Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
บันทึกลูกชาวนา
•
ติดตาม
16 มิ.ย. 2022 เวลา 01:40 • นิยาย เรื่องสั้น
EP. 11 : ใส่เบ็ดปลา หน้าน้ำหลาก
ทุ่งนา ต้นข้าวและคันแทในหน้าฝน มีอุดมคติของลูกชาวนาที่สัมผัสได้ถึงไออุ่นพิเศษเล็ก ๆ ที่เข้าใจได้โดยนัยของความเฉพาะถิ่น ฤดูกาลเข้าพรรษาเป็นต้นมาล้วนนับเป็นฤดูฝนที่จำต้องเข้าใจได้เป็นอย่างดีว่าต้องมีฝน แต่จะมากหรือน้อย หนักหรือเบาปานใดนั้นไม่อาจคาดการณ์ได้นัก แต่สิ่งที่สัมผัสได้คือมีน้ำในทุ่งนา บ้างก็เยอะจนเอ่อล้น บ้างก็มีพอหล่อเลี้ยงต้นข้าวให้เติบใหญ่ไปสู่การออกดอกผลิเมล็ดหน่วยสืบไป
แมลงปอปีกบางหลายสายพันธุ์บินจับใบยอดข้าวแล้วโผบินไปยังใบอื่น ๆ นั่นคือสิ่งที่งดงามอีกอย่าง ประกอบกับหากถ้ามีแมลงเหล่านี้บินเป็นกลุ่มก้อนเมื่อใด นั่นบ่งบอกว่าฝนทำท่าจะเทมาอีกเป็นที่รับรู้ได้ กลิ่นความเป็นบ้านนอกที่มีทุ่งนาเป็นฐานการเรียนรู้ก็สัมผัสได้เฉพาะตัว สัตว์น้อยใหญ่ที่มากับน้ำนานาชนิด อาทิ ปลา กุ้ง หอย ปูนา งู ไม่ต้องพรรณนามากนัก มีเป็นสัจธรรมของความเป็นวิถี
ปลายเดือนกันยาอย่างวันที่ 30 เช่นนี้ ได้เวลาแบกจอบ เตรียมครุถังและคันเบ็ดประสาลูกชาวนาที่ได้เวลาออกประกอบกิจกรรมแบบที่ควรจะเป็น แม้ว่าลูกหลานในยุคปัจจุบันจะหาอาหารผ่านแอปพลิเคชั่นก็ตามที แต่เรายังคงปฏิบัติแบบที่เราแสวงหา เมื่อทั้งอย่างเตรียมพร้อม จอบที่มีก็ถูกสับลงที่ดินข้างโรงเรือนควายทันที เพราะนั่นคือพื้นที่อยู่ของไส้เดือน อาหารโปรดของปลาที่จะนำไปปักเบ็ดนั่นเอง
■
การจะได้ปลาจากการใช้คันเบ็ดเสียบด้วยไส้เดือนนั้นเป็นสิ่งที่ชาวนาต้องการเพื่อประกอบอาหาร แต่สิ่งที่สุขเทียบกันไปนั้นคือการได้ออกมาเรียนรู้บนคันแทนายามโพล้ค่ำ นั่นล่ะ ความสุขทางอารมณ์ประสาชาวนาอีกอย่าง คันเบ็ด ร้อยกว่าคัน จะได้ปลาติดเบ็ดสักโลหรือมากกว่านั้น น้อยกว่านั้นก็อยู่กับพื้นที่ด้วยว่าน้ำมา ปลามากับน้ำสักกี่มากน้อย
■
ซึ่งในยามนี้แล้วเมื่อพลบค่ำหากมองออกไปที่นาจะมีไฟจากหัวไฟฉายระยิบระยับห่าง ๆ กันออกไป บ่งบอกให้รู้ว่าที่แสงไฟตรงนั้น ต่างก็ออกมาหาอาหารเฉกเช่นกับเราเหมือนกัน
สิ้นกันยามุ่งสู่ตุลาไม่นานในสัปดาห์แรก น้ำที่ไหลบ่าจากเทือกเขาพนมดองเรกก็ค่อย ๆ เพลาลงบ้าง แปลงนาข้าวก็เห็นต้นข้าวเติบใหญ่เพราะได้น้ำ ปะปนอยู่กับหญ้าที่ทนน้ำไม่แพ้ข้าว จึงได้เวลานำอุปกรณ์บ้าน ๆ เราเรียกกันเองว่า อีทุบ อุปกรณ์ล้อเหล็กขนาดเล็กมีตะปุ่มตะปั่มเป็นล้อเดินเหยียบย่ำหญ้าในแถวข้าวให้ล้มหักแล้วน้ำที่มีจะช่วยกำจัดให้หญ้าตายลงเร็วพลัน
●
แต่ทั้งหมดก็ทำเพราะคิดว่าเป็นกระบวนการจัดการประสาของลูกชาวนาแบบเรา ที่ใช้เวลาย่ำค่ำมาลุยน้ำพอได้เหงื่อไปในตัว
“เอาข้าวนำเล้าไปขายแหน่ พอได้ซื้อปุ๋ยบ่หนอ”
พ่อเอ่ยบอกในเย็นวันหนึ่ง
เช้าวันที่ 11 ตุลาคม จึงได้เทียบรถตุ๊กตุ๊กเกษตรแบบเรา คลุมด้วยผ้าแยงเขียวป้องกันข้าวเปลือกไม่ให้หลุดตกออกตามร่องกระบะก่อนจะนำข้าวเปลือกในยุ้งฉางออกมาใส่รถ โดยมีปลายทางการนำข้าวไปขอแลกเงินกับเจ็กที่เส้น 24 เราขนไปเฉพาะข้าวเปลือกแค่ 885 กิโลกรัมเท่านั้น เพราะเฉพาะตัวรถก็หนัก 1310 กิโลกรัมแล้ว เฉลี่ยในการขายครั้งนี้ได้ราคา 10.90 บาท/กิโลกรัม เป็นเงิน 9,647บาท
นี่คงเป็นวิถีแบบเรา ๆ ในรูปแบบลูกชาว ที่ต้องดำเนินการให้เป็นแบบของลูกชาวนา ที่ไม่ได้อวดเก่งนำแต่สิ่งใหม่ ๆ ลืมวิถีเก่า ๆ ทั้งสิ้น แต่เราต้องเข้าใจวิถีดั้งเดิมและเรียนรู้ ปรับใช้ เปลี่ยนไปตามแบบที่เราจัดการได้เองด้วยในส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งก็ต้องเรียนรู้และปรึกษาพ่อแม่และญาติ ๆ คนรอบข้างที่ทำมาก่อนเราทั้งชีวิตอีกส่วนหนึ่ง เรียนรู้ให้เข้ากันให้ได้ และใช้มันได้สุขแบบที่เราอยากเป็นด้วยอีกอย่างหนึ่ง
[ บันทึกเมื่อ 16 มิถุนายน 2565 ]
บันทึก
5
5
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย