23 มิ.ย. 2022 เวลา 01:08 • ธุรกิจ
“อุตสาหกรรมถ่านหิน” หวนกลับมาอีกครั้ง ในยุคพลังงานแพง
หลังจากที่ยุโรประงับการนำเข้าก๊าซจากรัสเซีย ทำให้รัฐบาลจากหลายๆ ประเทศในยุโรป เช่น เยอรมนี อิตาลี ออสเตรีย และ เนเธอร์แลนด์ กลับมาพิจารณาการใช้ถ่านหินอีกครั้ง เพื่อชดเชยปริมาณก๊าซจากรัสเซียที่หายไป
📌 เทรนด์พลังงานสะอาดกำลังมา แล้วอุตสาหกรรมถ่านหินเป็นอย่างไร ?
อุตสาหกรรมถ่านหิน ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในวิธีการผลิตพลังงานที่สกปรกและก่อมลพิษมากที่สุด โดย ถ่านหินเป็นทั้งแหล่งผลิตไฟฟ้าราคาถูกที่ใหญ่ที่สุด และยังปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากที่สุดอีกด้วย จึงเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมากในการเปลี่ยนผ่านจากการลดการใช้ถ่านหินไปสู่นโยบายพลังงานสะอาดของข้อตกลง COP26
อย่างไรก็ตาม ในปี 2021 ที่ผ่านมา ถ่านหินก็มีความต้องการสูงมาก สาเหตุมาจาก ประเทศต่าง ๆ ประสบปัญหากับความต้องการพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากที่ชะลอตัวไปในช่วงโควิด 19 ดังนั้น ถ่านหินจึงเป็นทางออก เพราะแหล่งพลังงานต้นทุนต่ำที่หาได้ง่าย โดยการบริโภคถ่านหินทั่วโลกเพิ่มขึ้น 450 ล้านตันหรือประมาณ 6% ในปี 2021
และจากข้อมูลของ International Energy Agency พบว่าในปี 2021 ที่ผ่านมาโลกของเราเผาถ่านหิน เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าในปริมาณมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา และยังมีการคาดการณ์ว่า ภายใต้แนวโน้มต่างๆ
1
ปริมาณการบริโภคทั่วโลกโดยรวม การผลิตไฟฟ้าการใช้ในอุตสาหกรรม เช่น เหล็กและซีเมนต์ จะทำให้มีการใช้ถ่านหินแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ อีกด้วย
1
📌 คาดการณ์การผลิตถ่านหินในปี 2024
จากการประชุม COP26 เรื่องการขอร้องให้มีการลดการใช้ถ่านหิน เพื่อสู้กับภาวะโลกร้อน มีเพียง 40 ประเทศเท่านั้น ที่ให้คำมั่นที่จะหยุดการออกใบอนุญาตและการสนับสนุนโดยตรงจากรัฐบาลสำหรับโรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งใหม่
อย่างไรก็ตาม ประเทศผู้ผลิตถ่านหินชั้นนำหลายแห่งไม่ได้ให้คำมั่นสัญญา เช่น จีน สหรัฐอเมริกา อินเดีย รัสเซีย และ ออสเตรเลียงดออกเสียง และใน 5 ประเทศนี้ มีเพียงสหรัฐอเมริกา เท่านั้นที่คาดว่าจะลดการผลิตถ่านหินในอีก 2 ปีข้างหน้า
สหรัฐอเมริกาและอินโดนีเซียเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่คาดการณ์ว่าจะลดการพึ่งพาถ่านหินลง โดยสหรัฐอเมริกาคาดว่าจะลดการผลิตถ่านหินลง 7.5% หรือ 44 ล้านตันในขณะที่อินโดนีเซียคาดว่าจะลดลงที่ 6 ล้านตันหรือลดลงเพียง 1% ของการผลิตในปี 2021
อย่างไรก็ตาม 2 ผู้ผลิตถ่านหินรายใหญ่ของโลกอย่าง จีนและอินเดีย ที่ผลิตถ่านหินเกือบ 60%ของโลก และ คาดว่าจะเพิ่มการผลิตได้มากกว่า 200 ล้านตันต่อปี
อย่างไรก็ตาม การลดการผลิตถ่านหิน จะทำให้ไม่เพียงพอกับความต้องการภายในประเทศ และภายในปี 2024 ปริมาณการใช้ถ่านหินของจีนคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.3% และของอินเดียเพิ่มขึ้น 12.2%
1
📌 สถานการณ์ทางการเมือง ผลักให้คนหามาใช้ถ่านหินกันมากขึ้น
นอกจากการระบาดของโควิด 19 จะทำให้หลายๆ ประเทศหันมาพึ่งพาการใช้ถ่านหิน เนื่องจากเป็นแหล่งพลังงานที่ถูกแล้ว สงครามรัสเซีย-ยูเครน ผลักให้อีกหลาย
ประเทศในทวีปยุโรปหันมาใช้ถ่านหินกันมากขึ้น เพื่อทดแทนจากการที่ระงับการนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียอีกด้วย เช่น ประเทศ เยอรมนี อิตาลี ออสเตรีย และเนเธอร์แลนด์ ล้วนระบุว่าสามารถใช้โรงไฟฟ้าถ่านหิน เพื่อชดเชยการแบนก๊าซของรัสเซียได้
อย่างไรก็ตาม การหันมาใช้ถ่านหินในยุโรปก็เป็นเพียงเรื่องชั่วคราวเท่านั้น เนื่องจาก ยุโรปยังคงมีมาตรการลดใช้ถ่านหิน เพื่อบรรลุข้อตกลงด้านพลังงานสะอาดในอนาคต
ผู้เขียน : ณิศรา วาดี Economist, Bnomics
ภาพประกอบ : จินดาวรรณ อรรถมานะ Graphic Designer, Bnomics
▶️ ติดตามช่องทางของ Bnomics ได้ที่
Line OA : @Bnomics https://bit.ly/3eYkTJC
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
References :

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา