29 มิ.ย. 2022 เวลา 10:16 • ธุรกิจ
ประธานบริษัทเห็นอะไรในตัวพนักงาน เวลาจัดทัวร์เที่ยวทั้งบริษัท?
  • ทำไมประธานบริษัทให้อภัยคนที่มา ”ทำงาน” สายได้ แต่ให้อภัยคนที่มา “เที่ยว” สายไม่ได้?
  • ทำไมประธานบริษัทไม่ชอบคนถอดที่ใจง่ายๆระหว่างเล่นกีฬา
หนังสือ 34 วิธีพักผ่อนของคน Productive โดย อิเกโมโตะ คัตสึยุกิ
นี่เป็นเรื่องราวสมมุติที่ผมแต่งขึ้นมาโดยอิงใจความจากหนังสือ “34 วิธีพักผ่อนของคน Productive” เขียนโดยอิเกโมโตะ คัตสึยุกิ
เรื่องราวนี้เริ่มด้วย 2 ตัวละคร:
  • 1.
    ประธานบริษัทนามว่า [ ฉะโช ] ได้จับทริปพักร้อนบริษัทให้กับพนักงานทุกตำแหน่ง โดยจัดทริปไปเที่ยวทะเล จองรีสอร์ทหรูหรา
  • 2.
    และ [ สมิธ ] พนักงานธรรมดาๆ
[ คนมาสาย ]
วันนี้เป็นวันที่ฉะโชนัดรวมตัวที่หน้าบริษัทตอน 7 โมงเช้า เพื่อที่จะพาทุกคนขึ้นรสทัวร์ที่จองไว้แล้วไปกัน แน่นอน ด้วยความที่เป็นประธาน ฉะโชคือคนแรกที่มาถึงที่นี่ก่อนเวลานัดประมาณเกือบชั่วโมง ทุกคนในแต่ละสาขาก็มากันเยอะละ
ตอนนี้เป็นเวลา 7.06 น. พวกคนมาสายก็เริ่มปรากฎตัว รวมถึงสมิธเองด้วย
“6 นาทีเอง ไม่เป็นไรหรอกมั้ง” สมิธคิดพลางย่องๆเข้าไปกลมกลืนกับคนที่มาถึงก่อนอยู่แล้วอย่างเนียนๆ
ท่านประธานฉะโชรู้ดีว่ามีคนมาสาย มาไม่ตรงเวลา และไม่มีประธานบริษัทคนไหนชอบอะไรแบบนี้อยู่แล้ว มันคือการไม่เคารพหน้าที่ที่มอบหมายให้ มันคือการเอาเปรียบคนอื่น
[ นี่ขนาดนัดมาเที่ยวยังมาสาย แล้วเรื่องจริงๆจังๆอย่างนัดมาทำงานมันจะขนาดไหนเนี่ย ] เป็นคำพูดที่ฉะโชกล่าวในใจ แต่ไม่อยากพูดออกมาทำลายบรรยากาศ
ให้อภัยคนที่มา ”ทำงาน” สายได้ แต่ให้อภัยคนที่มา “เที่ยว” สายไม่ได้
อิเกโมโตะ คัตสึยุกิ
[ คนใจไม่สู้ ]
มาถึงเมืองทะเลนี้แล้ว นอกจากหาดที่สวยงาม รีสอร์ทนี้ยังเต็มไปด้วย Facility ที่ดีมากมายทั้งสนามเทนนิส, ฟุตซอล, บาสเกตบอล สระว่ายน้ำ ห้องให้เล่นปิงปอง สนุกเกอร์ ห้องคาราโอเกะและอื่นๆอีกมากมาย เรียกได้ว่ามาพักร้อนแค่สัปดาห์เดียวนี่จะทำทุกอย่างให้หมดก็ยากแล้ว
“เอ้า ใครจะไปตีปิงปองกันบ้าง” ฉะโชชวนพนักงานบนโต๊ะกินข้าว
สมิธที่เห็นว่าเป็นโอกาสดีที่จะกระชับมิตรกับระดับท่านประธานบริษัท จึงตอบรับคำชวนรวมถึงคนอื่นๆที่จะไปที่ห้องตีปิงปองกัน
หลังจากแข่งกันระหว่าง ฉะโช กับสมิธ สมิธชนะใสๆ “อายุปูนนี้ผมคงสู้ไม่ไหวแล้วสิเนี่ย ฮะๆ” ฉะโชพูดพลางหัวเราะ จากนั้นเชิญ เจมส์ คนที่หนุ่มกว่าที่เป็นเพื่อนร่วมงานสมิธมาแข่งกับสมิธต่อ แล้วฉะโชก็นั่งชมการแข่งขันนี้ต่อไป
ผิดคาด สมิธที่เก่งแต่กับฉะโช โดนเจมส์บี้เละเลย สกอร์ดูขาดเกินไป แต่เกมยังไม่จบ ฉะโชกำลังลุ้นว่าสมิธจะ Come-back ได้หรือไม่
ยิ่งสกอร์ห่างไปเรื่อยสีหน้าสมิธเริ่มดูออกง่ายมากขึ้น ว่าไม่มีกะจิตกะใจจะเล่นแล้ว จนกระทั่ง “โห่ เจมส์ ยอมๆ เก่งขนาดนี้ไปแข่งทีมชาติเห๊อะ” สมิธวางไม้ตีปิงปองลง เขายอมแพ้
“อ่าว” ฉะโชพึมพำ
แม้บรรยากาศจะเป็นปกติ พนักงานสลับกันตีปิงปองแข่งกันสนุกสนาน แต่ฉะโชมีความไม่พอใจเล็กๆ เกิดขึ้น [ นี่เวลาทำงานคิดแบบนี้ด้วยหรือเปล่า หากงานไม่ราบรื่น เจอปัญหาอะไรก็จะถอดใจง่ายๆเหมือนกันใช่มั้ย ] ฉะโชรู้สึกคันปากอยากถามพนักงานคนนี้มาก แต่ก็เลือกที่จะไม่พูดอะไร
ตามประสบการณ์ของฉะโช ถ้าแม้แต่เรื่องสนุกอย่างกีฬายังถอดใจง่ายๆแบบนี้ แล้วเขาจะรับมือกับงานซึ่งไม่ใช่เรื่องสนุกได้ยังไงกัน ถ้าทำอะไรได้ไม่ดีจะถอดใจทันที พอผิดพลาดก็ยอมแพ้ไปเลย ฉะโชไม่คิดว่าคนแบบนี้ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ
[ จริงอยู่ที่ด้วยสกอร์แบบนั้นมันก็ยากอยู่ที่ชนะ ถึงแม้คุณจะชนะไม่ได้ แต่ผมก็อยากเห็นคุณใจสู้มากกว่านี้น่ะ สมิธ ] สมิธทำให้ฉะโชคิดแบบนั้น โอกาสสร้างความประทับใจของเขาต่อประธานบริษัทคงจบสิ้นแล้ว
นั่นคือ 2 ไอเดียที่ผมหยิบยกมาจากหนังสือ “34 วิธีพักผ่อนของคน Productive” ครับ
ใจความหลักของหนังสือเล่มนี้คือใช้วันพักผ่อนให้คุ้มค่า และทำมันให้จริงจังยิ่งกว่าวันทำงานครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา