อิตาลี ประเทศหนี้สูง ที่ยุโรปกลัว
ในการประชุมฉุกเฉินของธนาคารกลางยุโรป เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน
หัวข้อหลักของการประชุมคือ ความกังวลเรื่องตลาดพันธบัตรของประเทศอิตาลี
ที่ผลตอบแทนพันธบัตรกำลังพุ่งสูง
ซึ่งหลายคนอาจจะสงสัย ว่าทำไมอิตาลีถึงกลายเป็นจุดสนใจ ในการประชุมครั้งนี้
จนทำให้ทางธนาคารกลางยุโรป ต้องออกมาประกาศว่าจะมีมาตรการพิเศษ
ในการดูแลประเทศหนี้สูง เช่น อิตาลี เพื่อคลายความกังวลของนักลงทุน
Billion Money จะอธิบายให้ฟัง
โดยประเทศอิตาลีนั้น เป็นหนี้มากถึง 152.3% ต่อ GDP
นับเป็นอันดับ 2 ของสหภาพยุโรป รองจากกรีซเพียงเท่านั้น
แต่เมื่อเราย้อนดูอัตราการเติบโต GDP ของอิตาลี จะพบว่า
ปี 2017 อัตราการเติบโต GDP เท่ากับ 1.7%
ปี 2018 อัตราการเติบโต GDP เท่ากับ 0.9%
ปี 2019 อัตราการเติบโต GDP เท่ากับ 0.5%
ปี 2020 อัตราการเติบโต GDP เท่ากับ -9%
ปี 2021 อัตราการเติบโต GDP เท่ากับ 6.8%
จากตัวเลขแสดงให้เห็นว่า อิตาลีเป็นประเทศที่เศรษฐกิจเติบโตต่ำมานาน
โดยในปี 2021 ที่เห็นว่า GDP เติบโตสูงนั้น ก็เป็นเพียงผลจากฐานของ GDP ในปีก่อนหน้าที่ต่ำ
จากการระบาดของโควิด 19 ในปี 2020 เท่านั้น
การที่อัตราส่วนหนี้สูง แต่อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจต่ำนั้น
หมายความว่าเงินที่อิตาลีกู้มาอย่างมหาศาล ไม่ได้ถูกนำมาช่วยให้เศรษฐกิจเติบโต
จึงสร้างความกังวล ให้กับธนาคารกลางยุโรป ว่าอิตาลีจะสามารถใช้หนี้ได้หรือไม่
สำหรับสาเหตุที่เศรษฐกิจอิตาลีเติบโตช้า ประการแรก คือแรงงานและทุนมนุษย์
เนื่องจากอิตาลีเป็นสังคมสูงวัย ทำให้แรงงานมีน้อย
โดยประชากรที่เป็นกำลังแรงงานของอิตาลี คิดเป็น 37% เท่านั้น
การขยายการผลิตจึงเป็นไปอย่างเชื่องช้า เพราะขาดแคลนแรงงาน
ซึ่งนอกจากแรงงานจะมีน้อยแล้ว คุณภาพแรงงานของอิตาลี
ยังต่ำกว่าประเทศในสหภาพยุโรปด้วยกัน
เห็นได้จากอัตราการเรียนจบมหาวิทยาลัย ที่มีเพียงแค่ 29%
ซึ่งต่ำสุดเป็นอันดับ 2 ของสหภาพยุโรป รองจากโรมาเนีย ซึ่งเป็นประเทศที่ยากจนกว่าอิตาลีมาก
ส่งผลให้อิตาลีขาดแคลนแรงงานคุณภาพสูง ที่จะมาช่วยยกระดับการผลิต
และการแข่งขันของประเทศอิตาลีในอนาคต
ส่วนอีกสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้อิตาลีเติบโตอย่างเชื่องช้า
คือผู้ประกอบการขาดความสามารถในการแข่งขัน
สะท้อนให้เห็นได้จากอัตราส่วน งบประมาณในการวิจัยและพัฒนา (R&D) ต่อ GDP
ที่มีเพียงแค่ 1.5% ซึ่งน้อยกว่าค่าเฉลี่ยของสหภาพยุโรปที่ 2.7%
ทำให้ธุรกิจของอิตาลีมีการพัฒนาช้ากว่าประเทศที่เจริญแล้วด้วยกัน
และการไม่ค่อยมีบริษัทต่างชาติเข้ามาลงทุนแข่งขัน ก็ยิ่งทำให้ธุรกิจของอิตาลี ขาดแรงจูงใจในการพัฒนาตนเองอีกด้วย
แล้วสิ่งที่ทำให้ธนาคารกลางยุโรป ต้องรีบประชุมอย่างเร่งด่วนคืออะไร ?
หลังจากที่ผู้ว่าการธนาคารกลางยุโรป ได้ออกมาประกาศในการประชุมนโยบายการเงินเมื่อครั้งก่อน
ว่าธนาคารกลางยุโรป กำลังเตรียมขึ้นดอกเบี้ย และจะลดการอัดฉีดเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
ส่งผลให้นักลงทุน กังวลว่าเศรษฐกิจของอิตาลีที่เติบโตช้าอยู่แล้ว จะกลายเป็นหดตัว
เมื่อไม่มีการกระตุ้นเศรษฐกิจจากธนาคารกลางยุโรป
และจะดันให้อัตราส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ของอิตาลี พุ่งสูงขึ้นจนควบคุมไม่อยู่
เป็นเหตุให้พันธบัตรของอิตาลีโดนเทขายอย่างหนัก จนทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร
พุ่งขึ้นแตะ 4% ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในรอบ 4 ปี
หมายความว่า ถ้าหากอิตาลีจะทำการกู้ใหม่อีกครั้ง จะต้องออกพันธบัตรที่ดอกเบี้ยสูงกว่า 4%
เพื่อจูงใจให้คนมาถือพันธบัตรของอิตาลี ทำให้ดอกเบี้ยที่อิตาลีจะต้องจ่ายในอนาคตนั้นสูงขึ้นไปอีก
และด้วยความผันผวนของเศรษฐกิจในช่วงนี้ การกู้ครั้งใหม่ของอิตาลี ก็มีโอกาสสูงมากที่จะเกิดขึ้น
ทำให้ ณ ตอนนี้ธนาคารกลางยุโรป ต้องพบกับความยากลำบาก ในการขึ้นดอกเบี้ย
เพราะถ้าหากไม่ขึ้นดอกเบี้ยในตอนนี้ ก็อาจจะไม่สามารถควบคุมเงินเฟ้อได้
แต่ถ้าหากขึ้นดอกเบี้ยอย่างรวดเร็ว ก็จะทำให้ต้นทุนในการกู้ยืมครั้งใหม่ของอิตาลีสูงขึ้น
จึงทำให้หลังจากการประชุมเร่งด่วนครั้งล่าสุด ทางธนาคารกลางยุโรปจึงได้ออกมาบอกว่า
กำลังวางแผนในการเข้าซื้อพันธบัตร เพื่อช่วยเหลือประเทศในสหภาพยุโรปที่เศรษฐกิจอ่อนแอ
ส่งผลให้ในตอนนี้ ธนาคารกลางยุโรปต้องดำเนินการ ด้วยความระมัดระวังเป็นอย่างมาก
เพราะถ้าหากปล่อยให้ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 8 ของโลก เดินหน้าเข้าสู่วิกฤติหนี้
ก็อาจฉุดให้เศรษฐกิจ ที่เชื่อมโยงกันอย่างเหนียวแน่นของสหภาพยุโรป พังพินาศไปพร้อมกันได้
References
- 26
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
