17 มิ.ย. 2022 เวลา 07:04 • ไลฟ์สไตล์
“ทำไมจึงชอบดื่มชาเต็มใบ”
ตอนดื่มชา เราเคยสังเกตใบชาที่เราดื่มหรือเปล่า??? คำถามนี้ เป็นคำถามที่ทำให้เราเริ่มสนุกกับน้ำชาในจอกชาของเรามากขึ้นเรื่อยๆ
เวลาเราไปประชุมสัมมนา ตามสถานที่ต่างๆ เราก็จะได้เลือกเครื่องดื่มตามใจตัวเองบนทางเลือกที่ไม่มากนัก หลายๆครั้งก็เลือกชา เพราะว่า ไม่อยากดื่มกาแฟ และบางวันก็ไม่อยากดื่มโอวัลติน จำได้ว่า พอบริกรรินน้ำร้อนลงไปปั๊บ!!! สีน้ำก็ค่อยๆออกเป็นสีชา อย่างทันใจ เขย่าๆ ไปเล็กน้อยก็เข้มปั๊ด ฝาดได้แบบไม่ต้องรอนาน จะให้ดูสวยๆ ก็ต้องฉีกซองครีมเทียมเทลงไป คนคนคน แล้วก็ ทำนิ้วกรีดกราย ดื่ม (ฮา)
พอดื่มชาเป็นงานอดิเรกและมีห้องชา เชื่อมั้ยว่า ไม่เคยดื่มชาแบบนั้นในห้องชาเลย เวลาสิบปีที่ผ่านมา ใบชาที่ดื่มในห้องชา รวมทั้งในร้านน้ำชาของตัวเองเป็น ชาเต็มใบ ทั้งสิ้น!!!!!!!!
อันที่จริง ถ้าเราได้รู้จักสิ่งที่เรากำลังจะดื่ม กำลังจะกิน มากขึ้น เราก็จะสนุกกับมันมากขึ้น วันนี้ก็เลยอยากชวนทุกๆคน มาสนุกกับน้ำชา แล้วมาดูกันว่า เรากำลังดื่มอะไรกัน จ๊ะ?!?!?!
.ใบชาที่นำมาทำเป็น ชา มีหลายเกรด เกรดชามีไว้บอกขนาดของใบชาแต่ละใบ เป็นตัวบ่งบอกคุณภาพ รสชาติ และส่งผลต่อคุณภาพของน้ำชาที่เราจะได้ดื่ม โดยปกติใบชาที่ขายในท้องตลาด จะแบ่งง่ายๆ ออกเป็น 2 เกรดใหญ่ๆ คือ เกรดชาเต็มใบ และ เกรดชาร่วงชาผง แต่ถ้าจะแบ่งให้ย่อยลงไปอีก เพื่อความละเอียดและเข้าใจได้แบบร้องอ้ออออออออ คงต้องแบ่ง 3 เกรด คือ 1.เกรดชาเต็มใบ 2.เกรดใบชาร่วง 3.เกรดชาผง
Ᵹ เกรดชาเต็มใบ (Whole Leaf Tea) ถือเป็นชาเกรดดีที่สุด เป็นเกรดที่เหมาะสำหรับการชงด้วยกาน้ำชาที่สุด เพราะยังคงมี Essential Oil ธรรมชาติและสารที่ให้รสชาติสดใหม่ของใบชาหลงเหลืออยู่ ส่งผลให้ชามีรสชาติดี กลิ่นหอมน่าหลงใหล ชาเต็มใบจะคลายตัวช้าและขับสีได้น้อยกว่าใบชาร่วง และชาผง
ดังนั้นเวลาที่ชงชาเต็มใบ เราจึงไม่ได้เจอกับความเข้ม ที่พุ่งออกมาดั่งจรวด แต่จะได้เจอกับความกลมกล่อมอันละมุน แต่ซับซ้อน น่าค้นหา จากชาเต็มใบ ทำให้ชาเต็มใบสามารถชงน้ำได้หลายครั้ง เนื่องจากความสมบูรณ์และการค่อยๆคลายตัวอย่างช้าๆ นั่นเอง
อันที่จริง ชาเต็มใบเองก็มีการแบ่งเกรดออกเป็นอีกหลายเกรดย่อย แต่เอาเป็นว่า ครั้งนี้เราพูดไว้เท่านี้ดีกว่า
Ᵹ เกรดใบชาร่วง (Broken Tea Leaf) เป็นใบชาที่ไม่ผ่านการคัดเกรดใบชาเต็มใบ เป็นชาที่เหลือจากการคัดเกรด ผู้ผลิตก็จะนำใบชาที่เหลือมาผ่านกรรมวิธี โดยการนำเศษมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ หมัก คั่ว ตามกรรมวิธีของแต่ละโรงงาน ซึ่งก็ไม่เหมือนกันในรายละเอียด เทคนิคของแต่ละที่ หลังจากนั้นก็นำไปปรุงแต่งเพื่อผลิตขั้นตอนต่อไป เมื่อมีการสับ สับ สับ แบบนี้ ทำให้ชาผง เวลาชงด้วยน้ำร้อนจะขับสีออกเร็วมาก และรสก็พุ่งออกมา
มักจะยกตัวอย่างให้ลูกค้าที่ร้านฟังประจำว่า ให้นึกถึงว่า กระเทียมเวลาเป็นกลีบอยู่จะยังละมุน แต่พอเราสับ สับ สับ กลิ่นและรสก็ แปร๊ดดดด ออกมาได้อย่างรวดเร็ว ประมาณเดียวกันกับใบชา ดังนั้นชาแบบสับ สับ สับ นี้จึงเป็นที่นิยมของผู้ดื่มชา เพราะรับรู้ได้ง่าย ว่า รสยังไง กลิ่นแบบไหน กลิ่น สี และรสชาติขึ้นอยู่กับผู้ผลิต ว่าจะปรุงแต่งยังไง ดังนั้น จึงสามารถทำราคาให้เหมาะสมสำหรับคนทั่วไป
Ᵹ เกรดใบชาผง (Fine Leaf Teas) เป็นชาที่เหลือจากการคัดเกรด ที่ผ่านตะแกรงร่อนแล้วอีกครั้งนึง แทนที่จะต้องทิ้งไปเสียทรัพยากรโลก ก็นำ โดยการนำเศษที่เหลือมาหั่น สับ เป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำไปปรุงแต่งเพื่อผลิตขั้นตอนต่อไป ดังนั้นชาผงจึงขับสี ขับรส ออกมาได้เร็วเช่นเดียวกัน สำหรับราคาก็ย่อมเยามาก
อันที่จริง ถ้าจะแบ่งเกรดชาให้ละเอียดยิบ ย่อย ก็จะเยอะแยะ ยุบยิบ แต่เอาเป็นว่า เราแบ่งให้พอได้เข้าใจ ว่า เรากำลังดื่มอะไรเข้าไป และทำไมรสของชาจึงแตกต่างกัน เพื่อความสำราญ และเพื่อเราจะได้เลือกดื่มได้ ตามที่เราต้องการ ไม่ใช่ว่าดื่มๆไปโดยที่ไม่รู้เลยว่า อะไรเป็นอะไร
บางคนอาจจะชอบชาผงก็ไม่ถือว่าผิด ถ้าหากว่าเรารู้ว่าสิ่งที่เราดื่มอยู่นั้นคืออะไร และรู้ดีว่ามีชาที่เกรดดีกว่านั้นอีก แต่เราไม่ชอบไง เราชอบแบบนี้!!!!
ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความชอบ เพราะโดยส่วนตัวคิดว่า ความสุขคือสิ่งสำคัญที่เราจะได้จากการดื่มชา ดังนั้น ดื่มแล้วสุขถือว่าดี เพียงแค่อย่าเข้าใจผิด และ มีความรู้พื้นฐานเล็กๆน้อยๆ ไว้ประกอบการตัดสินใจ ก็ เพียงพอที่จะสุขใจแล้ว
โฆษณา