Move to Heaven : การรักใครสักคนไม่ใช่เรื่องน่าอาย
แต่การรักใครไม่ได้ต่างหากที่น่าอาย
ส่งท้าย #PrideMonth เดือนมิถุนายน ขอเล่าถึงความรักที่ถูกครอบครัวมองว่า “ผิดปกติ” ในซีรีส์เรื่อง Move to Heaven (2021)
*คำเตือน : สปอยล์ตั้งแต่บรรทัดแรก จนบรรทัดสุดท้าย
หลังจากพ่อเสียชีวิตไป ฮันกือรูลูกชายก็สานต่องานบริษัทรับจ้างทำความสะอาดสถานที่และเก็บข้าวของของผู้ตาย เพื่อสะสางสิ่งที่ยังค้างคาให้ผู้ตายจากไปอย่างสงบและหมดห่วง
ฮันกือรูป่วยเป็นโรคแอสเพอร์เกอร์ มีความบกพร่องในการเข้าสังคม แต่ในขณะเดียวกันเค้าเป็นเด็กที่มีจิตใจละเอียดอ่อน และสัมผัสไวต่อความรู้สึก
นี่อาจเป็นคุณสมบัติพิเศษที่ทำให้กือรูสื่อสารกับความปรารถนาสุดท้ายของผู้ตาย ผ่านตัวหนังสือและสิ่งของอันเป็นที่รักของพวกเขาได้
EP.5 ฮันกือรูรับงานเก็บข้าวของของคุณจองซูฮยอน (คุณหมอหนุ่ม) ที่เพิ่งเสียชีวิต
เค้าพบจดหมายที่ผู้ตายเขียนถึงคนรักแต่ยังไม่ถูกส่ง
การบอกความในใจครั้งสุดท้ายของคุณหมอ คือภารกิจ Move to Heaven ในครั้งนี้
ระหว่างทางก็มีการสืบหาเชื่อมโยงกับสิ่งของต่างๆ ขอห้ามไปตอนเจอเลยนะครับ
เฉลย : คนรักที่คุณหมอเขียนถึงคือคุณเอียน (นักดนตรีหนุ่ม)
ทั้งคู่เลิกรากันเนื่องจากพ่อแม่ไม่ยอมรับความสัมพันธ์ช-ช
หลังจากแยกย้ายกันคุณหมอต้องใช้ชีวิตอย่างไม่มีความสุข ทำให้รู้ว่าชีวิตต้องการอะไร จึงใช้ความกล้าปฏิเสธครอบครัว ทำตามหัวใจตัวเอง โดยจะขอคืนดีและเตรียมขอคุณนักดนตรีแต่งงาน
แต่ไม่กี่วันต่อมาคุณหมอก็เสียชีวิตลง…
(ข้อความในจดหมายที่คุณหมออยากบอกคุณนักดนตรี)
ฉันจะไม่หลบซ่อนเหมือนคนขี้ขลาดอีกแล้ว ฉันจะไม่ปล่อยมือจากนายอีก
จะขอรับนายเป็นคู่ชีวิต ขอโทษนะที่ปล่อยให้รอ
*****
น้ำตาซึมเลยฮะ
สังคมเกาหลีและอีกหลายๆที่ยังไม่ยอมรับความรักที่หลากหลาย มากกว่าชาย-หญิงแบบที่ผ่านๆมา มันเลยกลายเป็นกรอบให้บางคนไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้
ความรักน่ะ แค่ต้องเอาชนะใจคนที่เรารักก็ยากแล้ว ยังต้องต่อสู้เพื่อเอาชนะสังคมและสายตาของคนรอบข้างอีก
เราต้องเหนื่อยขนาดนั้นกันทำไม?
อย่างในเรื่อง กว่าคุณหมอจะกล้าต่อสู้กับครอบครัว ก็สายเสียแล้ว
*****
หลังจากเสร็จภารกิจฮันกือรูคุยกับคุณอาของเขา
กือรู : “ทั้งคุณหมอและคุณนักดนตรีก็เป็นคนดี แต่ทำไมพ่อแม่ไม่ชอบความสัมพันธ์ของพวกเขา”
คุณอา : “พวกเขาคงขายหน้า ที่ลูกชายไม่มีชีวิตรักตามขนบ”
--พ่อแม่คิดว่าความรักของคุณชายเป็นเรื่องขายหน้า
กือรูถามกลับว่า
“การรักใครไม่ได้ มันน่าขายหน้ากว่าความรักที่ขายหน้า ไม่ใช่หรือ?”
พวกพ่อแม่ชอบกลัวว่าลูกตัวเองจะผ่าเหล่า
การไม่สามารถรักใครก็ได้ต่างหาก เป็นเรื่องน่าอับอาย
ถ้าจะนับว่าอะไรน่าอับอายขายหน้า
การถูกห้ามไม่มีสิทธิ์รักใครต่างหากล่ะ เป็นเรื่องน่าอับอายขายหน้า
ไม่ใช่การมีความรัก
#PrideMonth
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
