Canon Autoboy 2 กล้องที่ผมไม่ค่อย…แนะนำ
เพื่อนๆหลายคนที่สนใจเล่นกล้องฟิล์มหรืออาจไม่เคยเล่น อาจจะเคยเห็นเจ้ากล้องสองรุ่นนี้ผ่านตากันมาบ้าง อาจจะเห็นจากที่ Rose’ ใช้เป็นกล้องประจำกาย เลนคิดว่าน่าจะเจ๋ง เลยอยากหาลองมาใช้กันบ้าง ซึ่งผมก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ถ้ายังไม่ได้ซื้อ โปรดแวะอ่านเหตุผลของผมก่อน
เกริ่นก่อนนะครับ กล้องตัวนี้เป็นกล้อง Auto Focus ยุดแรกๆ มีระบบขึ้นฟิล์ม กรอฟิล์ม นับฟิล์มอัตโนมัติ และยังมีระบบแฟลชให้ใช้งาน สามารถเลือกเปิด-ปิดเองได้
เอาหล่ะครับหลังจากที่รู้จักกันไปแล้ว ต่อมาผมจะขอเล่าเหตุผลที่ผมไม่ค่อยประทับใจเจ้ากล้องตัวนี้ และรุ่นก่อนหน้าสักเท่าไหร่เพราะ
- ●ระบบออโต้โฟกัส
ไม่ชอบเพราะมันเป็นระบบยุคแรกๆเลยครับขัดกับหน้าตาที่ทันสมัยมาก ระบบยุคแรกๆไม่ดีตรงที่มันโฟกัสไม่แม่นยำ 100% มันเป็นเพียงการกะคร่าวๆของกล้องว่า ระยะที่เราถ่ายอยู่ช่วงไหน ครึ่งตัว? เต็มตัว? วิว? ซึ่งภาพที่ได้มีโอกาสเบลอสูงมาก ยิ่งตอนแสงน้อยๆนี่เสี่ยงมากๆครับ เพราะกล้องจะเปิดรูรับแสงกว้างสุด สปีดช้าสุด บวกกับการกะระยะของกล้องแล้ว จะทำให้ภาพมีโอกาสเบลอเยอะ
- ●กล้องบอกเราว่าเล็งระยะไหนตอนถ่ายเสร็จแล้ว!
หมายความว่า กว่าเราจะรู้ว่ากล้องจะถ่ายระยะไหน เราต้องกดปุ่มชัตเตอร์ลงไปแล้ว เข็มถีงจะขยับไปยังดำแหน่งว่ากล้องเลือกอะไรไป ทำให้แทบไม่มีประโยชน์เลยในการเช็คว่ากล้องโฟกัสถูกไหม แตกต่างจากกล้องตัวอื่นที่ถ้าเรากดลงไปครึ่งหนึ่ง เข็มจะชี้ไปก่อนว่ากำลังเลือกระยะไหน ทำให้เราสามารถปล่อยมือแล้วกดใหม่ได้ หากเราเห็นชัดๆว่า เรากำลังถ่ายคน แต่กล้องเลือกระยะวิว ส่วนนี้เป็นส่วนที่ผมไม่ชอบที่สุดครับ
- ●ระบบกรอฟิล์มกลับ
ระบบนี้เป็นระบบที่ผมไม่โอเคเลยครับ เพราะเมื่อเราถ่ายครบแล้ว กล้องจะเลื่อนฟิล์มต่อไปไม่ได้ แล้วจะค้าง หน้าที่เราคือต้องดันสวิทซ์กรอฟิล์มกลับเอง แล้วต้องรอไปเรื่อยๆจนเลขนับฟิล์มเป็น 0 แล้วค่อยปลดล็อคสวิทซ์ ซึ่งผมรู้สึกไม่ค่อยคุ้มกับราคาที่จ่ายไปกับเจ้ากล้องตัวนี้ เพราะกล้องรุ่นอื่นในราคานี้ สามารถหาตัวที่กรอฟิล์มกลับอัตโนมัติได้สบายๆ
- ●การนำตัวตั้งเวลาถอยหลังกับล็อคโฟกัสไปอยู่ด้วยกัน
ทำให้รู้สึกว่าการใช้งานดูยุ่งยากและสับสนขึ้นพอสมควร ต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจ ซึ่งถ้าแยกเป็นสองปุ่มแบบกล้องรุ่นอื่นๆจะดีกว่ามากๆ
- ●การเปิดกล้อง
การเปิดกล้องจะเป็นการดันสวิทซ์แล้วตัวฟิลเตอร์เลนส์จะเปิด ซึ่งบางครั้งตัวเปิดมันแข็งมากๆ และมีสิทธิที่จะพังได้สูง อาจเป็นเพราะความเก่าของกล้อง ทำมีความสกปรกภายใน แต่มันก็ไม่ได้สามารถทำความสะอาดได้ง่าย ต้องแกะกล้องเท่านั้น
- ●ในราคานี้มีกล้องรุ่นอื่นที่ดีกว่าเยอะ
รวมถึงกล้องมนตระกูลเดียวกัน ราคานี้สามารถขยับอีกนิดไปซื้อ Autoboy3 ที่ออโต้โฟกัสแม่นยำขึ้นเยอะ(แต่ปุ่มเปิดเครื่องชอบพัง)หรือจะเป็น Autoboy S ที่ราคาไม่แรงเลยเทียบกับฟังก์ชั่นที่ได้ และ Shutter Speed ที่สูงมากๆ แถมถูกกว่าด้วย
เอาหล่ะครับ เพื่อนๆหลายคนคงจะคิดว่าแล้วมันมีดีอะไรบ้างให้น่าซื้อกว่ายี่ห้ออื่น ผมก็ไม่ได้จะมองมันแต่ด้านลบอย่างเดียว ผมก็ขอป้ายยานิดๆละกันนะครับ ฮ่าๆ กับเหตุผลที่ของมันต้องมี
- ●เป็นกล้องที่ Rose’ ใช้ ใช่ครับเหตุผลนี้เป็นเหตุผลที่มีน้ำหนักข้อหนึ่งเลย ลองคิดดูว่าเรามีกล้องรุ่นเดียวกับที่ศิลปินคนโปรดใช้ ก็รู้สึกว่ากล้องมันเท่ขึ้นมากๆแล้วครับ (รวมกับที่กล้องมันเท่อยู่แล้วอีก) เราอาจจะตั้งไว้คู่กับรูป Rose’ ที่ห้องเรา หรือเวลาเอาออกไปข้างนอก ก็อาจจะถ่ายรูปคู่กับกล้องเก๋ๆ แค่นี้ก็มีความสุขและความพอใจแล้วครับ
- ●เลนส์ 2.8 จาก Canon เป็นมรดกสืบทอดที่ได้รับมาจากรุ่นแรก เลนส์ Canon เป็นเลนส์ที่ดีมากๆครับ ผมรู้สึกว่ามันมีความ “คม” และสีสดกว่ายี่ห้ออื่นพอสมควร ยิ่งเปิดแฟลชแล้วด้วยเนี่ย ยังกับรูปดิจิตอลเลยครับ(ว้าว) บวกกับที่เลนส์ f2.8 แล้วด้วยเนี่ย ถ้าถ่ายตอนเย็นๆแล้วกล้องเลือกค่า f ต่ำสุด ฉากหลังจะเบลอสวยงามๆฝมากๆครับ
- ●วัสดุเป็นเหล็ก(บางชิ้น) แต่อย่างน้อยก็มีความทนทาน และน้ำหนักที่ดีครับ ให้ความรู้สึกแข็งแรง ปลอดภัยเวลาห้อยคอแล้วเดินแกว่งไปแกว่งมาพอสมควร
จบกันไปแล้วนะครับกับเหตุผลที่ผมไม่ค่อยแนะนำกล้องรุ่นนี้ให้กับคนรู้จักสักเท่าไหร่ เพื่อนๆมีความคิดเห็นอย่างไรก็สามารถเล่าให้ฟังได้นะครับ หรืออาจจะให้ข้อมูลว่าที่จริงกล้องผมมันพังก็ได้ครับ 🤣 ผมจะได้ลบจุดที่ผมไม่ชอบเจ้ารุ่นนี้ออกจากใจสักที
สำหรับคนที่อยากจะซื้อกล้องรุ่นนี้ผมไม่ได้ห้ามหรือไม่เห็นด้วยแต่อย่างใดนะครับ เป็นความชอบและความสมัครใจส่วนบุคคล ผมแค่อยากให้ข้อคิดเห็นสำหรับคนที่ยังลังเลอยู่ครับ แต่ยืนยันเลยนะครับว่าคุณภาพรูปที่ได้ ดีมากๆครับ
ไว้คราวหน้าผมจะมาแชร์ประสบการณ์กับเจ้ากล้องตัวอื่นหรือเรื่องอื่นๆอีกนะครับ ถ้าชอบก็ช่วยกดติดตามเป็นกำลังใจด้วยนะครับ ❤️
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
