14 มิ.ย. 2022 เวลา 00:02 • หุ้น & เศรษฐกิจ
จากการที่เงินเฟ้อของอเมริกายังปรับตัวเพิ่มขึ้นมาที่ 8.5% ตลาดเริ่มกังวลเพิ่มขึ้น ในการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้นของ Fed ในการขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย
ส่วนเงินเฟ้อบ้านเราปรับขึ้นมา 7.1% และแนวโน้มน่าจะเพิ่มสูงกว่านี้ เพราะยังมีการอั้นของราคาสินค้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันดีเซล หรือที่กระทรวงพาณิชย์เข้าไปควบคุม ทางแบงค์ชาติถึงแม้ครั้งนี้จะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ย แต่ได้ส่งสัญญาณชัดเจนในการจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อจะจัดการเงินเฟ้อที่เกิดขึ้น ส่งผลสะเทือนต่อสินทรัพย์ต่างๆ อย่างตลาดหุ้น มาอ่านกันว่าทำไมตลาดหุ้นไม่ชอบเงินเฟ้อกัน
ถ้าบริษัทไม่สามารถส่งผ่านต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นไปยังผู้บริโภคได้ ก็จะส่งผลต่อกำไรของกิจการ และเมื่อเงินเฟ้อเพิ่มมากเกินไป ธนาคารกลางอาจปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย
เมื่อมีเงินเฟ้อเริ่มเพิ่มมากเกินไป ธนาคารกลางจมีการะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เราจะได้ยินข้าวว่า FED หรือธนาคารกลางสหรัฐมีแผนจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกหลายครั้งในปีนี้ เพื่อจะควบคุมภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นของอเมริกา ส่วนแบงค์ชาติบ้านเราก็ส่งสัญญาณถึงการขึ้นดอกเบี้ยชัดเจนขึ้น
และเมื่อมีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยขึ้น ก็จะส่งผลต่อทั้งดอกเบี้ยเงินฝาก ผลตอบแทนของตราสารหนี้ และดอกเบี้ยเงินกู้ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลต่อตลาดหุ้นได้ ใน 2 ประเด็นหลัก จากการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย
1. เมื่ออัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพิ่มขึ้น ส่งผลต่อภาระดอกเบี้ยจ่ายของบริษัทโดยเฉพาะถ้าบริษัทนั้นมีหนี้สินมาก นอกจากนั้นการกู้เงินเพื่อไปเพิ่มกำลังการผลิต หรือขยายกิจการของผู้ประกอบการต่างๆ ก็จะต้องระวังมากขึ้น ทำให้มีอาจผลต่อการเติบโตในอนาคตได้จากดอกเบี้ยที่ปรับขึ้น โดยเฉพาะกิจการที่มีหนี้สินที่ภาระดอกเบี้ยจ่ายมาก
2. ส่วนกิจการที่ไม่ได้มีหนี้สินมาก ก็มีผลเช่นกัน เนื่องจากเมื่อผลตอบแทนจากสินทรัพย์ไม่เสี่ยงอย่างตราสารหนี้เพิ่มขึ้น ก็ทำให้ความน่าสนใจของหุ้นน้อยลง อธิบายได้จากเรื่องของ earning yield gap
Earning Yield จะคิดมาจาก กำไรหารด้วยราคา หรือก็คือ E/P นั่นเอง ซึ่งก็คือส่วนกลับของ P/E ratio (P/E ratio คือ ราคาหารด้วยกำไร)
Earning Yield Gap = Earning Yield – Bond Yield
จากสมการนี้จะเห็นว่า ถ้านักลงทุนต้องการ Earning Yield Gap เท่าเดิมในการที่เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น ขณะที่ Bond yield หรืออัตราผลตอบแทนของพันธบัตรหรือตราสารหนี้เพิ่ม ก็คือการที่หุ้นต้องมี Earning Yield ที่เพิ่ม เพื่อให้ Earning Yield Gap เท่าเดิม
และก็อย่างที่เล่าไปว่า earning yield คือ ส่วนกลับของ P/E ดังนั้น P/E ของหุ้นก็ควรลดลง ซึ่งการที่ P/E จะลดได้ก็เป็นได้จาก บริษัททำกำไรได้มากขึ้นซึ่งก็จะยากเพราะต้นทุนที่สูงขึ้นไม่สามารถส่งผ่านไปยังผู้บริโภคได้ทั้งหมด และภาระดอกเบี้ยที่ขึ้น หรือ ราคาหุ้นต้องถูกลงนั่นเอง ดังนั้นจะมักเกิดเรื่องของราคาที่หุ้นที่ปรับลดลงมากกว่า
#yield #EarningYieldGap #bondyield #อัตราผลตอบแทน #ลงทุน #หุ้น #พันธบัตร #พันธบัตรรัฐบาล #หมอยุ่งอยากมีเวลา #เงินเฟ้อ #ดอกเบี้ย #ตลาดหุ้น
โฆษณา