ที่พำนักสุดท้ายของสุนทรภู่ในสมัยรัชกาลที่ ๔
.
เมื่อพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวได้อุปถัมภ์กวีเอกสุนทรภู่ โปรดเกล้าฯ ให้อยู่ใกล้ชิดเพื่อสะดวกในการเรียกใช้ โดยอาศัยอยู่ในกลุ่มบ้านเรือนไทยซึ่งเป็นบ้านของพระยามณเฑียรบาล (บัว) และเสียชีวิต ณ ที่แห่งนี้ในวัย ๗๐ ปีโดยอาศัยคำบอกเล่าจากหนังสือสามกรุงโดยพระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ เล่าถึงบ้านเรือนไทยของคุณตาความว่า
.
“ สุนทรภู่เปรื่องในรัชกาลที่ ๒ ในรัชกาลที่ ๓ เกรงพระราชอาญาหนีเข้าวัดบวช
เป็นภิกษุอยู่คราวหนึ่ง เมื่อสึกแล้วไปอยู่กับเจ้าฟ้าน้อยซึ่งเวลานั้นประทับอยู่ที่พระราชวัง
เดิม ที่หอนั่งเล่นใหญ่ของทวด ข้าพเจ้าผู้เป็นพระพี่เลี้ยงเจ้าฟ้าน้อยมาแต่ยังทรงพระเยาว์
มีฝาเฟี้ยมจีนกั้นที่เฉลียงด้านกว้างเป็นห้องๆ หนึ่งซึ่งญาติของข้าพเจ้าที่บ้านนั้นบอกว่า
เป็นห้องสุนทรภู่ และนายพัด บุตรสุนทรภู่อยู่ต่อมา”
.
“ สุนทรภู่เปรื่องในรัชกาลที่ ๒ ในรัชกาลที่ ๓ เกรงพระราชอาญาหนีเข้าวัดบวช
เป็นภิกษุอยู่คราวหนึ่ง เมื่อสึกแล้วไปอยู่กับเจ้าฟ้าน้อยซึ่งเวลานั้นประทับอยู่ที่พระราชวัง
เดิม ที่หอนั่งเล่นใหญ่ของทวด ข้าพเจ้าผู้เป็นพระพี่เลี้ยงเจ้าฟ้าน้อยมาแต่ยังทรงพระเยาว์
มีฝาเฟี้ยมจีนกั้นที่เฉลียงด้านกว้างเป็นห้องๆ หนึ่งซึ่งญาติของข้าพเจ้าที่บ้านนั้นบอกว่า
.
ปัจจุบันกลุ่มเรือนไทยหมู่ใหญ่ ๑๒ หลังบนชานเดียวกันนี้ถูกรื้อออกไปนานแล้วเพื่อปรับปรุงเป็นโรงเรียนนายเรือในสมัยรัชกาลที่ ๕ หลังป้อมวิไชยประสิทธิ์ คลองบางกอกใหญ่
.
ที่มาภาพสะสมของคุณลิ้ม
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
