Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Bookslover - อ่านเพื่อชนะปัญหา
•
ติดตาม
26 มิ.ย. 2022 เวลา 13:50 • หนังสือ
คุณเคยสงสัยไหมว่า...นักลงทุนหรือนักนักธุรกิจที่เก่งๆ เขาเคยตัดสินใจผิดหรือทำพลาดกันบ้างไหม แน่นอนว่าคำตอบคือ “มี” และอาจจะบ่อยด้วย แต่คำถามคือ ทำไมเขาเหล่านั้นยังร่ำรวยและมั่งคั่งอยู่ดี?
สรุปหนังสือ The Psychology of Money ตอนที่ 7
ในสัปดาห์ที่แล้ว แอดก็ได้เล่าถึงบทที่ 5 ของจิตวิทยาว่าด้วยเงินไปแล้ว นั่นคือเรื่องของ “ได้มาซึ่งความมั่งคั่ง กับ รักษาไว้ซึ่งความมั่งคั่ง” ค่ะ
ในสัปดาห์นี้ แอดก็จะมาเล่าต่อในบทที่ 6 ว่าด้วยเรื่องของ “หางยาว คุณชนะ” เนื้อหามีดังนี้
Topic:
1. ทฤษฎีหางยาว (Long Tail) คืออะไร?
2. ตัวอย่างของ tail event: นักสะสมงานศิลปะ ไฮนซ์ เบิร์กกรุน
3. ตัวอย่างของ tail event: ธุรกิจของ วอลต์ ดิสนีย์
4. ตัวอย่างของ tail event: นักลงทุนอย่าง วอร์เรน บัฟเฟตต์
สงสัยกันแล้วใช่ไหมคะว่า หางยาว คืออะไร? ทำไมจะต้อง “หางยาว” ด้วย? แอดบอกเลยว่าแอดก็เพิ่งรู้จักทฤษฎีนี้ครั้งแรกเหมือนกันค่ะ รู้สึกดีใจมากที่ได้อ่านเรื่องนี้
เป็นความรู้ใหม่ที่ดีมากๆ เลย แอดคิดว่าใครได้อ่านเรื่องนี้ น่าจะทำให้เปลี่ยนมุมมองใหม่เกี่ยวกับความผิดพลาดหรือความล้มเหลวได้ไม่มากก็น้อยเลยค่ะ น่าจะมองในมุมที่ดีขึ้นเยอะเลย และก็มีกำลังใจมากขึ้นด้วย
อย่าเพิ่งเชื่อแอดนะคะ ต้องลองอ่านก่อน ว่าจริงไหม!!!
เครดิต: https://www.maxideastudio.com/blog/long-tail
ทฤษฎีหางยาวเป็นทฤษฎีของยุค 4.0 ที่เข้ามาท้าทายกฎ 80/20 เดิมของพาเรโต
โดยทฤษฎีหางยาวนี้อธิบายว่า...หากเราลองวาดกราฟแล้วเราจะเห็นว่ายอดขายที่กระจุกตัวอยู่ในสินค้าแค่เพียงไม่กี่ชิ้นจะเปรียบเสมือนกับหัว และสินค้าอีกจำนวนมากมายมหาศาลที่มียอดขายไม่สูงนั้นเปรียบเสมือนกับหาง
เครดิต: https://www.hooktalk.com/longtailkeywordforseo/
โดยทฤษฎีนี้ได้ตั้งคำถามว่า...
หากเรานำยอดขายของสินค้าที่ไม่เป็นที่นิยมจำนวนมากมารวมกันแล้ว อาจสร้างผลลัพธ์ได้ดีกว่าสินค้าที่ขายดีและเป็นที่นิยมก็เป็นได้ ซึ่งต่างจากกฎของพาเรโตที่ให้มุ่งเน้นไปที่การขายและสร้างผลลัพธ์จากสินค้าที่เป็นที่นิยมแค่เพียงอย่างเดียว
เฮาเซิลบอกว่า...
หลายสิ่งหลายอย่างในธุรกิจและการลงทุนก็เป็นเช่นนี้ กลยุทธ์หางยาวหรือส่วนที่ไกลที่สุดของการกระจายผลลัพธ์นั้นมีอิทธิพลอย่างมากในเรื่องการเงิน ในแบบที่เหตุการณ์เล็กๆ จำนวนมากสามารถทำให้ผลลัพธ์ส่วนใหญ่เกิดขึ้นมาได้
เครดิต: https://www.bareo-isyss.com/2019/living-young/picasso
ไฮนซ์ เบิร์กกรุน หลบหนีจากนาซีเยอรมันในปี 1936 เขาลงหลักปักฐานในอเมริกา ซึ่งเป็นที่ที่เขาได้เรียนวรรณคดีที่ ยู.ซี. เบิร์กลีย์
ตามคำบอกเล่าของคนส่วนใหญ่ เขาไม่ได้ฉายแววในเรื่องใดเลยในช่วงวัยรุ่น แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็ตาม ในช่วงทศวรรษที่ 1990 เบิร์กกรุนเป็นหนึ่งในผู้ค้างานศิลปะที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดตลอดกาล
ในปี 2000 เบิร์กกรุนขายภาพส่วนหนึ่งในคอลเลกชั่นขนาดใหญ่ของเขาที่ประกอบไปด้วยงานของ ปิกัซโซ บราคส์ คลีส์ และมาติส ให้กับรัฐบาลเยอรมนีด้วยจำนวนเงินที่มากกว่า 100 ล้านยูโร มันเป็นสัญญาซื้อขายที่รัฐบาลเยอรมนีเห็นว่าเป็นการบริจาคที่มีประสิทธิภาพ มูลค่าของคอลเลกชั่นในตลาดซื้อขายโดยตรงนั้นมีราคาสูงกว่า 1,000 ล้านเหรียญ
ปาโบล ปีกัสโซ; เครดิต: https://www.gallerylombardi.com/
การที่คนเพียงคนเดียวสามารถรวบรวมผลงานชิ้นเอกได้เป็นจำนวนมากนับเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์
งานศิลปะนั้นเป็นเรื่องเฉพาะบุคคลตามแบบของมัน เป็นไปได้อย่างไรที่ใครบางคนจะสามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้าในช่วงต้นของชีวิตว่างานชิ้นไหนจะกลายเป็นผลงานที่มีคนตามหามากที่สุดแห่งศตวรรษ?
คุณอาจจะบอกว่าเป็นเพราะ “ทักษะ”
คุณอาจจะบอกว่าเป็นเพราะ “โชค”
เครดิต: https://www.bareo-isyss.com/2019/living-young/picasso
บริษัทการลงทุนฮอไรซอน รีเสิร์ช มีคำอธิบายอย่างที่สาม และมันมีความเกี่ยวข้องกับตัวของนักลงทุนอย่างมาก
บริษัทเขียนไว้ว่า...
“นักลงทุนผู้ยิ่งใหญ่ซื้องานศิลปะเอาไว้เป็นจำนวนมาก ส่วนหนึ่งของคอลเลกชั่นกลายมาเป็นการลงทุนชั้นยอด และพวกมันถูกถือเอาไว้ในระยะเวลาที่ยาวนานเพียงพอที่จะทำให้งานส่วนที่ดีที่สุดของพอร์ตสร้างผลตอบแทนครอบคลุมเงินลงทุนทั้งหมดในพอร์ต นั่นคือเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น”
นักซื้อขายงานศิลปะผู้ยิ่งใหญ่นั้นดำเนินการคล้ายกับกองทุนดัชนี พวกเขาซื้อทุกอย่างที่สามารถซื้อได้ และพวกเขาซื้อมันเป็นพอร์ตการลงทุน ไม่ใใช่ซื้อแค่เพียงงานชิ้นใดชิ้นหนึ่งที่พวกเขาเกิดความชอบ จากนั้นพวกเขาก็นั่งลงและรอคอยให้ผู้ชนะปรรกฏตัวขึ้นมา
นั่นคือเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น
เครดิต: https://www.gallerylombardi.com/
บางทีชิ้นงานศิลปะจำนวน 99% จากงานทั้งหมดที่คนแบบเบิร์กกรุนได้มาในชีวิตอาจกลายเป็นสิ่งที่มีมูลค่าน้อย แต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่สำคัญเลยหากอีก 1% จะกลายเป็นงานของคนอย่างปิกัสโซ
เบิร์กกรุนอาจคิดผิดเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่เขาก็ยังคงจบลงด้วยความถูกต้องอย่างน่าทึ่ง
เครดิต: https://thepeople.co/walt-disney-a-survivor-of-spanish-flu-pandemic/
การ์ตูนสั้นเรื่อง เรือกลไฟวิลลี (Steamboat Willie) นั้นทำให้วอลต์ ดิสนีย์ เป็นที่รู้จักในฐานะของคนวาดภาพการ์ตูน แต่ทว่าความสำเร็จในด้านธุรกิจนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
สตูดิโอแรกของดิสนีย์นั้นล้มละลาย ภาพยนตร์ของเขานั้นมีทุนสร้างสูงมาก และมีการจัดหาเงินทุนด้วยเงื่อนไขที่เขี้ยวลากดิน ดิสนีย์สร้างการ์ตูนออกมามากกว่า 400 เรื่องในช่วงกลางทศวรรษที่ 1930 ส่วนใหญ่เป็นเรื่องสั้น ส่วนใหญ่เป็นที่รักของผู้ชม และส่วนใหญ่ไม่สร้างรายได้
แต่แล้วเรื่อง “สโนไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด” ก็เข้ามาเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง
เครดิต: https://m.ncontentmobile.com/wordpress/snow-white
เงิน 8 ล้านเหรียญที่เรื่องนี้ทำได้ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 1938 นั้น เป็นความยิ่งใหญ่ซึ่งสูงกว่าทุกสิ่งที่บริษัทเคยทำได้ก่อนหน้านี้ มันพลิกสตูดิโอดิสนีย์ไปเลย หนี้ทั้งหมดของบริษัทถูกชำระ ลูกจ้างหลักของบริษัทได้รับเงินโบนัสพิเศษ บริษัทจ่ายเงินซื้อสตูดิโอใหม่ที่ดีที่สุดในเมืองเบอร์แบงก์ ซึ่งยังคงอยู่มาจนถึงทุกวันนี้
2
รางวัลออสการ์เปลี่ยนวอลต์จากคนมีชื่อเสียงไปเป็นคนดังเต็มตัว ภายในปี 1938 เขาผลิตภาพยนตร์ออกมาแล้วคิดเป็นจำนวนหลายร้อยชั่วโมง แต่ในแง่ของธุรกิจแล้ว การ์ตูนเรื่องสโนไวท์ที่มีความยาว 83 นาทีคือทุกสิ่งที่มีความหมาย
เครดิต: https://www.theguardian.com/film/2022/jan/27/peter-dinklage-snow-white-and-the-seven-dwarfs-disablist-representation-disney
และพวกเราส่วนมากมักจะสนใจในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ สร้างผลกำไร มีชื่อเสียง หรือมีอิทธิพล เมื่อเราให้ความสนใจส่วนใหญ่ไปที่ผลลัพธ์ของหาง มันก็เป็นเรื่องง่ายที่พวกเราจะประเมินค่าพลังของพวกมันต่ำจนเกินไป
เครดิต: https://www.blueoclock.com/warren-buffett-story/
สิ่งนี้เกิดขึ้นในการลงทุนเช่นกัน เป็นเรื่องง่ายที่เราจะหาความมั่งคั่งสุทธิหรือผลตอบแทนเฉลี่ยประจำปีของวอร์เร็น บัฟเฟตต์ หรือแม้กระทั่งการลงทุนที่น่าจดจำและดีที่สุดของเขา มันทนโท่อยู่ตรงนั้น และเป็นสิ่งที่ผู้คนต่างก็พูดถึง
การจับต้นชนปลายทุกๆ การลงทุนที่เขาทำตลอดช่วงอาชีพของเขานั้นเป็นเรื่องที่ยากกว่ามาก ไม่มีใครพูดถึงการลงทุนที่ไม่สร้างผลกำไร ธุรกิจที่แย่ และการเข้าซื้อกิจการที่ไม่ดี แต่เหล่านั้นคือส่วนสำคัญในเรื่องราวของบัฟเฟตต์ พวกมันคือมุมมองอีกด้านหนึ่งของหางที่เป็นตัวขับเคลื่อนผลตอบแทน
ที่งานประชุมผู้ถือหุ้นของเบิร์กไชร์ แฮทาเวย์ในปี 2013 วอร์เร็น บัฟเฟตต์ พูดว่า เขาเป็นเจ้าของหุ้น 400-500 ตัวระหว่างช่วงชีวิตของเขา และทำเงินส่วนใหญ่ได้จากหุ้น 10 ตัวในจำนวนพวกมันทั้งหมด
ชาร์ลี มังเกอร์พูดต่อว่า “ถ้าหากคุณเอาการลงทุนที่ดีที่สุด 2-3 ตัวของเบิร์กไชร์ออกไป ผลงานในระยะยาวของเราก็ค่อนข้างที่จะธรรมดา”
เครดิต: https://www.stock2morrow.com/article-detail.php?id=886
เฮาเซิลบอกว่า...
เวลาที่เราให้ความสนใจกับต้นแบบความสำเร็จของเรามากเป็นพิเศษ เรามักจะมองข้ามไปว่าผลกำไรที่พวกเขาได้มานั้นมาจากกระทำของพวกเขาเพียงแค่ไม่กี่เปอร์เซ็นต์ นั่นทำให้เรารู้สึกเหมือนกับว่าเรากำลังทำอะไรผิดไปเมื่อเราต้องประสบกับความล้มเหลว ความสูญเสีย และความพ่ายแพ้ของตัวเราเอง
มันอาจเป็นไปได้ว่าเรานั้นทำผิดพลาด หรือแท้จริงแล้วเราแค่เพียงทำพลาดบ่อยครั้งพอๆ กับที่พวกปรมาจารย์ทำ ในเวลาที่เขาทำถูก เขาอาจจะทำ ถูกมากกว่า คุณ แต่ว่าพวกเขาเองก็สามารถที่จะทำผิดได้บ่อยครั้งพอๆ กับคุณ
เครดิต: https://www.intergold.co.th/investor_core/history-of-george-soros/
ครั้งหนึ่ง จอร์จ โซรอส เคยพูดว่า...
“การที่คุณจะทำถูกหรือทำผิดนั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่มันสำคัญตรงที่คุณทำเงินได้มากแค่ไหนในเวลาที่คุณถูก และคุณสูญเสียเงินไปมากแค่ไหนในเวลาที่คุณผิด”
1
คุณสามารถทำผิดได้ครึ่งหนึ่งและยังคงสามารถสร้างความมั่งคั่งได้
https://www.sanook.com/campus/1397021/
มีดาวเคราะห์อยู่หนึ่งแสนล้านดวงภายในกาแล็กซีของเรา และเท่าที่เราทราบมีเพียงแค่ดวงเดียวที่มีสิ่งมีชีวิตที่ชาญฉลาด
มอร์แกน เฮาเซิล
อ่านจบแล้วเป็นยังไงบ้างคะ?
ไม่ว่าตอนนี้สินค้าตัวหนึ่งของคุณอาจมียอดขายยังไม่ดี วิธีการเก็บเงินของคุณตอนนี้ยังไม่เวิร์ค หุ้นหลายๆ ตัวในพอร์ตของคุณกำลังแดงอยู่
แน่นอนว่ามันก็ทำให้คุณรู้สึกนอยด์ ท้อ เสียใจ
แต่หลังจากที่คุณได้อ่านเรื่องของ “ทฤษฎีหางยาว (Long Tail)” แล้ว แอดอยากให้ลองระลึกถึงมันเสมอเวลาที่คุณรู้สึกว่าตัวเองทำผิดพลาดหรือล้มเหลว ว่าจริงๆ แล้วสิ่งที่พลาดไปนั้นมันเป็นแค่เหตุการณ์ปลายหางหนึ่งในหลายๆ ครั้งเท่านั้น
ถ้าคุณไม่หยุด และสร้างเหตุการณ์ปลายหางให้ยาวไปเรื่อยๆ เพิ่มจำนวนครั้งมันไปเรื่อยๆ ไม่แน่ว่าในที่สุดคุณอาจจะได้พบกับเหตุการณ์ปลายหางแค่ 1 ครั้ง แต่เป็นครั้งที่เปลี่ยนชีวิตคุณไปตลอดกาลเลยก็ได้
25 บันทึก
8
13
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
จิตวิทยาว่าด้วยเงิน 20 บทเรียนเรื่องความมั่งคั่ง ความโลภ และความสุข
25
8
13
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย