วัดใหม่พิเรนทร์ ตอนที่4
ตำนานเกจิที่ถูกลืม...หลวงพ่ออ่อง ยโสธโร (รัตนโนภาส)
หลวงพ่ออ่อง ยโสธโร ท่านเกิดเมื่อปีพศ.2445 พื้นเพท่าน
เป็นคนบุรีรัมย์ มารดาของท่านเป็นคนโคราช บิดาของ
ท่านเป็นคนบุรีรัมย์ จากข้อมูลเท่าที่สอบถามท่านบวช
เรียนอยู่ที่บุรีรัมย์ก่อนจะย้ายเข้ามาที่กรุงเทพฯ
เมื่อท่านย้ายเข้ามาในกรุงเทพฯท่านได้มาเป็นพระ
ลูกวัดที่วัดอัมพวาอยู่ปรนิบัติรับใช้และรํ่าเรียนวิชา
ไสยเวทย์เพิ่มเติมกับหลวงปู่แป้น จากการสอบถาม
และเก็บข้อมูลทำให้ทราบว่าท่านมีวิชาทางเขมรด้วย
ก่อนที่จะมาอยู่ที่กรุงเทพฯแต่รายละเอียดเกี่ยวกับ
ครูบาอาจารย์ท่านมีข้อมูลไม่มากนัก
หลวงพ่ออ่องท่านเป็นพระเถระที่ผู้คนให้ความ
เคารพท่านเป็นอย่างมากทั้งในพื้นที่และต่าง
พื้นที่ด้วยความสามารถที่เด่นชัดของท่านที่ได้รับ
รู้และได้ยินมาตรงกัน คือท่านมีวิชาทางโหราศาสตร์
ดูดวงได้อย่างแม่นยำอีกทั้งเรื่องไล่ผีคนโดนของต่างๆ
ถ้าไปหาท่านชะงักนักและท่านยังเป็นหมอยาปรุงยา
แจกชาวบ้านเพื่อรักษาโรคเป็นที่เลื่องลือตำรับยาของ
ท่านคือ "ยากลีบบัวรังสี" เป็นยาอายุวัฒนะ
รักษาโรคและยาบำรุงคนที่เจ็บป่วยก็ได้ทุเลา
ยาของท่านไม่ได้ทำเพื่อจำหน่ายแต่เป็นการให้ทาน
แล้วแต่ว่าผู้ที่รับยาไปถ้ามีกำลังก็มักจะทำบุญต่อ
กับท่านเพื่อให้ท่านมีทุนในการซื้อหาตัวยามาปรุง
แจกชาวบ้านต่อไป ยาที่ท่านแจกจะเป็นผง
บางคนได้ไปก็เอาไปผสมกับนํ้าผึ้งปั้นเป็นยาลูกกลอน
เพื่อให้ง่ายต่อการรับประทาน
วัตถุมงคลของหลวงพ่ออ่อง
โดยมากที่พบจะเป็นพระเนื้อผงมีการจัดสร้าง
มาตั้งแต่ท่านอยู่ที่วัดอัมพวา โดยมากเป็นลักษณะ
พระสมเด็จและพระผงขนาดเล็ก ผู้ที่มีส่วนช่วยใน
การสร้างวัตถุมงคลของท่านคือหลานแท้ๆ
ของท่านนั้นคือ นาวาโท กวี รัตนวโรภาส ท่านอาศัย
อยู่รับใช้หลวงพ่ออ่องตั้งแต่ท่านยังเป็นเด็กเพราะ
หลวงพ่ออ่องท่านนำมาเลี้ยงตั้งแต่ท่านยังเด็กเนื่อง
จากบิดามารดา นาวาโท กวี นั้นมีบุตรหลายคน
หลวงพ่ออ่องท่านจึงขอรับมาดูแลและส่งเสียให้ได้
เรียนหนังสือและคอยช่วยงานต่างๆของท่าน
นาวาโท กวี รัตนวโรภาส ท่านมาอยู่กับหลวงพ่ออ่อง
ที่วัดอัมพวาตั้งแต่อายุ 7ขวบ เมื่อท่านอายุ 12 ปี
หลวงพ่ออ่องก็ถ่ายทอดวิชาโหราศาสตร์และให้ช่วย
เหลือหลวงพ่ออ่องในการผสมผงในการสร้างพระ
วัตถุมงคลชุดแรกที่สันนิษฐานว่าเป็นพระเครื่อง
หลวงพ่ออ่องเชื่อว่าน่าจะเป็น
"กลุ่มพระสมเด็จกรุเจดีย์เล็ก" ที่อยู่ในเอกสาร
พระ10กรุตามบันทึกของท่าน อ.ชู เทพทอง
ซึ่งพระกลุ่มนี้จากการลงพื้นที่เก็บข้อมูลทำให้
ทราบว่ามีทั้งพระที่บบรรจุกรุและไม่บรรจุกรุ
รวมไปถึงพระขนาดเล็กล้อพิมพ์กรุวัดอัมพวา
เพราะจากการสอบถามข้อมูลท่านมักนิยม
แจกพระขนาดเล็กให้กับญาติโยมที่มาทำบุญ
หรือมาขอความเมตตาให้ท่านดูดวงให้ซึ่งลักษณะ
ดังกล่าวปรากฎมาจนถึงเมื่อท่านย้ายมาอยู่ที่
วัดใหม่พิเรนทร์ ท่านก็ยังแจกให้กับผู้ที่มา
ทำบุญกับท่านมาโดยตลอดจนท่านมรณภาพ
*หมายเหตุ
พระสมเด็จชุดนี้มีข้อมูลจากพื้นที่ยืนยันว่าหลวงปู่แป้น
ปลุกเสกเพราะบางคนก็ได้รับจากหลวงปู่แป้นและ
มักเรียกพระชุดนี้ว่า "พระหลวงปู่แป้น"
การย้ายวัดของหลวงพ่ออ่อง
เมื่อท่านย้ายมาวัดใหม่พิเรนทร์สันนิษฐานว่า
ท่านได้ย้ายออกจากวัดอัมพวาหลังจากที่
หลวงปู่แป้นมรณภาพลงเมื่อปีพศ.2501
จากหลักฐานที่พบเก่าสุดปรากฎผ้ายันต์ที่
ออกในนามหลวงพ่ออ่องที่วัดใหม่พิเรนทร์
ซึ่งผ้ายันต์ดังกล่าวถูกใส่กรอบและนำมาประมูล
ในเว็ปขายพระชื่อดังแต่ที่เป็นหลักฐานคือ
ด้านหลังกรอบผ้ายันต์เจ้าของเดิมได้ใส่
ใบอนุโมทนาบัตรในการทำบุญไว้
ระบุวันที่ 4 มีนาคม พศ.2503 ซึ่งเป็น
หลักฐานที่ยืนยันได้ว่าหลวงพ่ออ่องท่าน
ต้องย้ายมาที่วัดใหม่พิเรนทร์ก่อนปีพศ.2503
อย่างแน่นอนเมื่อเปรียบเทียบช่วงเวลาแล้ว
ก็เป็นไปได้ว่าท่านน่าจะย้ายออกจากวัดอัมพวา
หลังจากที่หลวงปู่แป้นมรณภาพไม่นาน
เหตุที่ท่านย้ายวัดไม่มีข้อสรุปอาจเป็นเหตุผล
ส่วนตัวของท่าน ซึ่งอาจเป็นเพราะครูบาอาจารย์
ท่านไม่อยู่แล้วท่านจึงเลือกที่เดินในเส้นทางธรรม
ตามแนวทางของตัวท่านเอง
วัตถุมงคลที่ท่านสร้างให้กับวัดใหม่พิเรนทร์
เท่าที่มีข้อมูลและเชื่อถือได้ได้แก่
1.ผ้ายันต์พุทธนิมิตร ที่มีรูปภาพท่านและชื่อของท่าน
ปรากฎที่ผ้ายันต์ พศ.2503
2.ผ้ายันต์หน้าวัวหลวงปู่โต๊ะจากคำบอกเล่า
พระครูวิมลจิตตานุโยค (ดร.ศิริวัฒน์ วิชาผา)
ผ้ายันต์ผืนนี้ผู้จัดเก็บข้อมูลไม่เคยเห็นผืนจริง
3.พระสมเด็จอรหัง จัดสร้างก่อนปี พศ.2511 ออกในนาม
"วัดใหม่พิเรนทร์"เป็นพิมพ์เดียวกันกับสมเด็จอรหังที่จัดสร้างในปีพศ.2511 แต่เนื้อขององค์พระจะออกสีเหลืองมากกว่าสมเด็จอรหังที่จัดสร้างในปีพศ.2511
และองค์พระมีขนาดเล็กกว่าเมื่อลองเทียบกัน
เป็นพระมวลสารหลักเดียวกันแต่ผสมคนละครั้งจึงทำให้เนื้อพระแตกต่างกัน พระชุดนี้ใช้แจกในงานศพหลวงพ่ออ่องและบรรจุไว้บนหลังคาหอสวดมนต์และหลังคากุฎิที่เหลือเปิดให้ทำบุญงานบุญต่างๆของวัดใหม่พิเรนทร์
4.พระสมเด็จอรหังและพระกลีบบัว จัดสร้างปีพศ.2511
(จัดสร้างเพื่อบรรจุกรุไว้เพื่องานพระศาสนา)
ตามพินัยกรรมของ นาวาโท กวี รัตนวโรภาส พศ.2550
พระชุดนี้ทางญาติได้ถวายให้กับวัดบวรฯมอบถวายแด่
เจ้าประคุณสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช
สกลมหาสังฆปริณายก เมื่อปีพศ.2552 ในวาระครบรอบสถาปนาเป็นพระสมเด็จพระสังฆราชครบ 20 ปี
ทรงเจริญพระชนมายุ 69 พรรษา(ครบ8รอบ)
หลวงพ่ออ่องท่านมรณภาพลงเนื่องจากท่านอาพาธและมรณภาพอย่างสงบณ.โรงพยาบาลสงฆ์ พญาไท
เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม พศ.2517
สิริรวมอายุ 72 ปีพรรษาที่ 49 พิธีศพของท่านจัดขึ้นที่
วัดใหม่พิเรนทร์มีการจัดเก็บศพไว้ 100 วันก่อนจะเผา
เมื่อเผาแล้วทางญาติก็นำอัฐิท่านกลับภูมิลำเนาเดิม
ทรัพย์สินของท่านทั้งหมดฝากไว้ในบวรพระพุทธศาสนา
ดังปรากฎกุฎิในชื่อของท่านที่ตั้งงอยู่หน้าบันกุฎิ คณะ 7 ริมคลองภายในวัดใหม่พิเรนทร์ระบุการสร้างเมื่อปีพศ.2518 หลังจากท่านมรณภาพ 1ปี
เครดิตข้อมูล กราบขอบพระคุณ
พระครูวิมลจิตตานุโยค (ดร.ศิริวัฒน์ วิชาผา)
พระลูกวัดใหม่พิเรนทร์ใกล้ชิดกับหลวงพ่ออ่อง
เครือญาติใกล้ชิดหลวงพ่ออ่อง
นางสาว ทิพอาภา รัตนวโรภาส
นางสาว ระพิภัท รัตนวโรภาส
นายรังสี รัตนวโรภาส
น้าแป๋ว อายุ60ปีท่านอยู่ที่วิหารหลวงพ่อเทพมงคล
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
