"Once Upon a Time in Hollywood" 2019
กาลครั้งหนึ่งในฮอลลีวูดกับการเอาคืนเรื่องจริงที่สุดแสบ
Once Upon a Time in Hollywood
ผลงานภาพยนตร์คอมเมดี้-ดราม่า ที่ยังคงกลิ่นอายตลกร้ายจาก เควนติน ทาแรนติโน่ หนึ่งในผู้กำกับที่มีลายเซ็นชัดเจนมากที่สุดอีกคนหนึ่ง โดยทำรายได้ทั่วโลก 374 ล้านเหรียญสหรัฐ และยังถูกเสนอชื่อเข้าชิงก่อนจะกวาดรางวัลไปอีกมากมาย
ทั้งยังได้สามนักแสดงหลักมาเป็นตัวชูโรง ไม่ว่าจะเป็น ลีโอนาร์โด ดิคาพริโอ (Leonardo DiCaprio) รับบทเป็น ริค ดาลตัน ดาราทีวีหนังคาวบอยที่กำลังหมดความนิยม โดยมีคนขับรถเป็นสตันท์แมนคู่บุญ คลิฟฟ์ บูธ รับบทโดย แบรด พิตต์ (Brad Pitt) นำมาสู่จุดเชื่อมสำคัญที่ ริค เป็นเพื่อนบ้านติดกันกับผู้กำกับ โรมัน โปลันสกีและแฟนสาว ชารอน เทต (มาร์โกต์ ร็อบบี้ Margot Robbie)
ซึ่งหนังได้เล่าจิกกัด โศกนาฏกรรมที่โหดร้ายของฮอลลีวูดและได้กลายเป็นคดีสะเทือนขวัญ เรื่องจริงของ ชารอน เทต ที่ถูกฆาตกรรมอย่างน่าสยดสยองขณะตั้งครรภ์ โดยฝีมือกลุ่มฮิปปี้คลั่งลัทธิของ ชาร์ลส์ แมนสัน หรือในชื่อ แมนสันแฟมมิลี่ ในปี 1969
โดยหนังได้พาย้อนไปสู่บรรยากาศการถ่ายทำของ ริค (ดิคาพริโอ) ในฮอลลีวูดในยุคนั้น การเปิดตัวของ คลิฟฟ์ (แบรด พิตต์) ซึ่งต้นเรื่องที่แทบจะเต็มไปด้วยบทพูดยาว ตามสไตล์ เควนติน ก่อนที่จะนำมาสู่ซีนท้ายที่ทรงพลังเปรียบเสมือน "การเอาคืนเพื่อชำระแค้นแทนโลกความเป็นจริง" ซึ่งหากใครที่ทราบข้อมูลคดีนี้ก่อนดูก็จะอินกับหนังได้อีกขั้น
ส่วนบรรยากาศในตัวหนังทั้ง การตัดต่อ งานภาพ เพลงประกอบ ทุกอย่างลงตัวไหลลื่น แม้หนังจะค่อยๆปูเรื่องไปอย่างเนิบๆ แต่ก็ยังมีความโหด เลือดสาด พอให้เห็นอยู่บ้าง
อีกซีนที่รู้สึกชอบมากๆ คือฉากที่ คลิฟฟ์ (ป๋าแบรด พิตต์) บุกไปรังของ ครอบครัวแมนสัน (Manson Family) มันทั้งเท่ ทั้งลุ้น และรู้สึกถึงอันตรายไม่แปลกเลยที่ป๋าจะคว้ารางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจากเวทีออสการ์ไปครอง
รวมไปถึงบทสรุปของหนังที่ทำให้คนดูโดนหลอกให้ติดกับเข้าอย่างจัง มันเป็นหมัดเด้ดที่พาให้หนังเรื่องนี้จบลงอย่างสมบูรณ์และสวยงาม ทุกอย่างในหนังมันคือ จดหมายรักถึง Hollywood ในยุค '60s ที่สื่อผ่านปลายปากกาของชายที่ชื่อ เควนติน ทาแรนติโน่ ใครที่เป็นแฟนหนังของเฮียเควนตินก็ไม่มีเหตุผลอะไรให้ต้องพลาดเรื่องนี้
ปล.1 แนะนำให้ไปหาอ่านข่าวคดีของ ชารอน เทต มาก่อนรับชม จะทำให้ได้อรรถรสในการดูยิ่งขึ้น
ปล.2 ด้วยความที่หนังยาวเกือบ 3 ชม. แถมเต็มไปด้วยบทพูด หากไม่โฟกัสกับหนังก็อาจจะทำให้ชวนง่วงได้ แต่ก็นะ สไตล์หนังของ เควนติน ถ้าหากชอบก็รักไปเลย แต่ถ้าไม่ก็คือเกลียดไปเลย
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
