4 ก.ค. 2022 เวลา 13:00 • หนังสือ
#ถึงฉันจะโดดเดี่ยวแต่ก็ยังอยากอยู่คนเดียวอยู่ดี จาก Piccolo Publishing เป็นหนังสือที่มีการเล่าเรื่องเรียบง่าย เด็กอ่านได้ผู้ใหญ่อ่านดี ภาพประกอบน่ารัก อ่านได้เรื่อยๆและใช้เวลาไม่นาน มีการเปรียบเปรยสัตว์แต่ละตัวไปกับคนหลายๆแบบเหมือนกับนิทานอีสปด้วย อ่านแล้วเหมือนได้ย้อนวัยพร้อมกับฉุกคิดถึงชีวิตของตัวเองในปัจจุบัน
เม่นแคระตัวหนึ่งอาศัยอยู่ลำพังในบ้านกลางป่า แน่นอนว่าบ่อยครั้งเจ้าเม่นก็รู้สึกเหงา วันหนึ่งมันนึกอยากจะเชิญชวนเพื่อนสัตว์ตัวอื่นๆมาเยี่ยมบ้านบ้าง แต่ก็ยังคงลังเลเพราะรักการอยู่คนเดียวแบบนี้ อีกทั้งยังกลัวว่าหากมีใครมาเยี่ยมแล้วจะเกิดเรื่องร้ายๆบางอย่างหรือสัตว์เหล่านั้นอาจจะไม่พอใจมัน เม่นแคระรู้สึกสับสนและคิดไม่ตก จนเกิดเป็นเรื่องเล่าเรื่องนี้ขึ้นมา
ตลอดทั้งเรื่องเราจะได้เห็นเจ้าเม่นตัวนี้คิดฟุ้งซ่านไปเรื่อยเกี่ยวกับสัตว์ชนิดอื่นๆ ทุกครั้งที่มันตัดสินใจจะส่งจดหมายเชิญเพื่อนๆมาเยี่ยม มันกลับจินตนาการสถานการณ์เลวร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นจากเพื่อนหลากหลายรูปแบบ แล้วสุดท้ายมันก็หวาดกลัวและอยากอยู่ตัวเดียวเหมือนเดิม วนไปอย่างนี้ทั้งเรื่อง
แต่ยิ่งใกล้ตอนจบเท่าไหร่ เราก็จะได้เห็นว่าเจ้าเม่นได้เรียนรู้ที่จะยอมรับตัวเองมากขึ้น มันภูมิใจในหนามแหลมๆที่ตอนแรกกังวลว่าใครๆจะไม่ชอบ มันไม่รู้สึกว่าต้องพยายามทำอะไรที่ฝืนตัวเองเพื่อเอาใจใคร เม่นแคระเริ่มตระหนักได้ว่าการอยู่คนเดียวก็ไม่ได้แย่ การไม่ได้มีความสัมพันธ์กับใครเป็นพิเศษก็เป็นเรื่องปกติ คนเรานั้นสามารถรักการอยู่คนเดียวและกลัวการอยู่คนเดียวไปได้พร้อมๆกัน
จากนั้นสุดท้ายแล้วเม่นแคระตัวน้อยก็ได้รู้ว่าการที่มีใครอยากแวะมาหาอย่างจริงใจต่างหากที่วิเศษกว่าการมีเพื่อนฝูงมากมายมาหาเพราะคำเชิญชวน การมีคนมาเยี่ยมหรือไปเยือนคนอื่นบ่อยๆมันไม่ได้สำคัญขนาดนั้น สิ่งสำคัญอยู่ที่ความรู้สึกและกิจกรรมที่ได้ใช้เวลาร่วมกันในตอนที่ได้เจอมากกว่า แต่ถ้าเราไม่มีเวลามาเจอกันแล้วมันจะทำไมล่ะ มันก็แค่เหงา แต่มันก็ไม่ได้แย่สักหน่อย
มนุษย์ทุกวันนี้ใช้ชีวิตด้วยความเร่งรีบตลอดเวลา พวกเขาต่างต้องดิ้นรนแข่งขันเพื่อไขว่คว้าทรัพยากรต่างๆที่ร่อยหรอลงทุกวันเอาไว้ให้ได้ เรามีเทคโนโลยีความเร็วสูงมากมายให้ใช้งาน จนเราเริ่มไม่รู้จักการรอคอยอีกต่อไป เราทนกับความเบื่อหน่ายไม่ได้ ทนกับความเปลี่ยวเหงาไม่ได้ อารมณ์ของเราสวิงขึ้นลงตลอดเวลาจากสิ่งเร้ารอบข้าง ความสะดวกสบายทำให้เราอ่อนแอและเปราะบางลงเหลือเกิน
สังเกตง่ายๆว่าทุกครั้งที่ไม่มีอะไรทำเราจะหยิบมือถือขึ้นมาไถอย่างไร้จุดหมาย บางทีเราจำสิ่งที่จ้องผ่านจอไม่ได้เลยด้วยซ้ำ นั่นเพราะไม่ชินกับการอยู่เฉยๆและไม่ทำอะไร เรารู้สึกเหมือนชีวิตอยู่บนลู่วิ่งที่ไม่อาจควบคุม กลัวว่าถ้าหยุดแล้วจะสะดุดล้ม จะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง เลยต้องทำอะไรสักอย่างอยู่ตลอดเวลา จนลืมไปว่าความเบื่อและความเหงามันมีประโยชน์กว่าที่เราคิด
อย่างน้อยในช่วงเวลาที่มีเพียงเราอยู่กับตัวเอง มันก็นับว่าเป็นจังหวะที่ดีที่สุดที่จะได้ทบทวนความคิด ทำความเข้าใจตัวเองใหม่ ค้นลึกลงไปในจิตใจเพื่อเสาะหาความต้องการที่แท้จริงของเรา เป็นการหยุดพักผ่อนจากโลกที่วุ่นวายและรวดเร็วใบนี้ ปรับจังหวะชีวิตของตัวเองใหม่เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับก้าวต่อไปที่มั่นคงยิ่งขึ้น ช้ากว่าคนอื่นก็ไม่เป็นไรหรอก ดอกไม้แต่ละชนิดก็มีฤดูกาลที่ตัวเองจะได้เฉิดฉายต่างกัน
แต่เมื่อไหร่ที่มันบาน มันก็สวยงามไม่แพ้ดอกไม้ชนิดใดเลย 🥰
โฆษณา