Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
สำนักพิมพ์บิงโก Bingo
•
ติดตาม
25 มิ.ย. 2022 เวลา 03:30 • หนังสือ
ดูงานศิลปะที่ Art Gallery หรือนิทรรศการภาพถ่ายช่วยพัฒนาทักษะด้านต่างๆ ที่จำเป็นกับชีวิตของเรามากกว่าที่คิด ไปดูกันเลย! 5 เหตุผลที่ “ทำไมเราควรเสพงานศิลป์” กันมากขึ้น
1. การเสพศิลป์หรือการดูงานศิลปะจะช่วยพัฒนาทักษะการดูได้
เป็นที่รู้กันดีว่าปัจจุบัน AI กำลังเข้ามาแย่งชิงงานจากมนุษย์ในหลายสาขา โดยเฉพาะสาขาการแพย์ และมีคนจำนวนไม่น้อยเลยที่บอกว่าอีกหน่อย AI จะเข้ามารักษาโรคแทนแพทย์ได้แน่ๆ
แต่ทว่างานของแพทย์ไม่ใช่การวินิจฉัยโรคเพียงอย่างเดียว แต่แพทย์ยังต้องช่วยเปลี่ยนลักษณะการใช้ชีวิตของคนไข้เพื่อไม่ให้เกิดโรคซ้ำด้วย สิ่งสำคัญในจุดนี้ก็คือ “สายตาที่คอยจับสังเกต”
พูดง่ายๆ คือ ถึงแม้ AI จะมีพลังคิดคำนวณที่ไม่จำกัด แต่การสังเกตจากนัยแฝงเล็กๆ น้อยๆ ก็ยังมีแต่แพทย์ที่เป็นมนุษย์ที่จะทำได้ นี่จึงเป็นเหตุผลที่เราต้องพัฒนาทักษะด้านการดูและการสังเกตนั่นเอง
โดย “ทักษะการดู” ของเราจะพัฒนาขึ้นได้ด้วยกลยุทธ์ “คิดเป็นภาพ” ด้วย 3 วิธี ดังนี้
❶ ภาพนี้เป็นภาพอะไร
❷ เกิดอะไรขึ้นในภาพ แล้วต่อจากนี้จะเกิดอะไร
❸ รู้สึกอย่างไรในใจ
2. เมื่อทักษะการดูของเราพัฒนาแล้ว เราจึงมองเห็นโลกอย่างไร้อคติ
ข้อเสียของคนส่วนใหญ่คือการถูกครอบงำด้วยมุมมองแบบมีอคติ แต่เมื่อเราฝึกษะการคิดเป็นภาพแล้ว จะช่วยให้เราหลุดออกจากมุมมองแบบมีอคติและเปิดใจมากกว่าเดิม
ดังนั้น เมื่อเรามีประสบการณ์และความรู้มากขึ้นแล้ว เราก็จะไม่สร้างคำตอบใหม่ทุกครั้งไป แต่จะนำผลลัพธ์ที่ได้จากในอดีตมาใช้แทน
3. เมื่อมีอารมณ์ “ศิลป์” ในตัวเอง ด้าน “ศาสตร์” ก็จะพัฒนาขึ้นด้วย
ทีมวิจัยของมหาวิทยาลัยมิชิแกนสเตทได้ทำการสำรวจว่า ผู้ได้รับรางวัลโนเบลทางด้านวิทยาศาสตร์ มีงานอดิเรกด้านศิลปะ วาดรูป เล่นดนตรีในสัดส่วนที่สูงกว่าคนทั่วไป 2.8 เท่า
นี่จึงเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าบุคคลระดับโลกหลายๆ คน แม้พวกเขาจะกำเนิดผลงานระดับแนวหน้าทางด้านวิชาการ แต่ก็ต่างมีความรู้และมีรสนิยมในด้านศิลปะในระดับสูงด้วย ดังนั้น หากพัฒนาทักษะด้านศิลป์จนมีความรู้ทางศิลปะจะมีสติปัญญาสูงขึ้นในสาขาอื่นๆ ด้วย
4. “ศิลป์” จะช่วยให้พัฒนาเราให้พร้อมสำหรับการเป็นคนเก่งในโลกการทำงานยุคใหม่
คนเก่งระดับโลกกำลังฝึกฝนทักษะทางด้าน “ศิลป์” กันอย่างเอาเป็นเอาตาย เพื่อ “สร้างความแตกต่าง” ให้ตัวเองในโลกใบนี้
“บริษัทที่ประสบความสำเร็จระดับโลกล้วนใช้ศิลป์ในการดำเนินธุรกิจ”
เหมือนที่สตีฟ จ็อบส์ทำกับแอปเปิล เขาจะคอยเก็บรายละเอียดทุกเม็ด ตั้งแต่การออกแบบผลิตภัณฑ์ ข้อความ และสำนวนคำพูดในโฆษณา ไปจนถึงหน้างาน ”โปสเตอร์ที่พิมพ์ออกมานั้นเหมาะสมหรือยัง” เรียกได้ว่า เป็นทั้งผู้นำและครีเอทีฟ
หรือแบบที่สอง การที่ผู้บริหารสูงสุดมีคนสายศิลป์เป็นตัวหลักอยู่ข้างกาย และคอยให้คำปรึกษาโดยตรง อย่างชาแนล แบรนด์สินค้าหรูหราจากฝรั่งเศสนั่นเอง
5. ชีวิตมีความสุขและสมบูรณ์ขึ้นเมื่อมีอารมณ์ศิลป์ร่วมด้วย
“ถ้าอยากมีชีวิตที่สมบูรณ์และมีความสุข เราก็ต้องมีอารมร์ศิลป์ร่วมด้วย” เพื่อให้เราสามารถประเมินตัวเองในแง่มุมต่างๆ ไม่ใช่แค่การปั่นฟันเฟืองในระบบการทำงานไปแต่ละวัน หรือเพื่อแค่ให้ได้รับการประเมินและการยอมรับที่ดีเท่านั้น
เพราะ “ศิลป์” จะไม่ทำให้ตัวตนของเราไหลไปตามระบบทุกอย่าง แต่ได้คิดและทำตามสิ่งที่เชื่อตามสัญชาตญาณด้วย
หนังสือ 'เก่งด้วยศาสตร์ ชนะขาดด้วยศิลป์'
ยามางูจิ ชู เขียน
ฉัตรขวัญ อดิศัย แปล
ราคาปก 230 บาท
การันตีความน่าอ่าน:
✭ หนังสือรางวัล HR AWARD 2018 จากประเทศญี่ปุ่น
✭ คะแนนรีวิว 4.4/5 ในเว็บไซต์
www.amazon.co.jp
📲 สอบถาม/สั่งซื้อ: Inbox
📚 วางขายที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ
Website:
https://bingobook.co/shop/
Shopee:
https://shp.ee/hwvknv9
(กดติดตามลด 5%)
LAZADA:
https://s.lazada.co.th/s.gX0Wz
(กดติดตามลด 5%)
#สำนักพิมพ์บิงโก | สำนักพิมพ์ที่นำความรู้เกี่ยวกับธุรกิจและพัฒนาตัวเองจากต่างประเทศส่งตรงถึงมือคุณ
#เก่งด้วยศาสตร์ชนะขาดด้วยศิลป์
1
พัฒนาตัวเอง
ธุรกิจ
ไลฟ์สไตล์
บันทึก
1
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย