราบเลือดติดอยู่ที่บริเวณผนังแถวหัวเตียงอีกด้วย
Cr.ข่าวสด
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบอุปกรณ์การยาเสพติด จากการสอบสวนพรสุรีย์ ก็ไม่ได้ใจความเท่าไหร่นัก พรสุรีย์ให้การวกวนคล้ายคนอาการหลอน และอ้างว่าตนเองเป็นร่างทรง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวเธอไปตรวจปัสสาวะ
1
เสพยาบ้าเกือบ 10 เม็ด !!
พรสุรีย์ ดีแผ่ว
1
พรสุรีย์ตะโกนบอกเจ้าหน้าที่ทันทีว่า ตนเองเสพยาไปเกือบ 10 เม็ด หลังเจ้าหน้าที่คุมตัวเธอเพื่อไปตรวจปัสสาวะ ซึ่งผลการทดสอบออกมา ปัสสาวะเธอเป็นสีม่วง !!
Cr.twitter K.anne
เมื่อพรสุรีย์เริ่มได้สติ และสามารถตอบคำถามได้บางคำถาม เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงสอบถามเธอต่อถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น เธอเล่าว่า เธอเสพยามาเป็นเวลานานประกอบกับความเครียดที่เธอต้องคอยดูแลสามีที่ป่วยเป็นอัมพาต บางครั้งเธอเกิดอาการหลอนคิดว่าสามีนอกใจเธอ จึงก่อเหตุฆาตกรรมขึ้น
1
เธอเล่าว่า สามีชอบดุด่าและทำร้ายร่างกายเธออยู่บ่อยครั้ง จนเธอทนไม่ไหว ก่อนคว้าไขควงแทงเข้าบริเวณศีรษะของสามีจนถึงแก่ชีวิต ก่อนพยายามหั่นศพและใส่กระเป๋าหวังจะอำพรางคดี
1
Cr.twitter K.anne
มีพยานพบเห็น เช้าวันเกิดเหตุ พรสุรีย์ถือถุงพลาสติกขนาดใหญ่ไปโยนทิ้งริมคลองบางกอกน้อย คาดว่าน่าจะเป็นชิ้นส่วนศีรษะ เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังนักประดาน้ำเข้าค้นหา ก็พบกับศีรษะของนายประสิทธิ์อยู่ในถุงพลาสติก สภาพใบหน้าถูกฟันจนเละ
เจ้าหน้าที่พยายามสอบปากคำพรสุรีย์อีกครั้ง เธออ้างว่า เธอเป็นร่างทรงของพระพุทธเจ้าลงมาบาปมาร และตอนก่อเหตุฆาตกรรมเธอรู้สึกตัวอยู่ตลอดเวลา เธอพูดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะที่อยู่ในการสอบปากคำกันว่า . . .
1
พวกเธอวิเคราะห์ได้เก่งมาก ถ้าฉันไม่ฆ่าตอนนี้คงไม่มีโอกาส
พรสุรีย์ ดีแผ่ว
1
ระหว่างที่พรสุรีย์ถูกควบคุมตัว หลานสาวของเธอได้มาเยี่ยมแล้วสวมกอดกัน ชั่วขณะนึงเห็นได้ชัดว่าพรสุรีย์มีสีหน้าเศร้าก่อนจะรีบเปลี่ยนสีหน้าคล้ายคนเสียสติและจำใครไม่ได้เลย
2
Cr.sanook
หลานสาวให้ข้อมูล ว่า พ่อของน้าสาวเสียชีวิตไปนานแล้ว ตอนนี้เหลือแต่แม่ และแม่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ ก่อนหน้านี้น้าสาวมักจะส่งเงินมาให้แม่ใช้เป็นประจำแล้วไปหาแม่อยู่บ่อยครั้ง จนเมื่อช่วง 2 ปีที่ผ่านมา นายประสิทธิ์ สามีของน้าสาวลื่นล้มในห้องน้ำจนกระทั่งเป็นอัมพาต
น้าสาวมักจะบ่นกับตนเสมอ ว่า เครียด และไม่มีเวลาว่างไปหาแม่เลย เนื่องจากต้องดูแลสามี หลังๆมาน้าสาวเริ่มพูดจาไม่รู้เรื่อง พูดจาไม่อยู่กับร่องกับรอย และเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก เธอเคยบอกให้น้าสาวไปรักษา แต่เธอไม่ไป พรสุรีย์ ถูกแจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาและปิดบังซ่อนเร้นทำลายศพ
ถึงเรื่องนี้จะผ่านมาหลายปีแล้วก็ตาม พรสุรีย์ถูกดำเนินคดีแล้ว หากแต่กระเป๋าของกลางยังถูกเก็บไว้ที่ สน.บางขุนนนท์ ของกลางถูกเก็บอยู่ที่ห้องน้ำหญิง ชั้น 4 เพราะเป็นที่ไม่ค่อยมีใครเข้าไป นอกจากมีธุระจริง ๆ ทำให้เจ้าหน้าที่หลายนายได้สัมผัสถึงความอาถรรพ์ของกระเป๋าใบนี้ จนเป็นที่กล่าวขานถึงความเฮี้ยน บ้างก็ว่าได้ยินเสียงคนลากกระเป๋า บ้างก็ว่าเห็นเงาคน บางทีก็มาในรูปแบบของเสียงแปลกประหลาด
เข้าหูถึง พ.ต.อ.สำเริง อำพรรทอง ผกก.สน.บางขุนนนท์ ในขณะนั้น จึงสั่งให้เผากระเป๋าของกลางใบนี้ทิ้ง เพื่อเป็นการปิดตำนานความเฮี้ยนสุดหลอนนี้
หากท่านใดชื่นชอบบทความนี้ กดไลค์ กดแชร์ กด Follow หรือจะมอบเพชร วิ๊บวับ ๆ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับเรดได้นะคะ 😊
เรดยินดีจะนำบทความดี ๆ ที่น่าสนใจมานำเสนอแก่ทุก ๆ ท่านค่าา ขอบคุณค่ะ ❤️ 😁
Cr.komchadluek.net
,
kapook.com
, YT : Thairath Online
เรียบเรียง : Red Diary ❤️
เรื่องเล่า
ประวัติศาสตร์
reddiary
10 บันทึก
14
2
5
10
14
2
5
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย