Blockdit Logo (Mobile)
นิตยสารสาระวิทย์
•
24 มิ.ย. 2022 เวลา 15:50 • สิ่งแวดล้อม
5 ชนิดพันธุ์ต่างถิ่นรุกราน ตัวล้างผลาญระบบนิเวศไทย
โดย ชวลิต วิทยานนท์
การเอาสิ่งมีชีวิตที่เป็นชนิดพันธุ์ต่างถิ่นรุกราน (invasive alien species) เข้ามาแต่ละชนิด ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร แต่หลัก ๆ แล้วก็เพื่อสนองตัณหาหรือผลประโยชน์ทางการค้าแก่คนไม่กี่คน แล้วก็ถูกปล่อยทิ้งในธรรมชาติ จะด้วยความมักง่าย หรือคิดน้อยว่าไม่น่ามีอะไรเกิดขึ้น แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้น มันมากเกินกว่าที่คิดนัก
ชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่รุกรานที่ถูกปล่อยในธรรมชาตินั้น หลายชนิดแข็งแกร่ง มันอยู่รอดได้ แถมยังจัดการกับชนิดพันธุ์ท้องถิ่นของประเทศไทยจนเหี้ยน ตัวมันเองสามารถปักหลักและกระจายพันธุ์จนกลายเป็นชนิดพันธุ์เด่นในสิ่งแวดล้อม สร้างความเสียหายต่อระบบนิเวศ ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อทั้งสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคม
ปั้นน้ำเป็นปลาในฉบับนี้ จึงขอนำเสนอชนิดพันธุ์ต่างถิ่นรุกรานสุดแสบ 5 ชนิด ที่สร้างหายนะแก่สิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อมไทยมากที่สุดมาให้รู้จักกัน
ปลากดเกราะ, ซักเกอร์ Pterygoplichthys disjunctivus ถิ่นเดิมจากอเมริกาใต้ เอามาเลี้ยงเป็นตัวกำจัดตะไคร่น้ำในบ่อปลา แต่หลุดไปเป็นปลาเด่นในแหล่งน้ำจืดหลายแห่งและทนต่อน้ำเน่าได้
หมอคางดำ (blackchin tilapia) Sarotherodon melanotheron ถิ่นเดิมจากแอฟริกาตะวันตก สัตว์นรกที่ผู้ผูกขาดทางอาหารรายหนึ่งเอาเข้ามาทดลอง พอไม่ได้ผลก็ปล่อยทิ้ง เป็นปลาที่ทนต่อความเค็มในทุกระดับ เชื่อว่าไม่เกิน 10 ปี คงอ้อมแหลมมลายูไปถึงอินเดียแน่ ปัจจุบันกลายเป็นชนิดพันธุ์เด่นแห่งพื้นที่ชุ่มน้ำสามร้อยยอด ที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวประมงและผู้เลี้ยงกุ้งทั่วอ่าวไทยตอนบน
หอยเชอร์รี Pomacea canaliculata ถิ่นเดิมจากอเมริกาใต้ ถูกนำมาเลี้ยงเป็นหอยประดับตู้ปลา และยังมีร้านซีฟูดชื่อดังแถวสามย่านทดลองนำมาแทนเมนูเป๋าฮื้อ แต่หลุดไปเป็นศัตรูในนาข้าวสร้างความเสียหายแก่ชาวนานับพันล้านบาททั่วประเทศ และกระทบต่อนิเวศน้ำจืดทั่วทุกภูมิภาค
1
ไมยราบยักษ์ Mimosa pigra ถิ่นเดิมจากอเมริกากลาง ไร่ชามีชื่อนำเข้ามาเป็นพืชคลุมดินและแนวรั้ว แต่กระจายไปทั่วภูมิภาค และกลายเป็นวัชพืชร้ายที่ไปแทนที่พรรณไม้ท้องถิ่นจนหมด รวมถึงไปลดจำนวนพืชอาหารของควายป่าฝูงสุดท้ายในห้วยขาแข้ง
กุ้งก้ามแดง Cherax quadricarinatus ถิ่นเดิมจากออสเตรเลีย กุ้งเลี้ยงสวยงามที่มีผู้ริเริ่มไปทดลองเลี้ยงเป็นเมนูเด็ด ปัจจุบันเริ่มพบหลุดไปในแหล่งน้ำหลายแห่ง เป็นอีกชนิดที่ต้องจับตามองก่อนสายเกินแก้
โฆษณา