20 มิ.ย. 2022 เวลา 11:21 • อาหาร
สวัสดีทุกๆ คนที่ตั้งใจ บังเอิญ หรือมีพรหมลิขิตให้ได้มาพบกับเพจหรือโพสต์ของ Seqptember นี้ค่ะ 😅
กลับมาอีกครั้งหลังจากหายไปนาน วันนี้เราอยากจะมาแชร์ความรู้เรื่องต้นกำเนิดของกาแฟและประเภทหรือเมนูกาแฟที่เราได้เห็น ได้ยิน ได้ลองชิม ได้ดื่มกันว่ามันมาจากที่ใดและมันแตกต่างกันอย่างไร
ด้วยความที่เราเป็นคนชอบดื่มกาแฟอย่างมากตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยแล้ว แต่ดื่มเพียงไม่กี่ประเภทเพราะยังไม่ได้รู้จักกาแฟแต่ละประเภทและยังไม่ได้ชื่นชอบกาแฟรสชาติอื่นเท่าไหร่นัก วันนี้จึงอยากรู้ว่ากาแฟแต่ละประเภทมันแตกต่างกันอย่างไรและเพื่อที่จะทำให้ทุกคนที่เวลาไปซื้อกาแฟหรือไปเที่ยวคาเฟ่จะได้รู้และทราบข้อมูลเกี่ยวกับกาแฟรสชาติต่างๆ ในเบื้องต้น ทุกคนจะได้สามารถเลือกเมนูได้ถูกใจตัวเองมากขึ้น
จากข้อมูลที่เราได้ไปค้นหามาเพื่อให้ทุกคนได้อัปเดตความรู้กันนั้น ทำให้พบว่า ต้นกำเนิดของกาแฟที่กว่าจะมาเป็นที่รู้จักและเป็นที่นิยมทั่วโลกขนาดนี้ เรื่องราวของกาแฟนั้นมีประวัติคล้ายคลึงนิทานเรื่องหนึ่งตามภาพเลย
แต่อย่างไรก็ตาม นี่ก็เป็นเพียงหนึ่งในเรื่องเล่าของตำนานต้นกำเนิดของกาแฟเพียงเท่านั้น แต่ค่อนข้างมีหลักฐานที่ยืนยันว่ากาแฟมีต้นกำเนิดมากจากเรื่องเล่าเรื่องนี้ เราจึงได้เลือกเรื่องนี้มาแบ่งปันกับทุกคน แต่อย่างไรก็ตาม กว่ากาแฟจะมาเป็นที่รู้จักขนาดนี้ก็ค่อนข้างผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมายเหมือนกัน
มาต่อกันที่ประเภทของกาแฟกันบ้างดีกว่า วันนี้เราจะขอนำเสนอ กาแฟ 5 ประเภทที่คิดว่าน่าจะเป็นที่รู้จักและหลายคนน่าจะเห็นกันทั่วไปในเมนูกาแฟของแต่ละร้านหรือในแต่ละคาเฟ่ ซึ่งประกอบไปด้วย
1. Espresso (เอสเปรสโซ่) : คำว่า Espresso มาจากภาษาอิตาลี กาแฟเอสเปรสโซ่ถือเป็นต้นกำเนิดของกาแฟทุกประเภท เป็นกาแฟดำชนิดเข้มข้นแท้ๆ ที่ไม่ผสมเติมแต่งสิ่งใด รสชาติจึงเข้มข้นมากๆ เหมาะสำหรับจิบในยามเช้าก่อนไปทำงานเพื่อความกระปี้กระเป่าให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และด้วยความที่มีแคลอรี่ต่ำ จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่กำลังไดเอทอีกด้วย
2. Americano (อเมริกาโน่) : ด้วยความที่กาแฟเอสเปรสโซ่อาจจะค่อนข้างเข้มข้นเกินไป จึงเกิดกาแฟอเมริกาโน่ขึ้นมา เพราะกาแฟอเมริกาโน่ คือ กาแฟเอสเปรสโซ่ ที่เติมน้ำร้อนลงไปเพื่อให้ความเข้มข้นเจือจางลง จึงมีรสชาติที่เข้มข้นแต่น้อยกว่ากาแฟเอสเปรสโซ่นั่นเอง ส่วนใหญ่จะนิยมดื่มโดยไม่เติมน้ำตาลหรือนมเข้าไป และแน่นอนว่ามีแคลอรี่น้อย
3. Latte (ลาเต้) : คำว่า Latte มาจากภาษาอิตาลี แปลว่า ‘นม’ กาแฟลาเต้ประกอบด้วยกาแฟเอสเปรสโซ่ นมร้อน และนม กาแฟลาเต้จึงมีรสชาติที่ไม่เข้มข้นจนเกินไป ถือว่ามีรสชาติกลมกล่อมของกาแฟผสมนมที่กำลังพอดิบพอดี แต่ก็เป็นกาแฟที่มีแคลอรี่ค่อนข้างเยอะประมาณหนึ่ง ความพิเศษอีกหนึ่งอย่างของ ลาเต้ ก็คือ ทำให้เกิด ลาเต้อาร์ท (Latte art) หรือการสร้างสรรค์ลวดลายลงบนกาแฟให้เป็นรูปต่างๆ อาทิ หัวใจ ดอกไม้ เป็นต้น
1
4. Mocca (มอคค่า) : กาแฟมอคค่ามาจากสายพันธ์อาราบิก้าที่มีแหล่งปลูกในประเทศเยเมน ส่วนคำว่า Mocca มาจากท่าเรือ Mocha บนชายฝั่งทะเลแดงของประเทศเยเมนซึ่งถือว่าเคยเป็นศูนย์กลางของตลาดค้ากาแฟของประวัติศาสตร์กาแฟโลก กาแฟมอคค่านั้นมีองค์ประกอบคล้ายคลึงกาแฟลาเต้ แต่ความพิเศษคือจะมีช็อกโกแลตผสมอยู่ด้วย ทำให้มีรสชาติที่เป็นกาแฟเอสเปรสโซ่ผสมกลิ่นช็อกโกแลตหรือโกโก้ มักมีฟองนมด้านบนและโรยด้วยผงโกโก้หรือผงอบเชย
5. Cappuccino (คาปูชิโน่) : เช่นเดียวกับกาแฟประเภทอื่น กาแฟคาปูชิโน่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอิตาลี คำว่า คาปูชิโน่ มาจากการที่สีของเอสเปรสโซ่และฟองนมที่เป็นองค์ประกอบของกาแฟคาปูชิโน่นั้นมีความคล้ายคลึงกับสีเสื้อคลุมของนักบวชคณะคาปูชิน จึงได้รับการขนานนามว่า "คาปูชิโน่" นั่นเองความพิเศษของกาแฟคาปูชิโน่คือฟองนมด้านบนจะค่อนข้างหนาและมักโรยด้วยผงชินนามอนหรือผงโกโก้ โดยจะมีรสชาติเข้มข้นกว่ากาแฟลาเต้
ในวันนี้ทุกคนก็ได้เรียนรู้เกี่ยวกับกาแฟกันไปประมานหนึ่งแล้ว เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสาระน่ารู้ที่เรานำมาอัปเดตกันวันนี้จะทำให้ทุกคนเลือกดื่มกาแฟได้ตรงตามใจตัวเองมากยิ่งขึ้น สำหรับเราเอง เราชื่นชอบกาแฟมากๆ จนอยากจะเปลี่ยนมาเป็นน้ำดื่มเลยทีเดียว แต่คนเราก็ไม่ควรจะดื่มกาแฟมากเกินไปเพราะคาเฟอีนในกาแฟจะส่งผลเสียต่อสุขภาพได้
โฆษณา