13 มิ.ย. 2022 เวลา 18:15 • ปรัชญา
เรื่องราวของพระนิพพานนั้น เหมือนแดนดินของจิตที่ชำระสะสาง จนสะอาดสะอ้านเป็นเหมือนแก้วเจียระไนดีแล้ว ไร้มลทิน ไม่มีจุดด่างดำเล็กน้อยๆก็ไม่มี เพราะได้ชำระสะสาง ..สีเวรสีกรรมอะไรต่างๆหมดสิ้น
มี่เรื่องเล่าให้ฟัง ว่าไหนๆก็ขึ้นมาข้างบนแล้ว ท้าวสักกะท่านก็ ถามว่า จะเข้าไปแดนพระนิพพานมั้ย ท่านก็บอกเข้า ท้าวสักกะ..ก็เอื้อมมือ มาหยิบ..กล่องเล็กๆที่หน้าอกออกไป แล้วบอกว่า หลังจากกลับออกมาค่อยมาเอา ..ท่านก็ได้เข้าในดินแดน พระนิพพาน ที่เป็นเหมือนเมืองแก้ว ..แล้วก็กลับมาเอากล่องที่หน้าอกคืนจากท่านท้าวสักกะ
ท่านเล่าให้ฟังว่า เทพทุกองค์ต่างก็มีจุดมุ่งหมายต้องการเข้าแดนพระนิพพานกันทั้งนั้น เพราะหมดบุญเป็นเทพ ก็ต้องลงมาเกิดเป็นมนุษย์ สะสมบุญบารมีขึ้นไปใหม่ การเกิดแต่ละครั้งก็เสี่ยงทาย หากพลาดพลั้งไปก็มีได้กลับไปสถานที่เคยมา อาจตกไปอบายภูมิได้ เหมือนกัน หากเผลอพรั้งสร้างกรรม
เรื่องราวของแต่ละมิติ ภพภูมินั้น มันมีมิติที่แตกต่างกัน แม้ในสิ่งที่เรียกว่านามธรรม เช่น เรื่องราวของคนธรรพ์ มีผู้บอกว่า บริเวณทางนี้ ริมเขาเป็นทางเดินของคนธรรพ์
เราก็คิดว่าเค้าคงเดิน เหมือนคนเดินไปตามภูเขา ..แล้วก็มีครั้งหนึ่ง ไม่รู้เป็นไง ตามันมัวมั่ง..หรือ ว่าจิตมันหลอนก็ไม่รู้ เห็นคนนั่งพับเพียบเรียบร้อย มาอนุโมทนาบุญกุศล ..นั่งอยู่บนพื้นเรียบ เหมือนเราเห็นคนอยู่ในห้องกระจก คือภูเขาทั้งลดชูกลายสภาพเป็นห้องกระจก เห็นแล้วก็ไม่คิดอะไร ก็ปล่อยผ่านไป
จนมีเรื่องราวคุยกับผู้ที่นับถือ ว่าคนธรรพ์..เวลามาฟังธรรม มิติของเค้าไม่มีภูเขาเหมือนเรา ของเค้าที่เป็นภูเขามันไม่มี เค้านั่งพับเพียบฟังธรรมบนพื้นที่เรียบ นั้นก็เป็นเรื่องของมิติที่เป็นนามธรรม แล้วก็มีนามธรรมที่ละเอียดแตกต่างกันไปอีก
แล้วก็ยังมีเรื่องราว ที่แปลกไปอีก นั่นก็คือ เค้าเข้าใจในภาษา ที่สอนธรรมเป็นภาษาไทยได้อย่างไร นั้นก็มีเรื่องราวที่เหนือวิสัยที่เราจะเข้าใจ ..บางเรื่องราวมันเหมือน ผู้คนที่มาประชุมรวมกัน แล้วคล้ายมีคนแปลเป็นภาษาเหมือนมีที่ประชุมใหญ่องค์กรใหญ่เค้าทำกัน หรือ ไม่ก็คล้ายมีคุณสิริแปลให้
เราก็คงเคยได้ยินเรื่องราวคำว่า ประตูบุญ..ได้ยินแต่เราก็ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร ท่านก็เล่าว่า ประตูนี้ ก็อยู่กับดินฟ้าอากาศ เป็นประสีทองอร่าม ใหญ่โต เหมือนประตูวังใหญ่ทึบหนาสีทอง มีผู้รักษาประตู ประตูนี้เมื่อใครมีบุญกุศล..ทำมาดี ..ประตูนี้ก็ไปปรากฏลอยให้เห็นตรงหน้าเอง.. เรื่องพวกนี้ มันก็ยากจะอธิบายว่า เกิดขึ้นได้อย่างไร ..เห็นแล้วก็สงสัยว่าจิตมันคงหลอน จะได้ไม่ไปหลงในสิ่งที่เค้าสมมุติให้ดู
ฟัง..เค้าเล่ามา ก็มาเล่าต่อเท่านั้นเอง พระท่านว่า อยากรู้จริงๆ ที่ไม่ใช่รู้แค่ในหนังสือบอกเล่า ต้องปฏิบัติธรรมจริงๆจังๆ แล้วก็ลดละอย่าให้จิตมีมลทิน แล้วก็ให้จิตออกจากร่างไปดูสถานที่จริงๆ ไม่ต้องรอให้ตาย ทำมันเสียก่อนตาย ว่าจะไปได้หรือไม่ได้
โฆษณา