Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ทนายป้ายเหลือง
•
ติดตาม
16 มิ.ย. 2022 เวลา 08:51 • ความคิดเห็น
คดีดาราสาว “แตงโม”
ความอลเวงที่ดูเหมือนจะไม่จบสิ้น
ณ เวลานี้ วิญญาณของอดีตดาราสาว “แตงโม” ผู้เคราะห์ร้ายน่าจะเดินทางไปสู่สุคตินานพอสมควรแล้ว แต่ความอลเวงเกี่ยวกับคดีความกรณีเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำน่ากังขา ยังคงเต็มไปด้วยความสับสนอลเวงจนแทบจะจับต้นชนปลายกันไม่ถูก
เริ่มต้นจากความสับสนอลหม่านในการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิตของคุณแตงโม ตามมาด้วยความล่าช้าในการตัดสินใจสั่งฟ้องคดีของพนักงานอัยการหลังจากฝ่ายตำรวจสรุปสำนวนการสอบสวนและส่งไปให้อัยการ
อีกด้านหนึ่งคือความเคลื่อนไหวของคุณแม่คุณแตงโมซึ่งเป็นผู้เสียหายตามบทบัญญัติของกฎหมาย และเป็นผู้มีอำนาจฟ้องคดีได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องรอพนักงานอัยการ
ความอลเวงในฝ่ายผู้เสียหายอุบัติขึ้นเมื่อทีมงานที่ปรึกษาทางกฎหมายของคุณแม่เกิแตกคอกันเองเกี่ยวกับการตั้งต้นคดี กล่าวคือจะยื่นฟ้องในข้อหาอะไร...?
และแล้ววันหนึ่ง out of the blue นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ หนึ่งในทีมงานที่ปรึกษาของคุณแม่ก็หอบหลักฐานไปยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดนนทบุรี ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากคณะที่ปรึกษาด้วยกันอีกหลายคน ซึ่งเกรงว่าการกระทำของนายอัจฉริยะจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่คดี
นายอัจฉริยะอ้างว่าเขาได้รับมอบอำนาจอย่างถูกต้องตามกฎหมายจากคุณแม่แล้ว และได้ยื่นฟ้องในข้อหาฉกรรจ์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 ทั้งยังได้บรรยายฟ้องครอบคลุมมาตราต่างๆ ในส่วนที่เกี่ยวกับความผิดต่อชีวิตและร่างกายรวมถึง 8 มาตราด้วยกัน
นายอัจฉริยะอ้างด้วยว่า การยื่นฟ้องของเขานั้นศาลได้ประทับฟ้องแล้วจะถอนฟ้องตามเสียงเรียกร้องของอีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้ เพราะจะทำให้เสียโอกาสในการใช้สิทธิฟ้องคดีนี้ใหม่เนื่องจากจะเป็นการ “ฟ้องซ้ำ” ซึ่งเป็นการต้องห้ามตามกฎหมาย
เมื่อเกิดเหตุเช่นนี้ขึ้น คณะที่ปรึกษาของคุณแม่อีกฝ่ายหนึ่งก็ละล้าละลัง ไม่รู้จะแก้ไขสถานการณ์อย่างไรดี ทางเลือกที่เหลือดูเหมือนจะมีเพียงทางเดียวคือต้องไปพูดคุยกับนายอัจฉริยะเพื่อทำคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้อง ให้สอดคล้องกับแนวทางที่ได้ตกลงกันไว้
อีกทางหนึ่งก็คือให้คุณแม่ในฐานะผู้เสียหายในคดีนี้ไปยื่นคำร้องต่อศาล แจ้งว่าใบมอบอำนาจที่ได้มอบให้แก่นายอัจฉริยะก่อนหน้านี้นั้นได้เพิกถอนไปแล้ว นายอัจฉริยะไม่มีสิทธิที่จะกระทำการใดๆตามใบมอบอำนาจดังกล่าวอีกต่อไป ซึ่งรวมถึงการนำคดีไปยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 14 มิถุนายนด้วย
ศาลมีคำสั่งนัดไต่สวนข้อเท็จจริงตามคำร้องของคุณแม่ในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม ขณะที่ก่อนหน้านั้นได้มีคำสั่งนัดไต่สวนมูลฟ้องในคดีที่นายอัจฉริยะได้ยื่นฟ้องไว้ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม
ความอลเวง ณ จุดนี้ก็คือว่า ถ้านายอัจฉริยะถูกกดดันจนทนไม่ไหวตัดสินใจไปถอนฟ้องและศาลอนุญาต โอกาสที่ผู้เสียหายคือคุณแม่จะยื่นฟ้องคดีนี้อีกก็สิ้นสุดลง เพราะกฎหมายบัญญัติว่าคดีอาญาที่ได้ถอนฟ้องไปแล้วจะนำมาฟ้องอีกไม่ได้ ถือเป็นการฟ้องซ้ำ
ขณะเดียวกันถ้าผลการไต่สวนคำร้องของคุณแม่กรณีใบมอบอำนาจ ศาลชี้ขาดว่าใบมอบอำนาจดังกล่าวถูกยกเลิกไปก่อนที่นายอัจฉริยะนำไปอ้างในการใช้สิทธิยื่นฟ้องคดีเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน การกระทำของนายอัจฉริยะก็เข้าข่ายละเมิดอำนาจศาล
มีโอกาสถูกจำคุกได้ไม่ยากนัก...
เส้นทางอนาคตของนายอัจฉริยะในคดีนี้จึงดูเหมือนว่าจะขึ้นอยู่กับผลการไต่สวนคำร้องของคุณแม่เกี่ยวกับการยกเลิกใบมอบอำนาจที่เคยให้แก่นายอัจฉริยะเป็นสำคัญ จะรุ่งโรจน์หรือรุ่งริ่งก็ต้องรอคำวินิจฉัยของศาลในวันนั้น
สมมุติกันเล่นๆว่า ศาลมีคำวินิจฉัยชี้ขาดว่า ณ เวลาที่นายอัจฉริยะไปยื่นฟ้องคดีในวันที่ 14 มิถุนายนนั้น ใบมอบอำนาจของคุณแม่ยังมีผลสมบูรณ์อยู่ เส้นทางอนาคตของนายอัจฉริยะก็ใช่ว่าจะสดใสรุ่งโรจน์อย่างที่คิดแต่ประการใด
ต้องไม่ลืมว่าฝ่ายพนักงานอัยการที่ยังซุ่มเงียบอยู่ไม่มีกำหนดเวลาชัดเจนว่าจะนำคดีนี้ไปยื่นฟ้องต่อศาลเมื่อใด อาจจะตัดสินใจเฉียบพลันนำตัวผู้ต้องหาขึ้นฟ้องศาลในวันนี้พรุ่งนี้ก็ได้ และวันนั้นจะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญสำหรับคดีนี้
สมมุติกันเล่นๆ อีกครั้งว่า พนักงานอัยการนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดขึ้นฟ้องต่อศาลก่อนถึงกำหนดนัดไต่สวนมูลฟ้องในคดีของนายอัจฉริยะ และบังเอิญจำเลยทุกคนที่ถูกฟ้องวันนั้นให้การรัสารภาพในทุกข้อหาตามคำฟ้องของพนักงานอัยการ แล้วอีกสองวันต่อมาศาลนัดสืบพยานและชี้ขาดตัดสินคดีไปโดยรวบรัด....อะไรจะเกิดขึ้น ...?
คำตอบที่ชัดเจนแน่ๆยิ่งกว่าแช่แป้งก็คือ คดีที่นายอัจฉริยะยื่นฟ้องไว้จะตกไปทันที ศาลไม่ต้องยกขึ้นมาพิจารณาอีกเพราะได้มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในคดีเรื่องเดียวกันไปแล้ว
ความพยายามของฝ่ายผู้เสียหายที่แสวงหาหนทางยื่นฟ้องคดีนี้คู่ขนานไปกับคดีของตำรวจจะกลายเป็นหมันไปโดยสิ้นเชิง ไม่สามารถรื้อร้องฟ้องกันอีกได้ต่อไป
จึงเป็นกรณีที่น่ากังขาเป็นอย่างยิ่งว่า เพราะเหตุใดนายอัจฉริยะจึงได้รีบร้อนยื่นฟ้องคดีนี้โดยไม่ทำความเข้าใจกับทีมงานคณะที่ปรึกษาของคุณแม่เสียก่อน การแสวงหาความยุติธรรมให้แก่คุณแตงโมจะต้องดำเนินการกันด้วยกลวิธีประหลาดๆให้เกิดความอลเวงแบบนี้ด้วยหรือ
คำถามท้ายสุดคือ ถ้าคดีจบลงตามข้อสมมุติข้างต้น ใครจะได้อะไร....?
@@@@@@@@@
ปรึกษาปัญหากฎหมาย โทร. 0860400091
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย