Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
happening
•
ติดตาม
23 มิ.ย. 2022 เวลา 04:03 • หนังสือ
ถ้าคุณอยากเปิดร้านอาหารหรือคาเฟ่ของตัวเอง นอกจากการหาทำเลหรือฝึกทำอาหารแล้ว เราขอแนะนำให้คุณลองอ่านนิยายญี่ปุ่น 4 เล่มนี้ด้วย!
การแทรกวัฒนธรรมเรื่องอาหารการกินลงไปในสื่อบันเทิงของญี่ปุ่นนั้นมีมานานแล้ว โดยเฉพาะในมังงะและในภาพยนตร์ ส่วนในงานวรรณกรรมก็ถือเป็นเทรนด์ที่มาแรงเทรนด์หนึ่ง
ในช่วงหลังๆ นี้มีนิยายญี่ปุ่นร่วมสมัยที่มีตัวละครเป็นเจ้าของร้านอาหารอยู่หลายเล่ม เพื่อให้เห็นลีลาการหยิบเอาเรื่องอาหารการกิน การจัดการระหว่างความฝันกับความจริง รวมไปถึงเรื่องการเพิ่งพินิจชีวิตแง่มุมต่างๆ มาใส่ไว้ในวรรณกรรม เราขอนำหนังสือวรรณกรรมญี่ปุ่น 4 เล่มที่ได้รับการแปลเป็นภาษาไทย และมีรูปเล่มสวยงามน่ารัก มาแนะนำให้ได้ลองหาอ่านกัน
ถือเป็นการเรียกน้ำย่อยกันก่อน ส่วนใครจะตามไปชิมตัวหนังสือในเล่มไหนต่อก็ตามอัธยาศัย
คาเฟ่ลูส เมนูที่รักจากการเดินทาง
เขียนโดย ฟูมิเอะ คนโด / แปลโดย กนกวรรณ เกตุชัยมาศ
คาเฟ่ลูส เมนูที่รักจากการเดินทาง (ときどき旅に出るカフェ) ถือเป็นเล่มที่เปิดตลาดหนังสือแนวนี้ในเมืองไทยเมื่อปี 2562 แล้วขายดิบขายดีจนถูกพิมพ์ซ้ำอีกหลายครั้ง ปกหลังของหนังสือเรียกแนวของนิยายเรื่องนี้ว่าเป็น Cozy Mystery ซึ่งก็เป็นคำจำกัดความที่ตรงเลยทีเดียว
ฟูมิเอะ คนโด เล่าเรื่องของ นาระ เอโกะ สาวออฟฟิศอายุ 37 ที่ได้ไปพบกับร้านชื่อ คาเฟ่ลูส ที่เจ้าของร้านเป็นอดีตเพื่อนร่วมงานชื่อ คูซูอิ มาโดกะ ซึ่งเป็นเจ้าของร้านที่เหมาทำทุกอย่างในร้านเล็กๆ ร้านนี้ด้วยตัวคนเดียว
คาเฟ่ลูส เป็นร้านที่ทำเมนูอาหารนานาชาติตามใจเจ้าของร้าน โดยมาโดกะจะเปิดร้านเป็นช่วงๆ แล้วเอาช่วงที่ปิดร้านไปออกเดินทางเพื่อหาแรงบันดาลใจและหาเมนูใหม่ๆ จากประเทศต่างๆ มาลองทำให้ลูกค้าของคาเฟ่ลูสได้ลองชิม ...ฟังดูแล้วช่างเป็นวิถีเจ้าของร้านในฝันของใครหลายๆ คนเลยทีเดียว
แน่นอนว่าสาวออฟฟิศที่อยู่กับงานสำนักงานมาเนิ่นนานอย่างเอโกะก็ต้องมีทั้งความทึ่งและความสงสัยว่าทำไมมาโดกะถึงมาใช้ชีวิตแบบนี้ได้ ประเด็นนี้กลายเป็นเส้นเรื่องหลักของนิยายเรื่องนี้
ความสนุกของนิยายเรื่องนี้ยังอยู่ที่แต่ละตอนที่ผู้เขียนเล่าเหมือนกับการไขปริศนาคดีในชีวิตประจำวันผ่านตัวละครอันหลากหลาย ทั้งเพื่อนร่วมงาน ลูกค้า และเจ้านายของเอโกะ หรือลูกค้าคนอื่นๆ ของคาเฟ่ลูส ที่ดูจะมีปริศนาหรือพฤติกรรมอันชวนสงสัยโดยความเก๋ก็คือการไขปริศนานั้นจะทำผ่านของหวานและเครื่องดื่มนานาชาติชนิดต่างๆ ที่มาพร้อมเกร็ดเรื่องราวของอาหารนั้นๆ อีกด้วย
คาเฟ่ลูส เมนูที่รักจากการเดินทาง เป็นนิยายที่อ่านสนุกมาก ด้วยความที่มีหักมุมทุกตอน และมีเส้นเรื่องหลักให้ติดตามไปจนถึงตอนจบที่เฉลยบทสุดท้ายได้อย่างน่าทึ่งและน่าประทับใจ ความโดดเด่นอีกอย่างของนิยายเรื่องนี้คือมันยังว่าด้วยชีวิตของสาวออฟฟิศและคนทำงานทั่วไปในน้ำหนักที่พอๆ กับเรื่องของร้านอาหารหหรืออาหารจานต่างๆ ทำให้เป็นนิยายที่สามารถเชื่อมโยงกับผู้อ่านที่น่าจะเป็นกลุ่มสาวๆ ได้อย่างง่ายดาย
อาหารในเล่ม: ชีสเค้กแบบรัสเซีย, ซุปสตรอว์เบอร์รี, ขนมเซฮาดูลาของโปรตุเกส, เครื่องดื่มยวนยางฉาที่นิยมกันในฮ่องกง, ขนมบาคลาวาของอาหรับ ฯลฯ
เล่มนี้เหมาะสำหรับ: คนที่ต้องการเปิดร้านอาหารที่มีคอนเสปต์แหวกแนว / นักอ่านที่ชอบนิยายสืบสวนสอบสวนและชอบทานอาหารหรือเบเกอรี่ด้วย
วันที่เหมาะกับซุป ขนมปัง และแมว
เขียนโดย มูเระ โยโกะ / แปลโดย สิริพร คดชาคร
นี่คือผลงานเล่มแรกของ มูเระ โยโกะ ที่แปลเป็นไทยโดย สิริพร คดชาคร และจัดพิมพ์โดย Sandwich Publishing โดยได้ Jiranarong มาวาดภาพปกได้น่ารักมากๆ (จนทำให้เล่มต่อมาคือ ห้องอาหารนกนางนวล ใช้สูตรนี้ต่อมาได้อย่างลงตัว)
วันที่เหมาะกับซุป ขนมปัง และแมว (パンとスープとネコ日和) เล่าเรื่องของ อากิโกะ ที่ลาออกจากงานสำนักพิมพ์ แล้วมาเปิดร้านใหม่แทนร้านอาหารเดิมของแม่ที่เพิ่งเสียชีวิต เรียกว่าเปิดร้านใหม่ในแบบของตัวเอง ที่บ้านเดิมของตัวเอง แทนร้านแบบเก่าของแม่ซึ่งเธอไม่ค่อย 'อิน' นักนั่นเอง
นิยายเรื่องเล่าเจาะลึกชีวิตของตัวละครหลักตัวเดียว ทำให้เราได้รู้จักกับ อากิโกะ ตั้งแต่วัยเยาว์ วัยรุ่น จนถึงวัยห้าสิบต้นๆ ที่เธอตัดสินใจเปลี่ยนชีวิตมาทำร้านอาหารของตัวเอง (และเลี้ยงแมวหลงชื่อ ทาโระจัง ไว้ด้วยหนึ่งตัว) ทำให้นำ้หนักของเรื่องราวถูกเน้นไปที่เรื่องราวชีวิตของเธออยู่ไม่น้อย แต่ในส่วนการเปิดร้าน การจัดการร้านอาหาร ก็ถือว่าเป็นอีกส่วนที่นิยายให้ความสำคัญมากๆ
เราจะพบว่าปัญหาของการเปิดร้านใหม่ในทำเลเดิมก็คือการต้องรับมือกับความคาดหวังของลูกค้าเก่าๆ ไปด้วย แถมการจัดการร้านด้วยตัวคนเดียวก็ไม่ง่ายนัก จนอากิโกะตัดสินใจรับผู้ช่วย เป็นสาวนักกีฬาชื่อ ชิมะจัง ที่กลายมาเป็นส่วนผสมสำคัญของร้านอาหาร ...และของเรื่องราวในนิยายเรื่องนี้ด้วย
วันที่เหมาะกับซุป ขนมปัง และแมว ยังมีเกร็ดเรื่องการทำอาหาร และการบริหารจัดการร้านอยู่ไม่น้อย ตั้งแต่เรื่องการตั้งป้ายเพื่อสื่อสารกับลูกค้า การหยุดงาน ลูกค้าแบบต่างๆ ไปจนถึงระบบการทำงานในร้าน
ประเด็นสำคัญที่ทำให้เราติดตามเรื่องราวไปได้เรื่อยๆ คือเรื่องปมในใจของ อากิโกะ ที่เป็นลูกของ 'บ้านเล็ก' ผู้ไม่เคยพบกับพ่อตัวเองเลย ประเด็นนี้พาผู้อ่านเข้าไปแอบมองชีวิตและความคิดของ อากิโกะ ด้วยความเห็นอกเห็นใจ และคอยเชียร์ให้เธอพบกับความสุขสงบกับ 'ชีวิตใหม่' อย่างแท้จริง
อาหารในเล่ม: ซุปผัก, สลัดมันต้มและเห็ด, แซนด์วิช, เทมปุระ
เล่มนี้เหมาะสำหรับ: คนที่อยากเปิดร้านอาหารเล็กๆ ทำอาหารง่ายๆ และใช้ชีวิตสบายๆ และส่งมอบความสุขอันเรียบง่ายให้กับลูกค้า / นักอ่านที่กำลังมองหาจุดเปลี่ยนในชีวิต
ห้องอาหารนกนางนวล
เขียนโดย มูเระ โยโกะ / แปลโดย สิริพร คดชาคร
จะเป็นอย่างไรถ้าเราได้ไปเปิดร้านอาหารในต่างประเทศ?
งานแนวนี้เล่มต่อมาของ Sandwich Publishing คือการนำนิยายสร้างชื่อของ มูเระ โยโกะ ที่เคยถูกนำไปสร้างภาพยนตร์เมื่อปี 2549 เรื่อง ห้องอาหารนกนางนวล (かもめ食堂) มาให้คนไทยได้อ่านบ้าง
นิยายเล่าเรื่องของ ซาจิเอะ สาวญี่ปุ่นวัย 38 ที่ถูกล็อตเตอรี่ จึงตัดสินใจทำตามความฝันของตัวเองด้วยการไปเปิดร้านอาหารชื่อ ห้องอาหารนกนางนวล ที่ประเทศในฝันของใครหลายคนอย่างฟินแลนด์ ทำให้เธอได้เจอกับเพื่อนใหม่วัยใกล้เคียงกันชื่อ มิโดริ อดีตพนักงานออฟฟิศที่ตัดสินใจเปลี่ยนชีวิต และเดินทางมาฟินแลนด์เพื่อพิสูจน์อะไรบางอย่าง
ในช่วงแรกๆ นิยายเรื่องนี้จะถ่ายทอดเรื่องราวในอดีตของตัวละครหลักได้อย่างกระชับแต่เห็นภาพชัดเจน แล้วค่อยๆ เล่าถึงอุปสรรคของการเปิดร้านในต่างแดนที่ไม่ง่ายอย่างที่คิด แต่ก็ยังมีลูกค้าน่ารักๆ อย่างตัวละครหนุ่มน้อยชาวฟินเแลนด์ชื่อ ตอมมิคุง ผู้หลงใหลวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่มาสร้างรอยยิ้มให้กับผู้อ่านได้
รวมทั้งตัวละครสำคัญอีกตัวอย่าง มาซาโกะ ที่เป็นคุณป้าผู้ผิดหวังจากเรื่องครอบครัวแล้วหลบมาพักใจที่ฟินแลนด์เช่นกัน ตัวละครที่มีชีวิตชีวาเหล่านี้กลายเป็นสีสันที่ทำให้เราติดตามชีวิตของกลุ่มคนเหล่านี้ไปได้อย่างรื่นรมย์
สำหรับคนที่สนใจเรื่องการเปิดร้านอาหาร นอกจากอุปสรรคทั่วไปอย่างเรื่องภาษา วัฒนธรรมแล้ว นิยายเรื่องนี้ยังมีส่วนที่พูดถึงการปรับสูตรอาหารญี่ปุ่น (ที่ ซาจิเอะ อยากให้ชาวฟินแลนด์ได้ลองสัมผัส) ให้เข้ากับรสนิยมของคนต่างชาติด้วย
โดยรวมแล้ว นิยายเรื่องนี้จะเกี่ยวกับการพึ่งพาอาศัยกันของผู้คนที่ต่างก็มีบาดแผลในชีวิต มากบ้าง น้อยบ้าง แต่เรื่องราวที่ตัวละครแบ่งปันกัน และให้กำลังใจกันก็สามารถซึมเข้าไปในจิตใจของผู้อ่านได้ จนความรู้สึกอ่อนโยนเหล่านั้นก็สามารถปลอบประโลมเราได้เช่นกัน
ชีวิตทุกคนมีจุดหมายปลายทางไม่เหมือนกัน บางคนย้ายไปต่างถิ่นเพื่อเปลี่ยนชีวิต บางคนเพื่อหลบไปพัก และบางคนก็เพียงเพื่อให้มีเวลาได้หยุดคิด จะได้มีแรงกลับมาสู้ต่อไป ...ห้องอาหารนกนางนวล บอกเราอย่างนั้น
อาหารในเล่ม: ข้าวปั้นกุ้งเครย์ฟิช, ข้าวปั้นเนื้อกวาง, ข้าวปั้นปลาแห้งฝอย ฯลฯ
เล่มนี้เหมาะสำหรับ: คนที่อยากเปิดร้านอาหารในสถานที่หรือประเทศที่ไม่คุ้นเคย หรือคนที่อยากเปลี่ยนชีวิตด้วยการเปิดกิจการของตัวเอง / นักอ่านที่กำลังต้องการพลังใจ
ทาร์ตตาแต็งแห่งความฝัน
เขียนโดย ฟูมิเอะ คนโด / แปลโดย กนกวรรณ เกตุชัยมาศ
นิยายอีกเล่มของ ฟูมิเอะ คนโด ที่นำมาให้คนไทยได้อ่านกันโดย Sunday Afternoon ซึ่งใน ทาร์ตตาแต็งแห่งความฝัน (タルト・タタンの夢) ยังคงคอนเสปต์คล้ายกับเรื่อง คาเฟ่ลูส เมนูที่รักจากการเดินทาง อยู่ด้วยแนวทางที่เรียกว่า Cozy Mystery
แต่ความแตกต่างคือคราวนี้ ฟูมิเอะ คนโด เล่าถึงร้านอาหารฝรั่งเศสเล็กๆ ในย่านร้านค้าในเขตชุมชนเก่าของญี่ปุ่นชื่อ บิสโทรปามาล ที่มีตัวละครหลักในร้าน 4 คนที่มีแคแรกเตอร์น่าสนใจ คือเชฟมิฟูเนะ ชินโนบุ ที่หน้าตาบุคลิกคล้ายซามูไร และมีประสบการณ์จากฝรั่งเศสเต็มเปี่ยม
คุณชิมุระ โยจิ พ่อครัวที่เป็นคนประสานทุกฝ่ายเข้าด้วยกัน, คาเนโกะ ยูกิ หญิงสาวที่เป็น ซอมเมอลีเย หรือผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ประจำร้านผู้หลงรักการแต่งบทกวีไฮกุ และ ทาคัตสึกิ โทโมยูกิ พนักงานเสิร์ฟหนุ่มน้อยที่ทำหน้าที่เป็นผู้เล่าเรื่องด้วย
การเซตชุดตัวละครที่มีเสน่ห์และมีฟังก์ชั่นของตัวเอง ทำให้การเล่าเรื่องแต่ละตอน-ซึ่งเป็นการเล่าเรื่องแบบจบในตอนด้วย ดูจะคล้ายกับการได้ชมซีรีส์ทำอาหารยอดฮิตใน Netflix แบบ Izakaya Bottakuri หรือ Mifnight Diner อยู่เหมือนกัน
คือแต่ละตอนเราจะได้พบกับปัญหาหรือปริศนาที่มาจากลูกค้าอันหลากหลาย ที่เข้ามาให้เชฟมิฟูเนะได้แก้ไขด้วยอาหารฝรั่งเศส! และด้วยความที่มีตัวละครหลักถึง 4 ตัว ทำให้เฉลี่ยความน่าสนใจไปยังเรื่องราวของตัวละครแต่ละตัวได้
นอกจากการไขปริศนาในแต่ละตอน และตัวละครที่เรารู้สึกใกล้ชิดได้ไม่ยากแล้ว จุดเด่นของ ทาร์ตตาแต็งแห่งความฝัน ที่เด่นมากๆ คือเรื่องอาหารฝรั่งเศสนานาชนิด ที่ในแต่ละตอนก็แนะนำหลายเมนูแล้ว หากอ่านจบแล้วเราจึงได้รู้จักกับวัฒนธรรมการกินของฝรั่งเศสเยอะขึ้นมากๆ (รวมทั้งการที่บางเมนูถูกเอามาดัดแปลงให้เหมาะสมกับความชอบของคนญี่ปุ่นด้วย)
ที่ปกหลังหนังสือบอกว่า ทาร์ตตาแต็งแห่งความฝัน เป็นเล่มแรกของ นิยายชุด Bistro Pas Mal ซึ่งแสดงว่าเมื่ออ่านจบแล้ว เราน่าจะได้อ่านภาคต่อ และยังจะได้ทำความสนิทสนมกับตัวละครที่น่าสนใจทั้ง 4 คนนี้ต่อไป ...ซึ่งหลังจากอ่านจบเล่มแล้ว เราคิดว่าพวกเขาเป็นคนที่น่าคบเลยล่ะ
อาหารในเล่ม: ทาร์ตตาแต็ง, สลัดรีเดอโว, ชูครูต, กาซูเล, โรญงเดอโว, กาเล็ตเดรัว, อ๊อซโซ-อีราตี และอาหารฝรั่งเศสอื่นๆ อีกเพียบ
เล่มนี้เหมาะสำหรับ: แน่นอนว่าเหมาะสำหรับคนที่อยากเปิดร้านอาหารฝรั่งเศส แต่เล่มนี้ก็ยังมีแง่มุมเรื่องการจัดการร้านอาหารให้คนที่อยากเปิดร้านอาหารเล็กๆ แนวอื่นๆ ได้ศึกษาอยู่ด้วย / นักอ่านที่ชอบเรื่องแนวสืบสวนแบบเบาๆ และสนใจเรื่องอาหารแบบจริงจัง
สำหรับใครที่สนใจอ่านบทความฉบับเว็บไซต์ได้ที่นี่
อ่านเพิ่มเติม
happeningandfriends.com
นิยายญี่ปุ่น 4 เล่ม สำหรับคนที่ฝันอยากเป็นเจ้าของร้านอาหาร
ถ้าคุณอยากเปิดร้านอาหารหรือคาเฟ่ของตัวเอง นอกจากการหาทำเลหรือฝึกทำอาหารแล้ว เราขอแนะนำให้คุณอ่านนิยายญี่ปุ่น 4 เล่มนี้ด้วย!
หนังสือญี่ปุ่น
หนังสือ
หนังสือน่าอ่าน
1 บันทึก
3
1
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย