27 มิ.ย. 2022 เวลา 11:35 • ปรัชญา
พระอาจารย์เล่าว่า "มีคนสงสัยเรื่องคาถาเงินล้าน ว่าตกลงคำแรก พรหมมา หรือ พรัมมา เรื่องของคาถาเขาห้ามสงสัย ให้ภาวนาอย่างเดียว แต่ที่อาตมาติดออกเสียงพรัมมาเพราะว่าบาลีไม่มีพรหม บาลีมีแต่ พรหฺมฺ (พรัม) ถ้าใครเคยอาราธนาธรรมได้ จะเห็น พรัมมาจะ โลกาธิปะติ สะหัมปะติ กัตอัญชะลี อันธิวะรัง อะยาจะ
ถะฯ บาลีไม่มีพรหม มีแต่พรัม เพราะเป็นอักษรกล้ำ อาตมาว่าจนชิน ก็เลยติดพรัหมา
ส่วนคำว่าปะลายันติ อาตมาแก้คู่มือให้เป็น ล.ลิงแล้ว แต่ว่าไม่รู้เหมือนกันว่า คนตรวจปรู๊ฟของคุณชยาคมน์ทำอีท่าไหน แก้เป็นร.เรือตามเดิม บาลีไม่มีปะรา มีแต่ปะลา เพราะฉะนั้น..ต้องเป็นล.ลิง
แต่ว่าไม่ต้องไปสงสัยหรอก รู้มากก็ยากนาน ตัดอารมณ์ไม่ได้ ถึงเวลาภาวนามัว
แต่สงสัยใจฟุ้งซ่านอยู่ ผลก็น้อย จะผิดจะถูกอย่างไรให้ตั้งหน้าตั้งตาภาวนาไป"
"ไปนึกถึงหลวงตาที่อยู่ป่า ภาวนานะโมพุทธาแยะ ยังเสกก้อนหินกินได้เลย หลวงตาไม่ได้เรียนหนังสือ ไม่ได้จดไว้ เวลาอาจารย์สอนก็อาศัยจำอย่างเดียว พอไปท่องคาถาคิดว่าเป็นนะโมพุทธาแยะ ท่านก็ว่าไปเรื่อย กำลังใจมั่นคง เสกก้อนหินเป็นขนมกินได้ ถึงเวลาไม่ต้องบิณฑบาต ปรากฏว่าวันดีคืนดี คุณมหาประโยค ๙
จากกรุงเทพฯ ก็ไปซ้อมธุดงค์ เจอกับหลวงตาเข้า ตอนเช้าชวนบิณฑบาต หลวงตาบอกไม่ต้องบิณฑบาตหรอก ว่าแล้วหยิบก้อนหินขึ้นมาเป่า กลายเป็นขนมอยู่ตรงหน้า
มหาเขาเลื่อมใสมาก หลังอาหารแล้วก็ขอเรียนวิชา หลวงตาบอกไม่มีอะไรหรอก ก็แค่ภาวนา นะโมพุทธาแยะ..เป็นเรื่องเลย มหาประโยค ๙ เขารู้ว่าบาลีไม่มีแยะ มีแต่ยะ "ไม่น่าจะถูกนะครับหลวงตา ผมเรียนบาลีมา มีแต่นะโมพุทธายะ ไม่มีแยะ
หรอก" เจริญเถอะ...รุ่งขึ้นอดทั้งคู่ เพราะหลวงตาใจไม่มั่นคง เวลาภาวนาเมื่อไรก็นึกว่าของตัวเองผิด อดแทบตาย ต้องออกจากป่าไปทั้งคู่
หลวงตากลับไปหาพระอุปัชฌาย์อาจารย์ “ตกลงที่ผมเรียนไปนี่นะโมพุทธาแยะ หรือนะโมพุทธายะครับ” อาจารย์ถาม “แล้วคุณภาวนาอย่างไร ?” “แรก ๆ ผมเข้าป่าไป ผมภาวนานะโมพุทธาแยะ เสกก้อนหินเป็นข้าวเป็นขนมกินได้ พอตอนหลัง
คุณมหายืนยันว่าต้องนะโมพุทธายะถึงจะถูก มัวแต่สงสัยอยู่ก็เลยกำลังใจไม่มั่น เสกหินกินไม่ได้อีก” ปรากฏว่าไปเจอพระอุปัชฌาย์เก่ง “โถ..คุณ นะโมพุทธาแยะนั่นตัวเมีย ใช้ได้เหมือนกัน แต่ถ้านะโมพุทธายะเป็นตัวผู้ จะขลังกว่าอีก..!”
พอพระอุปัชฌาย์ยืนยันว่าใช้ได้ ปรากฏว่าหลวงตากำลังใจมั่นคง ต่อไปเสกยะก็ได้ แยะก็ได้ กินกระจายละคราวนี้"
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
(หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน)
เก็บตกบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนตุลาคม ๒๕๕๖
ถาม : ความดันขึ้น ไม่ได้เรื่องเลย ตามองไม่ค่อยเห็น ?
ตอบ : ตำราหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านให้ใช้ยาเก้าร้อย ไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้เขาเปลี่ยนชื่อเป็นอะไรแล้ว บอกเขาว่าชื่อเก่าคือยาเก้าร้อยของวัดท่าซุง ถ้าความดันต่ำจะปรับให้สูง ถ้าความดันสูงจะปรับให้ต่ำ ยาตัวนี้กินได้ทั้งความดันต่ำและสูง ให้เขาลอง
ไปดูที่บ้านสายลม ถ้าไม่มีก็ต้องไปที่วัดท่าซุง รีบ ๆ เอามากิน ความดันสูงมากแบบนี้อันตราย
ที่เขาเปลี่ยนชื่อยาเพราะมีอยู่ช่วงหนึ่ง อย.เข้าไปเล่นงาน บอกว่าโฆษณาเกินจริงอะไรพวกนั้น ไม่รู้ว่าเขาเปลี่ยนชื่อตัวนี้ไปหรือเปล่า เดิมเขาเรียกยาเก้าร้อย ความดันเท่าไร ?
ถาม : สองร้อยกว่าค่ะ
ตอบ : ครูบาเหนือชัยก็ความดันสองร้อยกว่า เส้นเลือดในสมองแตกไปเรียบร้อยแล้ว ไม่ตายแต่ว่าร่างกายด้านขวาหยิบจับทำอะไรไม่ได้ ท่านบอกว่าไม่รู้ตัว ปวดหัวก็กินยาแก้ปวด ไม่รู้ว่าเป็นความดัน ให้สังเกตว่าไม่ใช่อาการปวดหัวทั่วไป จะปวดตุบ ๆ ที่ขมับ ๒ ข้างนี่ นั่นแหละความดัน แต่พวกเราไม่รู้กัน
เก็บตก​บ้าน​วิริย​บารมี​ ต้นเดือน​ตุลาคม​ ๒๕๕๗
หลวงพ่อเล็ก
วัดท่าขนุน
ถาม : เขาบอกว่าเลี้ยงปลามังกรแล้วจะเสริมให้ร่ำรวย ไม่ทราบว่าสมควรจะเลี้ยงดีหรือเปล่าคะ ?
ตอบ : ไม่สมควรจ้ะ เพราะว่าต้องให้อาหารเป็น ๆ กับเขา เชื่อเถอะ...ถ้าเขามีแล้วรวยก็คงจะรวยกันหมดแล้ว ปลามังกรนอกจากจะแพงแล้ว ก็ดีแค่ตรงชื่อเท่านั้น ถ้าชื่อไทยจริง ๆ ก็ไม่ดีหรอก คนไทยเรียกชื่อปลาตะพัด หากจะเลี้ยงปลามังกรหวังให้รวย ไปนั่งภาวนาพระคาถาเงินล้านดีกว่า ไม่ต้องเสียเวลาทำบาปด้วย
ปลามังกรกินแต่ของเป็น ๆ เช่น จิ้งจก ตุ๊กแก แมลงสาบ หย่อนลงไปกินหมด อะโรวาน่าคือปลามังกร ถ้าอะราไพม่าตัวยาวเป็นเรือเลย นั่นปลาช่อนอเมซอน ต้องให้กินปลาทูสดทีละ ๒ กิโลกรัม เลี้ยงไปเลี้ยงมาใหญ่คับบ่อ เจ้าของเลยคิดจะเอาไปไว้ที่เกาะพระฤๅษี ปรากฏว่าวางยาแรงไปหน่อยเลยตาย เขาตั้งใจวางยาให้ซึม ๆ จะได้เอาขึ้นรถได้ง่าย แต่ยาแรงไปหน่อย ตายเลย..!
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
(หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน)
เก็บตกบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนกันยายน ๒๕๕๖
โฆษณา