6 ก.ค. 2022 เวลา 12:30 • ประวัติศาสตร์
10 อันดับ ฆาตกรต่อเนื่องที่ฆ่าคนมากที่สุดในโลก
สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านทุกท่าน วันนี้เรดขอนำเสนอ A True Story ซึ่งเป็นซีรีย์แรกของเรด เป็นการจัดอันดับที่สุดของในหลายๆเรื่อง การรวบรวมเรื่องแปลก เรื่องที่หลายคนไม่เคยรู้ (หรือรู้แต่อาจจะไม่ใช่ทุกคน) และในฐานะที่เรดเองก็เขียนบทความเกี่ยวกับฆาตกรรมมาเยอะพอสมควร วันนี้ขอประเดิมบทความแรกด้วยเรื่อง
10 อันดับฆาตกรต่อเนื่องที่ฆ่าคนมากที่สุดในโลก ยังไงก็ฝากติดตามซีรีย์ A True Story ของเรดด้วยนะคะ ขอบคุณค่าา
*** ฝากอ่านนิ๊ดด งดดราม่านะค๊าา ***
การจัดอันดับนี้ ไม่ได้อ้างอิงจากข้อมูลปัจจุบันล่าสุด แต่อ้างอิงจากการรวบรวมบทความจากต่างประเทศ ยึดจากบทความและคำสารภาพของฆาตกร รวมถึงหลักฐานที่ตำรวจยึดได้เท่านั้น โดยไม่สามารถระบุเป็นจำนวนที่แน่นอนได้ (แต่ระบุคร่าวๆได้)
1
- และนี่ก็คือ 10 อันดับ ฆาตกรต่อเนื่องที่ฆ่าคนมากที่สุดในโลก -
Cr.photo : count.center
อันดับที่ 10 - แกรี ลีออง ริดจ์เวย์ (Gary Ridgeway)
แกรี ลีออง ริดจ์เวย์ ได้รับฉายาว่า เป็นนักฆ่าแห่งลุ่มน้ำเขียว เขาเป็นช่างทาสีรถบรรทุก แห่งเมืองซิแอตเทิลและทาโคน่า รัฐวิชิงตัน วัย 54 ปี เขารับสารภาพว่า ตลอดช่วงปี 1980-1990 เขาได้ฆ่าคนไปแล้วกว่า 50 คน (เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าอาจมีมากกว่านั้น)
โดยเลือกเหยื่อที่เป็นโสเภณี เขาเกลี้ยกล่อมให้เหยื่อคล้อยตามเพื่อหลับนอนด้วยกัน และเมื่อเหยื่อเผลอเขาก็แอบรัดคอเหยื่อจากทางด้านหลัง จนเหยื่อขาดอากาศตาย และเขาได้ถูกจับกุมเมื่อปี 2001 โดยถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต โดยไม่ให้มีการปล่อยตัว และปัจจุบันเขาก็ยังใช้ชีวิตอย่างสุขสบายดีในคุก
อันเกร ชิกาทิโล (Andrei Chikatilo)
อันที่ 9 - อันเกร ชิกาทิโล (Andrei Chikatilo)
อันเกร ชิกาทิโล ฆาตกรต่อเนื่องที่โหดที่สุดในรัสเซีย ในรอสตอฟ โดยเริ่มก่อคดีฆาตกรรมเมื่อปี 1978-1992 เหยื่อของเขาเป็นเด็กและผู้หญิง ความน่ากลัวของเขานอกจากการฆ่าแล้ว เขายังกินศพที่เขาฆ่าอีกด้วย โดยเหยื่อมักจะเป็นคนไร้บ้าน ที่อาศัยอยู่ข้างทาง อันเกร ชิกาทิโล เป็นคนไร้สมรรถภาพทางเพศ แต่เขาสามารถถึงจุดสุดยอดได้ต่อเมื่อเหยื่อขัดขืน หรือ หวาดกลัวเขา
นั่นยิ่งทำให้เขาพอใจ และชอบเล่นกับเหยื่อเพื่อสำเร็จความใคร่ตัวเองทุกครั้งก่อนที่จะลงมือฆ่า แต่การเล่นกับเหยื่อของเขาช่างน่าสยดสยองยิ่งนัก เช่น แทงศพด้วยมีดซ้ำแล้วซ้ำเล่า บางรายถูกควักลูกตาในขณะที่มีชีวิตอยู่ บางรายถูกผ่าท้องในขณะที่ยังมีชีวิต และหลายครั้งเขาก็มักจะเฉือนอวัยวะภายในเมื่อกินชิ้นส่วนสดๆของเหยื่อ หรือบางครั้งก็นำชิ้นส่วนกลับไปประกอบอาหารที่บ้านก็มี
1
เขาลอยนวลอยู่นานนับ 12 ปี จนกระทั่ง 14 เมษายน 1992
อันเกร ก็ถูกจับกุม และถูกตัดสินประหารชีวิต ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 1994 ในเวลาต่อมา
บรูโน่ ลุค (Bruno Lüdke)
อันดับที่ 8 - บรูโน่ ลุค (Bruno Lüdke)
บรูโน่ ลุค เกิดที่เยอรมัน ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เขาเริ่มฆ่าคนเมื่ออายุ 18 ปี และเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่ฆ่าคนมาแล้วมากกว่า 80 ศพ โดยเมื่อครั้งยังเด็กเขาเป็นคนเร่รอนและหัวขโมย โดยเขาได้เริ่มก่ออาชญกรรมทางเพศมานานกว่า 15 ปี โดยสภาพศพส่วนใหญ่มักถูกข่มขืนและถูกแทงหลายแผล
1
วันที่ 29 มกราคม 1943 (หลังสงครามโลกครั้งที่ 2)
บรูโน่ก็ถูกตำรวจจับกุม แต่ทางการแพทย์เกิดสงสัยเรื่องพฤติกรรมความโหดร้ายของเขา จึงอยากศึกษาหาสาเหตุว่าเหตุใด เขาถึงฆ่าคนได้มากมายเช่นนี้ โดยแพทย์ระบุว่าเขาเป็นผู้บกพร่องทางจิต ต่อมาบรูโน่จึงถูกนำตัวไปทดลองทางการแพทย์และนั่นก็ทำให้เขาเสียชีวิตลงในปี ค.ศ. 1944
Cr. photo listverse.com
อันดับที่ 7 - จาเว็ด อิคบอล (Javed Iqbal)
จาเว็ด อิคบอล เป็นชาวปากีสถาน อาชีพรับจ้างทั่วไป ฐานะค่อนข้างยากจน ชายคนนี้ได้ลงมือสังหารเด็กมากกว่า 100 ศพ !! โดยใช้เวลาเพียงแค่ 5 เดือนเท่านั้น โดยจาเว็ด ได้ร่วมมือกับเพื่อนของเขาอีก 3 คน ในการก่อคดีสะเทือนขวัญครั้งนี้ เหยื่อทุกรายจะถูกข่มขืน รัดคอด้วยโซ่
เมื่อเหยื่อไร้ลมหายใจ ก็จะนำร่างมาสับออกมาเป็นชิ้นๆ และโยนชิ้นส่วนลงในหม้อที่มีกรดเพื่อทำลายหลักฐาน เขาลงมือทำแบบนี้อยู่เรื่อย ๆ จนเกิดอาการเริ่มเบื่อจาเว็ดเลยเขียนจดหมายเกี่ยวกับพฤติกรรมการฆ่าเด็กให้แก่หนังสือพิมพ์ในเมือง จนในที่สุดเขาก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับได้ ท้ายที่สุดเขาก็ถูกประหารตามกฎของปากีสถาน คือ หากฆ่าเหยื่อตายยังไงก็ประหารชีวิตเท่านั้น
เฮนรี่ ลี ลูคัส (Henry Lee Lucas)
อันดับที่ 6 - เฮนรี่ ลี ลูคัส (Henry Lee Lucas)
เฮนรี่ ลี ลูคัส เป็นฆาตกรต่อเนื่อง เขาตาบอดข้างหนึ่งโดยการก่อคดีของเขา เขาได้ร่วมมือกับ ออตติส เอลวูด เขาทั้งสองช่วยกันสังหารนักท่องเที่ยวที่โบกรถตามทางหลวงของเท็กซัส ฟลอริด้า และ มิชิแกน เขาอ้างว่าได้สังหารคนถึง 3,000 ศพ (แต่ในความเป็นจริงเขาฆ่าเพียง 210 ศพเท่านั้น)
เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถเชื่อคำพูดของเขาได้ เพราะเขามักโกหก จึงทำให้เขาลอยนวลได้นานขนาดนี้ หลังจับกุมลูคัส เจ้าหน้าที่ตำรวจก็บังคับให้เขาสารภาพอยู่นานแต่ไม่เป็นผล จึงต้องใช้วิธีจับลูคัสมาทรมาน เช่น จับเขาเปลือยผ้า ไม่ให้บุหรี่ ไม่ให้เตียงนอน ทำให้เขาตากอากาศเย็นจนล้มป่วย ลูคัสทนได้ 4 วัน
จึงตัดสินใจยอมสารภาพเพื่อแลกกับการรักษา เขาสารภาพว่าได้ฆ่าคนมากกว่า 100 ศพ ในทั่วรัฐอเมริกา
ลูคัสถูกจำคุกในฟลอริด้า ปี 1998 และอยู่ในแดนประหารถึง 15 ปี
ต่อมาปี 1999 จอร์จ ดับเบิลยู บุช ซึ่งได้เป็นผู้ว่าในขณะนั้น ได้ลดโทษประหารชีวิต และเปลี่ยนเป็นจำคุกตลอดชีวิตแทน จนกระทั่งเขาเสียชีวิตจากภาวะหัวใจล้มเหลว เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2001 ด้วยอายุ 64 ปี
เอซ เอซ โฮล์ม (H.H. Holmes)
อันดับที่ 5 - เอซ เอซ โฮล์ม (H.H. Holmes)
เอซ เอซ โฮล์ม ชื่อจริงของเขา คือ เฮอร์แมน เว็บสเตอร์ มัดเกทท์ เป็นนักธุรกิจ หมอ และนักต้มตุ๋น เขาได้สังหารสตรีไปแล้วไม่น้อยกว่า 200 ศพ (แต่เขาสารภาพว่าฆ่าไปเพียง 27 ราย) โฮล์มลงทุนสร้างโรงแรมที่ชิคาโก โดยสร้างห้องกลไลต่าง ๆ เช่น ประตูลับ ผนังเลื่อนได้ ห้องทรมาน และห้องทางการวิทยาศาสตร์ ไว้เพื่อสังหารแขกที่เข้ามาพักโดยเฉพาะ
แขกที่เข้ามาพักมักจะโดนฆ่าด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น ราดน้ำกรด หั่นศพ รมแก๊ส หรือบางรายก็ฆ่าเพื่อจะเลาะเอากระดูกไปขาย และสุดท้ายโฮล์มถูกตัดสินว่ามีความผิด และถูกแขวนคอเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 1897
Cr.Photo : infobae.com
อันดับที่ 4 - เปโด อลองโซ โลเปซ (Pedro Alonso López)
เปโด อลองโซ โลเปซ ฆาตกรต่อเนื่องชาวโคลัมเบีย หรือเจ้าของฉายา อสูรกายแห่งเทือกเขาแอนดีส ได้รับการบันทึกว่าเป็นฆาตกรที่ฆ่าคนมากที่สุดในยุคนี้ โดยฆ่าไปแล้วไม่น้อยกว่า 300 ศพ โดยเฉพาะผู้หญิงเผ่าอินเดียแดง ถูกฆ่าและข่มขืนมากที่สุดถึง 100 ศพ
เปโดรเดินสายฆ่าคนถึง 3 ประเทศ ได้แก่ เปรู โคลัมเบีย เอกวาดอร์ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 3 ประเทศต้องตื่นตัวและเร่งติตตามหาตัวฆาตกรต่อเนื่องรายนี้มาลงโทษให้ได้ และในที่สุดก็จับเปโดรได้ตอนที่เขากำลังก่อเหตุฆาตกรรมอยู่พอดี
1
ปลายปี 1980 เปโดรถูกตั้งข้อหาฆ่าคนมากกว่าหนึ่งคน ศาลพิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิตและมีสิทธิ์ไต่สวนได้อีกครั้งที่ศาลในโคลัมเบีย
1
เปโดรให้ได้สัมภาษณ์ในคุก ว่า หากเขาได้รับการปล่อยตัวออกไป เขาจะกลับตัวเป็นคนดีและเขาก็ถูกปล่อยตัวออกจากคุก เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 1994 เขาใช้ชีวิตอยู่ในคุกเพียง 14 ปี เท่านั้นเอง ซึ่งสร้างความไม่พอใจแก่ญาติผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
1
กิลส์ เดอ เรยส์ - (Gilles de Rais)
อันดับที่ 3 - กิลส์ เดอ เรยส์ - (Gilles de Rais)
กิลส์ เดอ เรยส์ เป็นอดีตคนสนิทของ แจนน์ ดาร์ค (โจน ออฟ อาร์ค) วีรสตรีที่มีชื่อเสียงของประเทศฝรั่งเศส หลังจากที่ แจนน์ถูกศัตรูจับได้ และถูกเผาทั้งเป็น กิลส์รู้สึกเสียใจที่ช่วยเหลือแจนน์ไม่ได้ กิลส์ออกไปทำสงครามบ่อย เขาฆ่าคนและเห็นเลือด เนื้อ คนตาย จากการทำสงครามจนเป็นเรื่องปกติ
1
โดยเชื่อกันว่า กิลส์ได้ขายวิญญาณให้แก่ซาตานด้วย และกิลส์มีความเชื่อว่าเลือดของคนสามารถแปรธาตุออกมาเป็นทองคำได้ ทำให้เขาเริ่มรวบรวมเด็กชายจากทุกที่ต่างถิ่นมารวมกันเพื่อเป็นการสังเวยให้แก่ซาตาน
เด็กที่ถูกสังเวยให้แก่ซาตานจะถูก ผ่าท้องและทึ้งไส้ออกมา และบางครั้งกิลส์ก็ข่มขืนเด็กที่เสียชีวิตแล้วด้วย อีกทั้งเขายังสะสมศีรษะเด็กเป็นจำนวนมาก โดยเขาจะเก็บแต่เด็กที่หน้าตาดี วางประดับบ้านไว้ มีการพบศพเด็กที่ไร้ศีรษะเป็นจำนวนมากในปราสาทของกิลส์ ว่ากันว่า เขาฆ่าคนถึง 1500 ศพ เลยทีเดียว ต่อมากิลส์ถูกตัดสินประหารชีวิตโดยการแขนคอ เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 1440
2
Cr. Photo : pinterest Christa Bella
อันดับที่ 2 - เอลิซาเบธ บาโธรี่ (Elizabeth Báthory)
เอลิซาเบธ บาโธรี่ หญิงสาวสุดโหดที่ฆ่าคนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ฉายาแวมไพร์กระหายเลือด เธอเป็นเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงอำนาจเหลือล้น โดยจะสั่งฆ่าใครก็ได้ เอลิซาเบธชอบเลือดเด็กสาวพรหมจารีเป็นพิเศษ เพราะเชื่อว่าเป็นอายุวัฒนะทำให้ชะลอวัยได้
1
เอลิซาเบธจะรวบรวมสาวชาวบ้านมาจากทุกเมืองในพื้นที่ ที่เธอปกครอง จากนั้นก็ฆ่าและนำเลือดของเด็กสาวมารีดออกเพื่อให้เธอนำมาอาบน้ำ โดยเอลิซาเบธได้จัดทำห้องและอุปกรณ์การทรมานไว้ เช่น เหล็กร้อนเผาลำคอ เครื่องตัดหัว เครื่องทรมานบีบหน้าอก บางครั้งเธอก็ใช้สองมือของเธอล้วงเข้าไปในปากเหยื่อแล้วฉีกร่างของเหยื่อออกเป็นซีก เธอทรมานทุกทางจนเหยื่อเสียเลือดมากและสิ้นลม
3
ต่อมาใน ปี 1611 เอลิซาเบธถูกตัดสินใจให้จำคุกตลอดชีวิต เธอเสียชีวิต 3 ปีให้หลัง แต่บ้างก็เล่าว่า เธอสามารถหนีออกไปได้และกลายเป็นผีร้ายแห่งฮังการี
**เรื่องนี้มีฉบับเต็มที่เรดทำไว้ในบล็อกนะคะ ท่านไหนสนใจตามไปอ่านได้ค่า**
Cr. Photo : board.postjung
อันดับที่ 1 - หลุยส์ อัลเบอร์โต้ การาวิโต้ (Luis Alfredo Garavito)
หลุยส์ อัลเบอร์โต้ การาวิโต้ บางคนเรียกว่า ลูอิส อัลเฟรโด้ การาวิโต้ เจ้าของฉายาอสูตรกายแห่งไร่อ้อย ถือกำเนิดในประเทศโคลัมเบีย จากการสอบปากคำเขาสารภาพว่าได้สังหารเหยื่อไป 1,800 ราย (ช่วงปี 1982-1999) โดยจะเลือกสังหารเด็กชายอายุระหว่าง 6-15 ปี วิธีสังหารคือใช้มีดกระหน่ำแทงเหยื่อย้ำ ๆ แล้วก็ข่มขืนเหยื่ออย่างเมามัน
2
หลังจากฆ่าเหยื่อเสร็จ เขาทิ้งศพไว้ที่ไร้อ้อยของเขา โดยไม่ทำการฝัง หรือทำลายหลักฐานเลย นั่นเป็นเพราะว่า สมัยก่อนกฎหมายประเทศโคลัมเบียค่อนข้างล้าหลัง และมีสงครามกลางเมืองจนเป็นเรื่องชินตา ถึงเขาจะรับสารภาพว่าฆ่าเหยื่อไปมากถึงพันศพ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจแกะรอยหาศพได้เพียง 157 ศพเท่านั้น
3
หลุยส์ อัลเบอร์โต้ ถูกตัดสินจำคุก 2,400 ปี โดยเขาทิ้งท้ายเอาไว้ว่า ถ้าได้ออกจากคุกเขาก็จะยังฆ่าคนอยู่ดี . . .
4
หากท่านใดชื่นชอบบทความนี้ กดไลค์ กดแชร์ กด Follow หรือจะมอบเพชร วิ๊บวับ ๆ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับเรดได้นะคะ 😊
เรดยินดีจะนำบทความดี ๆ ที่น่าสนใจมานำเสนอแก่ทุก ๆ ท่านค่าา ขอบคุณค่ะ ❤️ 😁
เรียบเรียง : Red Diary ❤️

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา