14 มิ.ย. 2022 เวลา 05:13 • หุ้น & เศรษฐกิจ
🐻 Bear Market แต่ละรอบหุ้นสหรัฐฯติดลบเท่าไหร่ 📊
ตลาดหุ้นสหรัฐฯเข้าสู่ภาวะ bear market หรือตลาดหมีเป็นที่เรียบร้อยแล้วในเมื่อคืนที่ผ่านมา (13 มีนาคม 2022) โดยเรานิยาม bear market ว่าคือ ภาวะที่ตลาดหุ้น เช่น ดัชนี S&P500 ปรับตัวลงจากระดับสูงสุดมากกว่า 20% ขณะที่ถ้าเราไปดูดัชนี Nasdaq ที่เป็นส่วนประกอบเป็นหุ้นเทคโนโลยีในสัดส่วนที่สูง จะพบว่าดัชนี Nasdaq ได้เข้าสู่ bear market มาซักพักแล้ว
การปรับตัวลงกว่า 20% คงทำให้นักลงทุนหลายๆคนกังวลใจ และอาจเริ่มคิดถึงการ cut loss แล้วไปถือเงินสดกันมากขึ้น แต่บางทีการเทขายสินทรัพย์ในช่วงที่ภาวะตลาดกำลังย่ำแย่แบบนี้ แล้วไปถือแต่เงินสดอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะว่าในปัจจุบันอัตราเงินเฟ้อทั่วโลกอยู่ในระดับสูงมากๆ
ดังนั้นการถือแต่เงินสดก็จะเท่ากับว่าขาดทุนอยู่ดี เพราะกำลังซื้อลดลงเรื่อยๆ ดังนั้นบางทีการเลือกลงทุนต่อไปอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะ
1️⃣ ไม่มีใครบอกได้แม่นยำว่าจุดต่ำสุดของตลาดอยู่ตรงไหน เช่นเดียวกับไม่มีใครบอกได้ว่าจุดสูงสุดของตลาดอยู่ตรงไหนเช่นกัน
2️⃣ จากสถิติย้อนหลังแล้ว การ buy & hold มักทำผลงานได้ดีกว่าการ trading ยกเว้นแต่คุณจะเป็นเทพด้าน technical analysis
3️⃣ ถ้าขายออกไปถือเงินสดตอนนี้ ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะกลับไปซื้อสินทรัพย์ได้ในราคาที่ถูกลง โดยจากประสบการณ์การทำงานของนิคกี้แล้วพบว่าส่วนใหญ่กลับเข้าไปซื้อในราคาที่แพงกว่าตอนขายออกกันซะด้วยซ้ำ เพราะมัวแต่รอให้ตลาดเป็นขาขึ้นชัดๆก่อน
ดังนั้นวันนี้นิคกี้ได้นำสถิติการเกิด bear market ของดัชนี S&P500 ในอดีตตั้งแต่ปี 1928 มาให้ดูกันคะ โดยในภาพรวมแล้วตลาดมักปรับตัวลงเฉลี่ย 38.26% และใช้เวลาเฉลี่ยประมาณ 566 วัน โดยรอบที่ปรับตัวลงแรงๆจะมีปี
🔸 1929 - 1932 ▶️ Great Depression
🔸 1937 - 1942 ▶️ World War 2
🔸 1973 - 1974 ▶️ US Recession, USD Devaluation, Oil Crisis, President Nixon resigned
🔸 2000 - 2002 ▶️ Dotcom Bubble
🔸 2007 - 2009 ▶️ Global Financial Crisis, Subprime Crisis
เมื่อเราเห็นภาพแบบนี้แล้ว จะพบว่าการเข้าสู่ภาวะ bear market ในตอนนี้อาจไม่ใช่จังหวะ cut loss ซักเท่าไหร่ เนื่องจากการปรับตัวลงแรงๆมักจะเกิดในช่วงที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ ขณะที่ถ้าเป็นการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย การปรับตัวลงในดับ 25-30% มักจะเอาอยู่ และนิคกี้ยังคงมองรอบนี้เราจะเกิดแค่ recession ไม่ใช่ crisis ทำให้ downside หลังจากนี้น่าจะมีไม่เยอะแล้วนั่นเองคะ
📌 FED Behind The Curve, ECB Behind The FED, BOT Behind Everyone | Weekly Market Wrap Up By BeautyInvestor
🎯 5 วิธี… รับมือพอร์ตแดง | Investment 101 by BeautyInvestor
Source: Bloomberg
✅ ทั้งนี้ อย่าลืมติดตามนิคกี้เพิ่มเติมได้ทาง
#เศรษฐกิจ #การเงิน #ลงทุน #กองทุน #มือใหม่ #ข่าวเศรษฐกิจทั่วโลก #ข่าวทั่วโลก #ARK #GINNO #TMBESGINNO #กลต #ECB #Commodities #WeeklyNews #หุ้น #กองทุนรวม #ดอกเบี้ย #นักลงทุน #จีน #GDP #พาวเวลล์ #สหรัฐฯ #Terra #UST #รัสเซีย #เงินเฟ้อ #หุ้นจีน #ยุโรป #เวียดนาม #Bitcoin #คริปโต #Bloomberg #Crypto #FED #เฟด
โฆษณา