28 มิ.ย. 2022 เวลา 03:58 • ธุรกิจ
เขียน Professional Summary ให้ปังทำอย่างไร
“6 วินาที” คือเวลาโดยเฉลี่ยที่ Recruiter ใช้ในการอ่าน Resume 1 ใบ ซึ่งเนื้อหาที่จะดึงดูดให้ Recruiter อยากใช้เวลาอ่านมากกว่านั้น คือ Professional Summary ซึ่งเป็นส่วนที่อยู่บนสุดของ Resume
แล้ว Professional Summary คืออะไร ?
Professional Summary คือ ลิสต์สรุปประสบการณ์ ทักษะ และผลงานตลอดระยะเวลาการทำงานของคุณ ความยาวไม่เกิน 4-5 ประโยค โดย Professional Summary จะต่างกับ Resume Objective เพราะ Professional Summary จะเน้นการอธิบายว่าเราสามารถให้อะไรกับองค์กรได้บ้าง มากกว่าเราต้องการอะไรจากกองค์กร โดย Resume Objective จะเหมาะกับนักเรียน, นักศึกษา หรือคนที่ต้องการเปลี่ยนสายงาน ที่ไม่มีประสบการณ์กับตำแหน่งงานที่สมัครโดยตรง
ทั้งนี้ Resubae แนะนำให้ใช้ Professional Summary มากกว่า Resume Objective เพราะจะทำให้โอกาสในการถูกเรียกสัมภาษณ์มีสูงกว่า
Professional Summary ควรเขียนอย่างไร
1. เขียน Professional Summary เป็นส่วนสุดท้ายของ Resume
เพราะ Professional Summary คือ “สรุป” ดังนั้น เราควรรู้ก่อนว่าเนื้อหาทั้งหมดคืออะไร โดยดู key word จากประสบการณ์งานของเรามาว่าจะสามารถใช้คำอะไรอธิบายได้ สกิลแบบไหนที่ช่วยแก้ปัญหาขององค์กรนั้น ๆ
2. ประโยคแรกคือ Professional Title
ใช้คำอธิบายที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่เราสมัคร อย่าลืมใส่อายุงาน เช่น 12+ years of experience in Hospitality and Hotel Management, 7+ years of Business Analyst and IT Consultant experience เป็นต้น
3. นำ 3-4 ประโยคที่สร้าง Impression ได้มาเขียนใหม่
สร้างการรับรู้ให้ Recruiter อยากอ่านต่อ เช่น เขียนว่า Leading a major project ก็เปลี่ยนเป็น Leading high-impact project หรือจาก Completed business development เป็น Focus on developing new business ideas
Professional Summary ที่เราชอบมาจากท่านนึงที่เขียนสมัครงาน senior project manager ของ Disney โดยก่อนหน้านี้ทำงานที่พิพิธภัณฑ์เด็ก
“Project manager with 18 years of experience leading cross-functional teams to deliver children’s technology products and family museum experiences to international audiences. Strategy leader for brands with complex and diverse product lines. Communicator skilled at exciting audiences at conferences, online, and in products and exhibits.”
จะเห็นว่ามีการแบ่ง area ที่เชี่ยวชาญเป็น 3 ส่วน คือ project management, strategy leadership, and communication (เราสามารถทำตัวหนา หรือแยกเป็น bullet point ได้เช่นกัน) โดยในรายละเอียดคือ การอธิบายผลงานและงานที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งของ Disney ซึ่งทำให้ recruiter มองว่าพนักงานท่านนี้มีความเหมาะสมกับตัวงาน และโดดเด่นจาก candidate ท่านอื่น จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอได้รับเข้าทำงานในที่สุด
หากคุณมีข้อสงสัยหรือต้องการความช่วยเหลือด้านการเขียน Professional Summary หรือ Resume คุณสามารถติดต่อพวกเรา Resubae มาได้ทุกเมื่อ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการของเราได้ที่ resubae.com
โฆษณา