Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เนิร์ดดูหนัง
•
ติดตาม
23 มิ.ย. 2022 เวลา 04:56 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
วันนี้ ภาพยนตร์เรื่อง "Elvis | เอลวิส" เข้าโรงแล้วนะครับ
ก่อนอื่นขอขอบคุณโรงภาพยนตร์ Major Cineplex ที่เปิดให้ชมรอบสื่อถึง 2 รอบ
คือที่พารากอน ซีนีเพล็กซ์ และเอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ รัชดาภิเษก
ซึ่งให้ความรู้สึกในการชมภาพยนตร์ที่ต่างกัน
ก่อนจะรีวิวหนังผมเลยอยากเล่าความรู้สึกตรงนี้นิดนึงนะครับ
เผื่อเป็นประโยชน์ในการเลือกโรงภาพยนตร์ครับ
ที่พารากอนโรงภาพยนตร์ระบบมาตรฐาน เสียงกระหึ่มมาก
เลยรู้สึกว่าหนังอลังการมากทั้งภาพและเสียง
ส่วนที่เอสพลานาดจอเล็กกว่า และเสียงนุ่มไม่อลังการเท่า
แต่กลายเป็นว่า นี่แหละครับมิติของเสียงที่ต้องการ
ฉากที่มีคนถ่ายรูปเหมือนมีเสียงชัตเตอร์ดังมาจากคนดู
ฉากคอนเสิร์ตก็แยกเสียงบทเวทีและผู้ชมได้ชัดเจนตามขนาดของคอนเสิร์ต
จากที่ดูรอบแรกผมให้เรื่องนี้ 8.5/10 เพิ่มเป็น 10/10 เลยครับ
และนี่คือรีวิวว่าทำไมคุณควรดูหนังเรื่อง Elvis
และถ้าคุณดูแล้วยังไม่เต็มอิ่ม คุณควรลองดูซ้ำครับ
Elvis (2022) 10/10
Elvis เป็นผลงานการกำกับของ Baz Luhrmann
ผู้เคยเข้าชิงรางวัลออสการ์จาก Moulin Rouge!
ซึ่งถ้าคุณคาดหวังความสวยงาม อลังการ เรื่องนี้มีให้เห็นแน่นอน
แต่ถ้าคุณหวังว่าจะฟังเพลงเป็นมิวสิคัล
คุณอาจจะแค่รู้สึกโอเคในรอบแรก และรักมากในรอบสองเหมือนผมก็ได้ครับ
Elvis นำแสดงโดย Austin Butler และ Tom Hanks
เหตุที่ทุกการโปรโมตหนังเรื่องนี้ต้องพูดถึงทอม แฮงค์ส
ไม่ใช่เพราะเขาดังกว่าออสติน บัตเลอร์ ที่รับบทเอลวิส เพรสลีย์ นะครับ
แต่เพราะบทของเขาคือผู้พัน ทอม ปาร์คเกอร์ ซึ่งเป็นผู้ดำเนินเรื่องหลักเลยล่ะ
รอบแรกผมรู้สึกว่าการเล่าเรื่องค่อนข้างแฟนตาซีไปหน่อย
ลำดับเวลาไม่ได้เป็นเส้นตรง มีหลายครั้งที่ใช้สัญลักษณ์แทนการเล่าที่สมจริง
ส่วนการใส่ฟุตเทจของจริงก็ดูสะดุด ๆ
แต่พอรอบสองที่ผมรู้เรื่องทั้งหมดแล้วกลับพบว่า
เฮ้ย! การเล่าเรื่องมันต่อเนื่องกันดีมาก เหตุการณ์หนึ่งนำไปสู่อีกเหตุการณ์หนึ่ง
การลำดับเรื่องก็มีการบอกใบ้เหตุการณ์ในอนาคต
ด้วยสัญลักษณ์หรือข้อความที่น่าจดจำ
มีการแทรกเหตุการณ์ในอดีตหรือในอนาคตเพื่ออธิบายเหตุการณ์ปัจจุบัน
โคตรแยบยล โคตรเท่ ความสนุกนี้เหมือนการอ่านนิยายดี ๆ สักเรื่อง
นิยายที่ทำให้เราอยากเปิดกลับไปดูบทก่อน ๆ ว่าผู้เขียนใบ้อะไรไว้ครับ
เหตุการณ์ในเรื่องนอกจากจะเป็นเรื่องราวชีวิตของเอลวิส เพรสลีย์
ยังมีเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์มากมาย
ทั้งข่าวการเมืองและข่าวในวงการบันเทิง (ผมใช้คำว่าข่าวบันเทิงไม่ได้จริง ๆ ครับ)
ซึ่งรอบแรกผมแอบรู้สึกขาด ๆ เกิน ๆ นะ บางเรื่องก็มานิดเดียว บางเรื่องก็นาน
แต่ถ้าคิดว่านี่คือการเล่าเหตุการณ์เหล่านั้นผ่านชีวิตของคนคนนึง
มันสมบูรณ์แล้วล่ะ และรอบสองที่เห็นความเชื่อมโยงแล้วด้วยมันคือดีมากเลย
ในคำว่าประวัติศาสตร์ ผมหมายถึงประวัติศาสตร์ทางดนตรีด้วย
นักร้องเพลงบลูส์ในตำนานหลายท่านได้กลับมามีชีวิตอีกครั้งในหนังเรื่องนี้
คำว่า กลับมามีชีวิต อาจฟังดูเวอร์เกินไปสักหน่อย แต่ผมรู้สึกแบบนั้นจริง ๆ
เพราะไม่ใช่แค่มีคนเอาเพลงของเขามาร้อง หรือรับบทเป็นเขา
แต่บทบาทและบทเพลงของตำนานเหล่านั้นมีชีวิตชีวามาก
บางบทแสดงโดยนักร้องที่ร้องเพลงนั้นเลย
บางบทก็แสดงโดยนักแสดงที่สมบทบาทและร้องเพลงโดยนักร้องอีกคน
การใช้นักแสดงกับเสียงร้องที่แยกกัน อาจทำให้ดูออกว่า Lip Sync แต่ไม่ใช่เรื่องนี้
โดยเฉพาะบทเอลวิสซึ่งใช้ทั้งเพลงที่ออสตินร้องเอง และเพลงที่เป็นเสียงเอลวิส
ซึ่งออสตินก็ทำได้ดีมาก เช่นเดียวกับเมคอัพและคอสตูม
แม้ว่าหลายคนจะมองว่าออสตินหน้าไม่เหมือนเอลวิสในฉากนั้นฉากนี้
แต่ต้องมีฉากที่คุณรู้สึกวาเหมือนจนน่าทึ่งอยู่ดี
และสุดท้ายเรื่องที่ผมชอบที่สุดจากหนังเรื่องนี้ ซึ่งรอบแรกผมรู้สึกว่าไม่อิ่มเลย
คือเรื่องประเด็นทางการเมืองในเวลานั้น
ผมเข้าโรงด้วยความคาดหวังว่าจะมีมุมมองของเอลวิสที่ชัด ๆ ซึ้ง ๆ
ตามแบบฉบับของหนังชีวประวัติหรือหนังซูเปอร์ฮีโร
แต่ความจริงคือหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องของเอลวิสผ่านมุมมองของคนอื่นที่ยังมีชีวิตอยู่
และมันก็ทำได้ดีแล้ว ส่วนที่ดียิ่งกว่านั้นคือมันสะท้อนเหตุการณ์ปัจจุบันด้วย
การสะท้อนเหตุการณ์ปัจจุบันก็ไม่ได้ยัดเยียดจนเกินไป
เหตุการณ์ปัจจุบันที่ว่านี้ก็ไม่ใช่แค่เรื่องคนขาวคนดำ
ผมว่ามันเป็นเรื่อง อนุรักษ์นิยม vs เสรีนิยม มากกว่า ขอบอกแค่นี้แล้วกัน
เพลงประกอบซึ่ง cover โดยศิลปินรุ่นใหม่(กว่าเอลวิส
เพราะหลายคนก็ไม่ใหม่แล้วนะ บางเวทีเขาก็ถูกเรียกตำนานกันแล้วนะ)
ก็แฝงประเด็นทางสังคม หรือที่จริงเป็นการขยายประเด็นที่มีอยู่ตั้งแต่ต้นฉบับ
เช่น สิทธิสตรี ลิขสิทธิ์ของศิลปิน ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ เพศ และเชื้อชาติ
ผมสามารถเขียนเรื่องนี้ได้อีกบทความเลยครับถ้ามีคนสนใจ
ยังไงก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ
ทั้งที่มีโอกาสได้ดูหนังรอบสื่อเป็นประจำ แต่ผมยังไม่รู้จะเขียนที่ไหนอย่างไร
มีรีวิวที่เขียนลง facebook ช่วงหนึ่งแต่ไม่มีคนอ่าน เลยหยุดไป
จากนี้คงเขียนแค่ที่นี่ก่อนซักพักครับ
โปสเตอร์ภาษาไทย รูปเอลวิสในชุด jumpsuit ที่เป็น signature ของเขา สำหรับผม ชุดนี้เป็นชุดที่เขาใช้ในการแสดงที่เป็นบทนำของบทจบ (prologue of epilogue) ครับ
โปสเตอร์ภาษาอังกฤษ รูป Elvis ในชุดหนังที่ไม่ใช่ signature แต่ผมกลับรู้สึกคุ้นมากกว่า สำหรับผมชุดนี้เหมือนเป็นบทจบของบทนำ (epilogue of prologue) ครับ
elvis
ดนตรี
เพลงสากล
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย