19 มิ.ย. 2022 เวลา 16:30 • หุ้น & เศรษฐกิจ
#การใช้กราฟเทคนิคในการจับจังหวะสะสมหุ้น
สวัสดียามค่ำของคืนวันอาทิตย์นะครับทุกคน ฮั่นแน่ไม่ได้เจอกันไม่กี่วันน่าจะยังพอจำกันได้นะครับ วันนี้เก่งไปหาเรื่องมาเล่าให้กับทุกคนได้อ่านกันซึ่งเป็นเนื้อหาต่อเนื่องจาก DCA ถ้ายังไม่ได้อ่านลองเลื่อนขึ้นไปอ่านกันก่อนนะ
เข้าเรื่องเลยดีกว่าเนื้อหาวันนี้นั่นคือการใช้กราฟเทคนิคในการจับจังหวะสะสมหุ้นในแต่ละเดือน ก่อนอื่นเพื่อนๆก็จะถามว่าทำไมถึงต้องดูกราฟเป็นด้วย คำตอบก็คือเราจะได้รู้ว่าตำแหน่งราคาที่เราซื้อนั้นเป็นตำแหน่งที่น่าสนใจไหมเมื่อเทียบกับก่อนหน้านั้น(เป็นต่อหรือเป็นรองนั่นเอง)
โดยเก่งจะอธิบายให้เพื่อนแบบเบื้องต้นนะครับ โดยจะแบ่งเป็น 3 เรื่องใหญ่
  • 1.
    อธิบายเกี่ยวกับแท่งเทียน
  • 2.
    การดูเทรนด์
  • 3.
    ดูแพทเทรินเบื้องต้น
แต่วันนี้จะอธิบายเพียง 2 เรื่องแรกนะครับ (ส่วนเรื่องเเพทเทรินรอติดตามสัปดาห์หน้านะครับ)
มาดูเรื่องแรกกันเลย ไปๆ !!!!!
รูปที่ทุกคนเห็นนั่นคือแท่งเทียน ก็ง่ายๆเลยคือถ้าเห็นเป็นแท่งเขียวคือราคาขึ้นแดงคือราคาลง แต่เทียนหนึ่งแท่งไม่ได้บอกแค่ราคาขึ้นหรือลงแต่ยังบอกข้อมูลให้กับเราอีก 4 อย่างเลยนะ แต่ก่อนอื่นเราต้องจินตนาการก่อนนะว่าเทียนต้องมีไส้เพื่อนๆเห็นแท่งเล็กนั่นไหมนั่นแหละคือไส้เทียน ตัวไส้นี้จะบอกเรา 2 อย่างคือ
  • 1.
    ราคาสูงสุด
  • 2.
    ราคาต่ำสุด
และส่วนต่อมาคือส่วนเนื้อเทียนที่เพื่อนๆเห็นสีเขียวกับแดง ถ้าเป็นแท่งเขียวเนื้อเทียนด้านบนจะเป็นราคาปิด และส่วนล่างคือราคาเปิด ราคาปิดคือราคาสุดท้ายของแท่งนั้น ราคาเปิดคือราคาเริ่มต้นของแท่งนั้นนั่นเอง ส่วนแท่งแดงก็จะสลับกัน
หายใจให้เต็มปอดเเล้วเตรียมกันต่อนะเพื่อนๆไปๆ !!!!
มาต่อกันด้วยเรื่องของเทรนด์ โดยเทรนจะแบ่งเป็น 3 เทรน
  • 1.
    Uptrend (เทรนขาขึ้น)
  • 2.
    Down trend (เทรนขาลง)
  • 3.
    Sideway (ยังไม่เลือกเทรน)
โดยเครื่องมือที่เราจะใช้คือ trend line (trend line เป็นเส้นที่เอาไว้ดูเเนวโน้มการเคลื่อนที่ของราคา ซึ่งใช้หลักการการคาดการณ์อนาคตโดยอ้างอิงจากราคาในอดีต)
1.Up trend วิธีสังเกตุเราจะต้องเห็นว่าจุดต่ำสุดของราคานั้นจะต้องทำจุดต่ำสุดที่สูงขึ้นโดยเราจะตี trend line เชื่อมจุดต่ำสุด โดยจะพยายามเชื่อมจุดให้ได้มากที่สุด มาดูตัวอย่างกันดีกว่า
2. Down trend วิธีสังเกตุคือเราจะเห็นว่าจุดสูงสุดของราคานั้นจะมีลักษณะที่เตี้ยลง โดยเราจะตี trend line เชื่อมจุดสูงสุดเข้าหากัน โดยจะพยายามเชื่อมจุดให้ได้มากที่สุด มาดูตัวอย่างกันดีกว่า
3.Sideway trend วิธีสังเกตุคือเราจะเห็นว่าจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดจะห่างกันไม่มากนัก และ จะพบว่าตัวราคานั้นมีลักษณะเคลื่อนที่ภายกรอบ โดยเราจะตีเชื่อมจุดสูงสุด และ จุดต่ำสุด ให้ได้เป็นกรอบเหมือนรูปด้านล่างนะครับ (อาจจะมีการเหลื่อมกรอบนิดนึงได้นะ)
จากที่เราได้ทำความรู้จักเรื่องเทรรมาเเล้วสามารถสรุปได้ดังนี้
1.ถ้าราคาขึ้นเคลื่อนที่ตาม trend line ที่เราตีแปลว่า trend นั้นยังไม่เปลี่ยน
2.แต่เมื่อไหร่ที่เคลื่อนที่หลุดจาก trend line ที่เราตีเส้นจะสงสัญญาณการกลับตัว เช่นจาก Up trend เป็น Down trend
3.ในกรณี Sideway trend เป็นการส่งสัญญาณว่ายังไม่เลือกทาง (อาจจะเป็นช่วงเวลาในการสะสม หรือ เป็นช่วงที่ไม่ควรทำไรเลย (ดูอย่างเดียว) )
ข้อสังเหตุ !!!
ถ้าราคาทะลุกรอบบนสันนิษฐานได้ว่าอาจมีแนวโน้มที่จะเป็น Up trend แต่ถ้ามีแนวโน้มที่จะทะลุลงมาในกรอบล่างสันนิษฐานได้ว่าอาจมีแนวโน้มที่จะเป็น Dow trend
โอ้วันนี้เพื่อนๆคงต้องรับอะไรไปเต็มหัวเลยสินะ (ไอ้เก่งเอาอะไรมาใส่ในหัวฉัน !!!)
โอ๋ๆๆนะ
เนื้อหาพวกนี้อาจจะดูอ่านเเล้วงงนิดหน่อย เเต่สงสัยหรือมีคำถามลองเมนท์ถามเก่งได้นะ เก่งจะรีบมาตอบให้นะครับ
ก่อนจากกันนะครับอย่าลืมนะ #ลงทุนในความรู้ดีที่สุด
โฆษณา