Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
วาสนา was
•
ติดตาม
16 มิ.ย. 2022 เวลา 07:18 • ปรัชญา
คนเราหากยังไม่เข้าใจตนเอง จะสามารถเข้าใจผู้อื่นได้หรือไม่ ?
ขอให้อ่านจนจบ
ลูกของเพื่อนคนหนึ่ง เรียนจบมหาวิทยาลัยมาได้ครึ่งปีแล้ว ยังไม่ยอมไปหางานทำ เอาแต่หมกตัวอยู่กับบ้าน กลางวันนอน กลางคืนเล่นอินเตอร์เน็ต
ก่อนหน้านี้ ลูกของเพื่อนคนนี้ได้ขอเงินพ่อแม่ไปทัศนศึกษาที่อเมริกา เพื่อนจึงมาถามว่าควรจะให้เขาไปดีไหม จึงมองผมสีขาวโพลนของเพื่อน แล้วพูดว่า
"หากนายหวังดีต่อลูกจริง ก็ให้ลูกนายไป แต่อย่าให้เงินเขา"
แล้วผมก็คิดถึงเรื่องของน้องเขยของผม เขาเป็นชาวอเมริกัน อยากเป็นกลาสีเรือมาแต่เด็ก อยากจะเผชิญโลกกว้าง อยากจะลองเที่ยวรอบโลกแล้วค่อยกลับมาเรียนหนังสือ แม้พ่อของเขาจะเป็นหมอ ฐานะครอบครัวก็ดี แต่พ่อแม่กลับไม่ได้ให้เงินเขา และตัวเขาเองก็ไม่ได้ขอเงินจากทางบ้านด้วยเช่นกัน
พอจบชั้นมัธยมปลาย เขาก็ไปอลาสกา ทำงานตัดไม้เพื่อเก็บเงิน เนื่องจากที่อลาสกานั้น กลางวันยาวนานกลางคืนสั้น กว่าพระอาทิตย์จะตกก็เป็นเวลาเที่ยงคืน และตีสามพระอาทิตย์ก็ขึ้นแล้ว
1
หากเขาทำงาน 16 ชั่วโมงใน 1 วัน เงินค่าจ้างตัดไม้แค่หนึ่งฤดูกาล ก็ทำให้เขาสามารถเที่ยวรอบโลกได้ 3 ฤดูกาล เขาเดินทางท่องเที่ยวไปรอบโลกเป็นเวลา 2 ปี จึงค่อยกลับมาเรียนมหาวิทยาลัย
เขาเลือกเรียนคณะที่ตัวเองชอบ และครุ่นคิดเลือกสรรอย่างรอบคอบแล้ว ดังนั้นเขาจึงเก็บหน่วยกิตของ 4 ปีได้ครบภายในเวลาเพียง 3 ปี แล้วออกมาทำงาน
การงานของเขาดำเนินไปอย่างราบรื่น ก้าวหน้ารวดเร็วมาก จนได้เป็นหัวหน้าวิศวกร
มีอยู่ครั้งหนึ่ง เขาเล่าเรื่องเรื่องหนึ่งให้ผมฟัง เขาบอกว่าเรื่องนี้ส่งผล
กระทบต่อชีวิตเขาทั้งชีวิตเลยทีเดียว!
ตอนที่เขาทำงานอยู่ในอลาสกา ขณะที่เขากับเพื่อนคนหนึ่งอยู่บนภูเขา ก็ได้ยินเสียงหมาป่าครางโหยหวน เขาสองคนจึงออกค้นหาไปทั่วบริเวณด้วยความตกใจ
สุดท้ายไปเจอแม่หมาป่าตัวหนึ่งถูกกับดักสัตว์หนีบขา และกำลังร้องครวญครางโหยหวนอยู่ เขาเห็นกับดักสัตว์หน้าตาประหลาดนั้นปุ๊บ ก็ทราบทันทีว่าเป็นของคนงานเฒ่าคนหนึ่ง ที่มักดักจับสัตว์เป็นงานอดิเรก เพื่อจะนำหนังสัตว์ไปขายเสริมรายได้
แต่คนงานเฒ่าคนนี้เพิ่งจะถูกเฮลิคอปเตอร์พาไปส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน ด้วยอาการโรคหัวใจ ดังนั้นแม่หมาป่าตัวนี้จึงมีโอกาสอดตาย เพราะไม่มีใครมาช่วยจัดการ!
เขาคิดจะปล่อยแม่หมาป่า แต่แม่หมาป่าดุมากจนไม่สามารถเข้าไปใกล้ๆ ได้เลย เขายังเห็นด้วยว่าแม่หมาป่ามีน้ำนมหยดจากเต้านม แสดงว่ามีลูกอ่อนรออยู่ในรัง ดังนั้น เขากับเพื่อนจึงพยายามค้นหารังหมาป่าอย่างสุดความสามารถ และหาพบในที่สุด
จากนั้นจึงอุ้มลูกหมาป่าทั้งสี่ตัวมาที่แม่หมาป่าเพื่อให้มันป้อนนมลูกเอง ลูกมันจะได้ไม่อดตาย พวกเขาแบ่งเสบียงให้แม่หมาป่า มันจะได้รอดชีวิตต่อไป
กลางคืนยังต้องตั้งแคมป์อยู่ใกล้ๆ เพื่อจะได้ช่วยคุ้มครองพวกมันได้ เพราะแม่หมาป่าโดนกับดักหนีบไว้ จึงป้องกันตัวเองไม่ได้ จนถึงวันที่ 5 ตอนที่เขาไปป้อนอาหาร พบว่าหางของแม่หมาป่ากระดิกเบาๆ จึงทราบว่าเริ่มได้รับความไว้วางใจจากแม่หมาป่าแล้ว ผ่านไปอีก 3 วัน แม่หมาป่าถึงได้ยอมให้เขาเข้าใกล้เพื่อจะได้ปลดกับดักสัตว์ออกให้
หลังจากแม่หมาป่าเป็นอิสระ ก็เลียมือของเขา ยอมให้เขาใส่ยารักษาแผลที่ขาให้ แล้วค่อยพาลูกๆ จากไป ระหว่างเดินจากไปยังหันกลับมามองพวกเขาอยู่หลายครั้ง...
เขานั่งอยู่บนหินก้อนใหญ่แล้วคิดว่า หากมนุษย์สามารถทำให้สัตว์ป่าที่ดุร้ายเลียมือตัวเอง และกลายเป็นเพื่อนกันได้ แล้วจะไม่สามารถทำให้มนุษย์ด้วยกันวางอาวุธลง และยอมเป็นเพื่อนด้วยได้เชียวหรือ?
เขาตัดสินใจว่า...นับจากนี้ไปจะแสดงความเป็นมิตรแก่คนอื่นก่อน เพราะเขาได้รับบทเรียนจากเรื่องนี้แล้วว่า ต้องแสดงความจริงใจของเราเองก่อน อีกฝ่ายจึงจะยอมแสดงความจริงใจตอบ (เขายังพูดล้อเล่นว่าหากไม่เป็นเช่นนี้ล่ะก็ อีกฝ่ายก็คงเทียบไม่ได้กระทั่งเดรัจฉานแล้ว)
ดังนั้น เวลาทำงานในบริษัท เขาจึงมักปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความจริงใจ เขาจะสมมติก่อนว่าคนอื่นนั้นมีเจตนาดี แล้วค่อยไปคิดหาเหตุผล
ในพฤติกรรมของคนคนนั้น เขามักช่วยเหลือผู้อื่น ไม่ถือสาหาความเรื่องเล็กน้อย ดังนั้นเขาจึงได้เลื่อนตำแหน่งทุกปี และก้าวหน้าเร็วมาก ที่สำคัญที่สุดคือ เขาสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขทุกวัน
คนที่ช่วยเหลือผู้อื่นนั้นมักมีความสุขกว่าคนที่ได้รับความช่วยเหลือมาก แม้เขาจะไม่รู้มาก่อนว่าคนจีนมีคำกล่าวไว้ "เป็นผู้ให้มีความสุขกว่าเป็นผู้รับ"
แต่ชีวิตของเขาได้ยืนยันความจริงของประโยคนี้แล้ว เขาบอกว่า เขารู้สึกขอบคุณประสบ
การณ์ในอลาสกาอย่างมาก เพราะมันเป็นประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์ต่อเขาไปชั่วชีวิต
ซึ่งก็จริง มีเพียงสิ่งที่ตัวเราปรารถนาเท่านั้นที่เราจะทะนุถนอม
มีเพียงลูกพลับที่เคยผ่านน้ำค้างแข็งมาแล้วเท่านั้นที่จะมีรสหวาน
คนก็เช่นกัน ต้องผ่านการฝึกฝนขัดเกลา จึงจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่โดยสมบูรณ์
หากคนคนหนึ่งเรียนจนจบมหาวิทยาลัย แล้วยังไม่รู้อีกว่าตัวเองอยากจะทำอะไร ก็สมควรจะส่งเขาไปฝึกฝนขัดเกลาตัวเองในโลกภายนอกเสียบ้าง แล้วอย่าให้เงินเขา ให้เขาหาเงินเลี้ยงปากท้องเอง
ให้โอกาสเขาไปแสวงหาตัวตนของตัวเอง และสัมผัสกับชีวิต เชื่อว่าเขาย่อมได้พบกับประสบการณ์ที่จะเป็นประโยชน์ต่อเขา
Cr.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์
บันทึก
1
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย