14 มิ.ย. 2022 เวลา 04:11 • การตลาด
บทความที่เขียนไว้เมื่อ 6 ปีที่แล้ว ในวันที่ 14 มิถุนายน 2559 กับเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น จะเรียกว่าผู้มาก่อนกลาลได้ไหมเนี่ย....
ในทุกๆวัน Facebook มีการแจ้งเตือนข้อความที่เราเคยโพสต์ไว้ วันนี้ก็เช่นเดียวกัน “ยุคใหม่ฯ” ก็ได้รับการแจ้งเตือน ซึ่งสะดุดข้อความที่ตัวเองเขียนไว้เรื่อง “อะไรที่คิดว่ามั่นคง ภาวการณ์ปัจจุบันคงไม่ใช่แล้ว”
พอกลับมาอ่านอย่าละเอียดอีกครั้ง กลายเป็นว่ามันเกิดขึ้นแล้วจริงๆด้วย ลองมาดูกันว่าเนื้อหามีอะไรบ้าง
คนเหล่านั้นก็รายได้สูงบางคนเป็นลูกจ้างระดับสูงเงินเดือน 6 หลักขึ้นไปด้วยซ้ำ อาชีพของหลายคนก็ดูว่ามั่นคงนะเพราะมีฐานลูกค้าแน่นอนชัดเจนยอดขายก็เติบโต มีเงินเก็บมีทรัพย์สินที่ซื้อเก็บไว้ยามเกษียณ น่าจะอยู่ได้สบาย
Credit:  MTR > Graduate Recruitment
อึม....แน่ใจเหรอว่ามั่นคงปลอดภัยจริง แล้วอะไรหล่ะที่ทำให้คิดว่าคนที่เชื่อตนเองมั่นคงปลอดภัยในอาชีพการงานไม่ได้มั่นคงอย่างที่คิดแล้ว
มีข้อมูลจากหลายแหล่งที่ทำการคำนวนให้เราวางแผนล่วงหน้าในวัยเกษียณว่าต้องใช้เงินเท่าไหร่สำหรับคนโสด
ซึ่งล่าสุดที่อ่านเจอมา คนทั่วไปหากจะเกษียณในวัย 60 ปี แล้วคาดว่าจะมีอายุยืนยาวอยู่ถึง 80 ปี จะต้องใช้เงินประมาณ 36 ล้านบาท ในการใช้ค่าครองชีพที่ประมาณ 20,000 บาท/เดือน อัตราเงินเฟื้อ 3.5% อ้าวแล้วถ้าป่วยหล่ะ เงินเฟื้อเกินกว่านี้หล่ะ (พ.ค. 65 ขึ้นไป 7% กว่าๆแล้ว)
แล้วหากเกิดเหตุที่ไม่คาดคิดอีกหลายอย่างเข้ามา (หลายคนชอบถามว่าเหตุอะไรบ้าง แหม...ถ้ารู้จะเรียกว่าเหตุที่ไม่คาดคิดเหรอ เจ๊ก็) เงินที่มีก็ไม่พอนะสิ
Credit: East Coast Tax and Financial Planning
อ้อ....คนที่มีครอบครัวหล่ะ อันนี้ยิ่งไปกันใหญ่เลย Go So Big ไปเลยว่างั้น เงินที่คาดการณ์ไว้ที่ 36 ล้านบาทนี่สำหรับคนๆเดียวนะครับไม่มีคู่ชีวิตไม่มีบุตรหลาน ไม่ต้องผ่อนบ้าน ไม่ต้องผ่อนรถ อ้าว......แล้วทำอย่างไรหล่ะที่นี้ เงินเดือนที่รับสูงๆ รายได้จากธุรกิจที่ว่ามั่นคงมันจะพอเหรอ
"ยุคใหม่ฯ" ไม่ได้ตั้งใจให้คนที่อ่านบทความนี้มองไปในแง่ลบนะครับ มนุษย์เราอยู่รอดได้มาเป็นหลายพันหลายหมื่นปีได้ก็แสดงว่ามันก็ต้องมีวิธีให้เรารอดสิน่า เพียงแต่ให้ตระหนักว่าต้องทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อรองรับสถานการณ์ในอนาคตเท่านั้นเอง
สิ่งที่เราต้องรับทราบถึงผลกระทบเราทุกวันนี้นั่นก็คือการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงที่มาจาก นวัตรกรรม คนที่มั่นใจตัวเองมากๆแน่ใจแล้วหรือ ทั้งผู้ที่มีรายได้สูงๆจากการทำงานเป็นลูกจ้าง เจ้าของกิจการที่มียอดขายที่เติบโต “ยุคใหม่ฯ” ขอยกตัวอย่างเลยนะครับว่าอะไรที่จะเปลี่ยนไปทำให้หลายคนตกงานหรือธุรกิจต้องมลายหายไป
ที่มา TerraBKK
วงการยานยนต์ มีการปรับเปลี่ยนตนเองไปโดยการใช้หุ่นยนต์แทนคน บางส่วนจะตกงาน แต่ว่าเรื่องนี้มันพื้นๆ ภัยคุกคามที่ใหญ่กว่าคือเราจะสังเกตเห็นว่ารถรุ่นใหม่ๆ จะเป็นรุ่นที่มีแผงวงจรอุปกรณ์ทางเทคโนโลยีมากมาย สามารถวิเคราะห์ตัวเองได้เลยว่าจะต้องทำอะไรแล้วเครื่องเสียที่จุดไหน
อ้าว....แล้วช่างซ่อมในปัจจุบันที่ค่าจ้างแพงๆเพราะมีฝีมือดีหล่ะ แล้วอู่ซ่อมรถที่เห็นว่าต้องจองคิวซ่อมกันล่วงหน้าเป็นเดือนหล่ะ คนเหล่านี้จะตกงานแน่นอนถ้าเขาไม่เปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อหาหลักประกันรองรับ เพราะอู่ซ่อมข้างนอกไม่มีความจำเป็นแล้วนะสิทีนี้ นี่ขนาดธุรกิจเดียวนะยังกระทบขนาดนี้
แล้วธุรกิจอื่นๆหล่ะจะเป็นอย่างไรบ้าง บอกได้เลยว่าไม่ต่าง
เราลองสังเกตุรอบตัวเราสิว่ามีธุรกิจอะไรที่มีผลประกอบการที่ดีบ้าง น้อยมากๆเลยนะครับ แต่ไม่มีอะไรที่จะแย่อย่างเดียวหรอก โลกเรามีความสมดุลเสมอ ธุรกิจบางประเภทก็รุ่งเรืองแทน อย่างเช่น การโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์ วิทยุ ป้ายข้างทาง สื่อสิ่งพิมพ์ ฯลฯ ล้วนแล้วแต่อยู่ในขาลง
ที่มา True Digital Academy
แต่กลับมาเพิ่มในส่วนของการขายผ่านระบบออนไลน์แทน งบโฆษณามากๆก็เอามาจ้าง Net Idol ที่เขาเหล่านั้นมีจุดขายแต่ต้นทุนการจ้างย่อมเยาว์มาก และช่องทางนี้ก็เปิดกว้างให้ผู้คนนำเสนอแนวคิดที่แตกต่าง ทำให้เราได้เห็นนวัตรกรรมที่เปลี่ยนแปลงโลกไปอย่างรวดเร็ว
เราจะรับมืออย่างไรกันหล่ะทีนี้ ในความเห็นของผู้เขียนบอกได้เลยไม่ได้ยากเลย เพราะความไม่แน่นอนคือความแน่นอน เป็นวลีที่น่าจะมีมาหลายปีหรือมีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลก็เป็นได้
การจัดการต่อสถานการณ์มีเพียง 2 แบบคือ สิ่งที่เป็นความเสี่ยง กับความไม่แน่นอน ความเสี่ยงแน่นอนเราจัดการได้ ก็เพราะว่าเรารู้ล่วงหน้าแล้วเราสามารถเตรียมการได้ เช่น รู้ว่าฝนตกต้องเปียกเราก็กางร่มหรือไม่ออกจากบ้าน
Credit: Quora
เราจะรู้ว่ายังไงคนเราก็ต้องป่วยไม่เป็นโรคใดก็โรคหนึ่ง เราก็ไปออกกำลังกายดูแลอาหารการกิน เป็นต้น ส่วนความไม่แน่นอนซึ่งก็แน่นอนว่าเราไม่รู้ล่วงหน้าเพราะถ้ารู้มันจะกลายเป็นความเสี่ยง เช่น เกิดหิมะตกที่ภาคใต้ หรือจู่ๆก็มีเด็กโตมาฉลาดกว่าครูจนครูต้องตกงาน เป็นต้น
เมื่อเรารู้ว่าการจัดการต่อสถานการณ์มี 2 แบบ เราก็หาทางที่จะตอบสนองต่อสิ่งนั้น และที่เห็นๆว่าการเปลี่ยนแปลงเกิดจากอะไร ก็ทำให้องค์กรหน่วยงานหรือตัวเราเองมีนวัตรกรรมเสียสิ และที่สำคัญที่สุดต้องมีการหาแผนสำรองในชีวิตไว้ด้วยนะครับ อย่าไปมั่นใจในสิ่งที่ทำอยู่ว่าเพียงพอแล้วมั่นใจและมั่นคงแล้ว มองหาช่องทางอื่นๆไว้ด้วยนะครับ
Credit:  Co-Active Training Institute
สิ่งไหนที่ไม่มีการเติบโตหรือขยายสิ่งนั้นก็กำลังนับถอยหลังสู่การถดถอยแล้ว แค่เราไม่ได้ทำอะไรใหม่ๆเราก็ถดถอยแล้ว ออกจากเขตที่คิดว่าปลอดภัยเปิดใจรับฟังสิ่งใหม่ๆจากผู้คน เราเลือกได้ว่าจะเป็นนักเรียนรู้ที่ให้ผลตอบรับที่ดีขึ้นหรือนักตัดสินที่มีแต่กล่าวโทษติเตียนพร่ำบ่นต่ออะไรต่างๆที่ไม่ใช่ตัวเรา คุณเลือกได้ดูที่ผลลัพธ์ที่จะได้แล้วเราจะรู้ว่าเราควรเลือกอะไร
คัดข้อความมาจาก https://www.facebook.com/SBuddha/
สามารถติดตามข้อมูลแนวคิดทางการตลาดยุคใหม่ได้ที่
Instagram: Modernization Marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
Face Book Page: Modernization Marketing
YouTube Channel: Modernization marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
โฆษณา