23 มิ.ย. 2022 เวลา 01:11 • ความคิดเห็น
สับสนหลายครั้ง...ศึกษาใหม่ตอบคล้ายกันทุกครั้ง
เพื่อเข้าถึงความสุขสงบในใจที่เปี่ยมด้วยความรัก ตนเอง ผู้คน ชีวิต โลก
พระพุทธองค์สั่งสอนพุทธบริษัทให้หมั่นสร้างความสามารถในการเข้าถึงความสุขความสงบด้วยความไม่ประมาท สร้างสุขความพึงพอใจขึ้นในจิตใจโดยทำความเข้าใจโลกธรรมด้วยกำลังสมาธิ ลดความสุขที่อิงอาศัยสิ่งภายนอกให้น้อยลง...ไม่ได้ให้ทุกคนไปนิพพาน
ทุกคนเกิดมาตัวเปล่าจากไปก็ต้องทิ้งร่างไว้ เราอาศัยบิดามารดาและทรัพยากรในโลกเพื่อเติบโต เราเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศน์ หากคิดว่าอยู่เพื่อตาย ร่างที่ถูกฝังหรือเถ้าที่เหลือมีประโยชน์น้อยกว่าปุ๋ยหนึ่งถุง
คำสอนของพระพุทธเจ้า ท่านเน้นท่านสอนให้คนพัฒนาศักยภาพของตนเองโดยให้สร้างความรู้ความเข้าใจในกระบวนการเกิดดับของชีวิต มันเป็นวัฏจักร...
หากเราอยู่โดยตามกระแสของโลก ชีวิตจะหมุนวนสุขทุกข์อยู่กับที่ไม่ไปไหนแล้วจากไปอย่างไร้ความหมายเหมือนชีวิตอื่นๆเหลือคณานับที่อุบัติในโลก
เราสามารถเพิ่มศักยภาพโดยฝึกสติให้รู้เท่าทันกิเลส ความอยากสุขด้วยการเสพความพึงพอใจจะน้อยลง เราจะสามารถเข้าถึงความสุขสงบที่ไม่อิงอาศัย สามารถออกจากความคิดติดวนมุ่งแสวงหาความสุขความมั่นคงในข้าวของเงินทองหรือความสำเร็จ
เมื่อมีความสุขง่ายขึ้นความสุขจะมากขึ้น ความต้องการพึ่งพาอาศัยสิ่งต่างๆจะน้อยลง...เมื่อนั้นเราจะกลายเป็นที่พึ่ง... คนอื่นอยากเข้ามาอยู่ใกล้ อยู่ใกล้แล้วมีความสุข...เมื่อปรารถนาสิ่งใด การงานที่เราทำก็จะมีพลังขับเคลื่อนพิเศษ เมื่อมีความสำเร็จด้วยเจตนาที่กิเลสเบาบาง ความสำเร็จนั้นย่อมเพิ่มความสุขให้คนที่อยู่ใกล้ที่เข้ามาอิงอาศัย...
ถ้าพัฒนาจิตถึงขั้นมีสติรับรู้โลกตามความเป็นจริงได้จิตจะรับรู้และสามารถรับพลังงานบริสุทธิ์ที่ธรรมชาติมอบให้สรรพชีวิตได้ พลังงานในแสงแดดอุ่น แสงระยิบไหวบนใบไม้ในฟองคลื่น เสียงนกกา สายน้ำ เห็นความรักความงดงามในระบบนิเวศน์...สุดท้ายหากพัฒนาจิตถึงไม่ยึดอัตตาตนเอง จิตเขาจะเป็นสมบัติร่วมกันของโลกปรากฏที่ไหนก็จะให้พลังงานความสุขแก่สิ่งแวดล้อม...ชีวิตที่เป็นเนื้อนาบุญ
1
โฆษณา