ชูชิร้านดังปิดปรับปรุงร้านโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า หลังจากที่มีการขาย Voucher 199 บาทล่วงหน้า หลายคนซื้อไว้เป็น 10 ใบ
เป็นข่าวฮืออาบนโลกออนไลน์ในวันที่ กรณีที่ชูชิร้านดังปิดร้านแจ้งว่าปรับปรุงระบบ โดยไม่มีการแจ้งให้ลูกค้าทราบล่วงหน้า ทั้งยังไม่สามารถเข้าดู Facebook และ Website ของทางร้านได้ ทั้งยังไม่มีการออกมาให้ข่าวใดๆจากผู้บริหารของร้านซูชิรายนี้
เหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นกับร้านอาหารญี่ปุ่น ดารูมะซูชิ (Daruma Sushi) จำนวนมากกว่า 20 สาขา กระจายอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ทั้งตามห้างสรรพสินค้าชื่อดังหลายแห่ง และยังตั้งอยู่ตามแหล่งชุมชนต่าง รวมทั้งเคยออกรายการแนะนำร้านอาหารดังๆต่างมาหลายช่อง มีการรีวิวตามสื่อโซเชียลจำนวนมาก จึงไม่น่าแปลกใจที่จะได้รับความชื่อถือจากลูกค้า
นอกจากจะดำเนินการเองแล้ว ทางร้านก็ยังได้เปิดขายแฟรนไชส์ให้กับผู้ที่สนใจนำไปเปิดร้านจำนวนหลายสาขา
ก่อนหน้านี้ทางร้านมีการจัดรายการส่งเสริมการขาย ให้ลูกค้าจองบัตรรับประทานอาหาร (Voucher) ผ่าน Application ในราคา 199 บาท เมื่อรวมภาษีมูลค่าเพิ่มต้องจ่ายรวมทั้งสิ้น 212.93 บาท โดยมีเงื่อนไขต้องซื้อ 5 ใบขึ้นไป บัตรแต่ละใบมีอายุถึง 6 เดือน
ที่มา Hilight Kapook
เป็นเรื่องที่น่าสงสัยในพฤติกรรมมากถึงการปิดร้านโดยที่ไม่แจ้งล่วงหน้า ให้ทั้ง Franchisee หรือผู้ที่ซื้อแฟนไชส์และพนักงานรับทราบ รวมถึงการปิด Facebook และ Website พร้อมทั้งที่การให้สัมภาษณ์จากผู้จัดการร้านว่า เจ้าของร้านได้ออกจากกลุ่มไลน์ไปแล้วไม่สามารถติดต่อได้ ทั้งทางไลน์และทางโทรศัพท์
Franchisee คนหนึ่งที่ใช้ชื่อว่าคุณเพชร ที่ร่วมลงทุนในการซื้อสิทธิ์มาเปิดจำนวน 6 สาขา ได้ให้ข่าวผ่าน Facebook ส่วนตัวว่า ได้ลงทุนซื้อแฟรนไชส์โดยบริษัทดารุมะเป็นผู้บริหารจัดการพร้อมทั้งเป็นผู้ดูแลบัญชีรายรับรายจ่ายทั้งหมดเเต่เพียงผู้เดียว แล้วจะมีการปันผลเป็นรายเดือนให้กับผู้ลงทุน
การจัดรายการต่าง ๆ เป็นการดำเนินการโดยผู้บริหารบริษัทดารุมะ ซึ่งทางผู้ลงทุนไม่มีส่วนในการบริหารจัดการ ณ เวลานี้ก็กำลังรอคำชี้แจงจากผู้บริหาร
ที่มา https://www.facebook.com/Krittharawee
ตอนนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าทางร้านจะปิดหรือไม่ รวมทั้งรับประทานอาหาร (Voucher) ที่ลูกค้าจองไปจะสามารถนำมาใช้ได้หรือไม่ ต้องรอการออกมาแถลงข่าวของทางผู้บริหารของร้านก่อน
เรื่องนี้ออกได้ 2 แบบ คือ ผู้บริหารของทางร้านออกมาแถลงข่าวถึงข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น พร้อมเปอิดร้านจำหน่ายต่อ แบบที่ 2 คือ เป็นไปตามที่หลายคนกังวลใจ ที่ต้องจ้องมองไปที่กลีบเมฆว่าแว๊ปหายไปในเมฆก้อนไหน แล้วก็นำเรื่องไปแจ้งความเพื่อดำเนินการขอเงินคืน
สิ่งที่สามารถทำได้สำหรับผู้ที่คาดว่าจะได้รับความเสียหายในส่วนของลูกค้า การตรวจคงทำได้ยาก “ยุคใหม่ฯ” ขอแนะนำให้ชำระผ่านบัตรเครดิตหรือระบบอะไรก็ได้ ที่จะไม่ทำการโอนเงินให้ทางร้านในทันที อย่างน้อยก็ยังแจ้งอาบัติเงินไว้ได้บ้าง
อีกประการคือ ราคาที่ถูกเป็นพิเศษต้องมีอะไรแปลก เพราะตอนนี้แซลมอนราคาไม่น้อยกว่า 500 บาท/กก. สำหรับปลาทั้งตัว (ควักใส้ผ่าท้องแล้ว) เมื่อเอามาแล่ก็จะเหลือเนื้อประมาณ 60-65%
เท่ากับว่าเฉพาะต้นทุนปลาแซลมอลเกือบ 800 บาท เฉลี่ย 1 คนรับประทาน 300 กรัม เฉพาะทุนก็ 240 บาทแล้ว ไม่รวมวัตถุดิบและต้นทุนตัวอื่นๆรวมแล้วต้นทุนไม่น่าจะต่ำกว่า 300 บาท การขาย 199 บาท ก็เป็นอะไรที่น่าสงสัย
ที่มา Sale Here
ในส่วนของผู้ลงทุนยิ่งยากไปกว่าลูกค้า เบื้องต้นก็พอทำได้คือการตรวจสอบว่าธุรกิจนั้นได้จดทะเบียนเป็นธุรกิจแฟรนไชส์หรือไม่ แล้วตรวจสอบที่มาที่ไปของผู้ที่เป็นเจ้าของธุรกิจ
ส่วนผู้จำหน่ายวัตถุดิบ (Suppliers) เป็นผู้ที่น่าเห็นใจเอามากๆ เพราะพึ่งจะเริ่มขายได้ ยังไม่มีกำไรด้วยซ้ำ หากร้านปิดไปจริงๆ ต้องมีหลายหน่วยงานต้องลดจำนวนพนักงานหรืออาจจะปิดกิจการไปเลยก็ได้ การขายราคาสูงๆเผื่อความเสี่ยงก็อาจจะทำให้ขายไม่ได้ ต่อไปคงจะเป็นการขายเงินสดหรือให้เครดิตระยะสั้นจะดีกว่า
แต่ก็อยากให้เรื่องนี้จบลงด้วยดีมากกว่า ผิดพลาดเป็นเรื่องปกติ แต่หากตั้งใจผิดพลาดไม่ใช่เรื่องปกติแล้ว มารอลุ้นกันว่าวันพรุ่งนี้จะเป็นเช่นไร
สามารถติดตามข้อมูลแนวคิดทางการตลาดยุคใหม่ได้ที่
Instagram: Modernization Marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
Face Book Page: Modernization Marketing
YouTube Channel: Modernization marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
- 14
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
