17 มิ.ย. 2022 เวลา 15:53 • หุ้น & เศรษฐกิจ
🔥BREAKING !!🔥 : โดนเทขายหนัก !!! ล่าสุดกองทุนตราสารหนี้ทั่วโลกเผชิญกระแสเงินทุนไหลออกหรือก้คือการเทขายจากนักลงทุนไปกว่า 8 พันล้านดอลลาร์ในสัปดาห์นี้เพียงสัปดาห์เดียว !!! หลังจาก FED เร่งขึ้นดอกเบี้ยเป็น 0.75% เพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อ และทำให้สถิติการเทขายพันธบัตรเอกชนในปีนี้สูงถึง 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์แล้ว !
3
⚠️ล่าสุดนักลงทุนดึงเงินหลายพันล้านดอลลาร์ออกจากองทุนพันธบัตรองค์กรต่าง ๆ ขณะที่ FED เร่งขึ้นดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ซึ่งทำให้นักลงทุนมีการ Price in (ประเมินและกำหนดราคา) สินทรัพย์ทั่วโลกใหม่ทั้งหมด ขณะที่บางส่วนก็จงใจเทขายพันธบัตรเพื่อเปลี่ยนเป็นเงินสด
โดยในสัปดาห์นี้ กองทุนพันธบัตรระดับ High Yield โดนเทขายไปมากถึง 6.6 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นความเสียหายสูงสุดนับตั้งแต่การเทขายครั้งใหญ่ในช่วงที่การระบาดเริ่มต้นขึ้น ขณะที่พันธบัตรระดับ Investment Grade ก็ยังโดนเทขายไปถึง 2.1 พันล้านดอลลาร์ ! ทำให้โดยรวมในปีนี้พันธบัตรเอกชนโดนเทขายแล้วไปถึง 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ !
3
📌ที่น่าเป็นห่วงคือ เมื่ออัตราดอกเบี้ยมาตรฐานสูงขึ้น ราคาของพันธบัตร High Yield และ Investment Grade รุ่นเก่า ๆ จึงลดลงตามไปด้วย เนื่องจาก Yield Gap เทียบกับผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลจะลดลง หรืออธิบายง่าย ๆ ว่าจะไม่ได้ผลตอบแทนมากกว่าพันธบัตรรัฐบาลมากนักเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
1
ยิ่งไปกว่านั้น การที่ดอกเบี้ยต่าง ๆ สูงขึ้นจะทำให้ต้นทุนการกู้ยืมของบริษัทต่าง ๆ สูงขึ้นไปอีก และถ้าหากพวกเขาต้องออก Bond ใหม่ ๆ ที่ให้ผลตอบแทนสูงแข่งกับพันธบัตรรัฐบาล แต่ไม่มีเงินมาลงทุน ก็อาจทำให้เกิดปัญหา 'ขาดสภาพคล่องครั้งใหญ่' ตามมาได้หลังจากนี้
4
Financial Times เปิดเผยว่ากองทุนพันธบัตรเอกชนทั่วโลกเผชิญแรงเทขายกว่า 8 พันล้านดอลลาร์ในสัปดาห์นี้สัปดาห์เดียว และเทขายไปแล้ว 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีนี้ !
⚠️คงต้องมาจับตามองกันต่อไปว่าการขึ้นดอกเบี้ยของ FED จะทำให้ตลาดตราสารหนี้ได้รับผลกระทบอะไรอีกบ้าง เพราะนี่ยังแค่เริ่มต้นเท่านั้น ! และเงินเฟ้อก็ยังไม่มีสัญญาณจะผ่อนคลายลงเลยในตอนนี้
1
คงต้องหวังให้นโยบายขึ้นดอกเบี้ยและ QT ของ FED สามารถควบคุมเงินเฟ้อได้จริง ๆ จะได้กลับมาลดดอกเบี้ยลงเหมือนเดิม เพราะถ้าหากไม่เช่นนั้น...เราอาจได้เห็นบริษัทหลายแห่งต้องดิ้นรนหาสภาพคล่องกันอย่างหนัก หรือไม่ก็เกิดปัญหาผิดชำระหนี้ตามมาเป็นขบวน
1
📌ขณะเดียวกัน สิ่งที่ต้องรู้เพิ่มเติมคือล่าสุดดอกเบี้ยบ้านในสหรัฐฯ ดีดตัวขึ้นเป็น 5.78% แล้ว ! สูงสุดในรอบ 35 ปีและมีแนวโน้มจะทำให้ Demand บ้านร่วงฮวบลงอย่างต่อเนื่อง ! ซึ่งตลาดอสังหาฯ ของสหรัฐฯ ก็ถือเป็นอีกประเด็นที่พลาดสายตาไม่ได้เลยทีเดียว เพราะมันเกี่ยวข้องกับตลาดตราสารหนี้และพันธบัตรของหลายองค์กรด้วย !
3
⚠️ราคาบ้านในสหรัฐฯ ตอนนี้อยู่ในระดับสูงสุดในรอบหลาย 10 ปี ขณะที่ Deman ลดลงอย่างรวดเร็วในปีนี้ และยังมีแรงกดดันอีกมากมายในระดับมหภาค ดังนั้นเราจะต้องมาลุ้นกันอย่างใกล้ชิดเลยทีเดียว ! ว่าภาวะเงินเฟ้อและเศรษฐกิจโลกจะถูกขับเคลื่อนไปอย่างไร ?
3
ดอกเบี้ยบ้านสหรัฐฯ พุ่งสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงวิกฤตการเงินแล้ว ! จับตามองจะเกิดอะไรขึ้นบ้างต่อจากนี้ ? Demand อสังหาจะลดลงหรือไม่ ?? (ที่มา Financial Times)
🔥ทันโลก ทันเหตุการณ์ ทันข่าวสาร อย่างแท้จริงไปกับ #WorldMaker🔥
🙏 ขอบคุณทุกท่าน 🙏 ที่ติดตาม World Maker ฝากกด Like และ Share เพื่อเป็นกำลังใจและให้นักลงทุนท่านอื่นได้รับข้อมูลที่มีประโยชน์เหล่านี้ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ 😊
1
โฆษณา