28 มิ.ย. 2022 เวลา 03:34 • หนังสือ
"Into the Magic Shop"
-James R. Doty-
เรื่องราวเริ่มตั้งแต่เจมส์ในวัย 12 ปีที่เติบโตมาอย่างยากลำบากในครอบครัวที่ไม่สามารถเป็นพื้นที่สบายใจให้แก่เขาได้...
พ่อเป็นขี้เหล้าและชอบทำร้ายร่างกายคนในครอบครัว แม่ที่พยายามฆ่าตัวตายหลายต่อหลายครั้งจากความเครียดและโรคที่รุมเร้า พี่ชายที่เป็นเกย์ในช่วงที่สังคมไม่ยอมรับจึงมักหลบหนีตัวเองจากโลกภายนอกอยู่เสมอ...
เขาเติบโตมาอย่างโดดเดี่ยว...
เขาเกลียดชีวิตตัวเอง...
จนกระทั่งวันนึง เจมส์ได้ออกตามหาพี่ชายที่หายไปจากบ้านในเส้นทางที่เขาไม่คุ้นเคย เขาได้เข้าไปในร้านมายากลและได้พบกับรูธ หญิงสูงวัยที่บอกว่าจะสอนกลวิเศษกลหนึ่งให้เขาได้รู้...
ฉันมีบาดแผลและฉันคือผู้เยียวยา — Mindfulness
หกสัปดาห์คือช่วงเวลาที่เจมส์มาหารูธ ณ ร้านมายากลเพื่อฝึกกลลึกลับนี้ กลที่เขาไม่รู้เลยว่าจะเปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอด...
"ตอนที่หัวใจของเราบาดเจ็บ มันจะเปิดออกและเราจะเติบโตขึ้นจากการบาดเจ็บนั้น เราเติบโตจากสถานการณ์ที่ยากลำบาก นี่แหละคือเหตุผลที่เธอควรยอมรับสิ่งยาก ๆ ทุกอย่างที่เข้ามาในชีวิต ฉันว่าคนที่ไม่มีปัญหาเลยน่าเสียดายนะ คนที่ไม่ต้องเจออะไรที่ยากลำบากเลยจะพลาดของขวัญในชีวิต พลาดสิ่งมหัศจรรย์ไป"
เริ่มตั้งแต่การฝึกหายใจและผ่อนคลายจิตใจโดยพิจารณาร่างกาย ณ ปัจจุบันขณะ หายใจให้ช้าลงและพิจารณาลมหายใจนั้น ..
การเปิดใจให้กับผู้อื่น มอบความเมตตาและความเข้าใจ ปิดท้ายด้วยการถามหาสิ่งที่ตนให้คุณค่าและชัดเจนกับคำตอบนั้น เลือกใช้ชีวิตในทุกวินาทีเพื่อตอบรับกับสิ่งที่มีคุณค่านั้น...
"เราเกิดในครอบครัวหรือพบเจอกับสถานการณ์ที่นอกเหนือความควบคุมของเรา แต่เมื่อเราโตขึ้น เราเลือกได้ เราเลือกได้ว่าเราอยากได้รับการปฏิบัติแบบไหน อะไรที่เธอยอมรับได้และไม่ได้ เธอจะต้องเลือกและยืนหยัดเพื่อตัวเธอเอง ไม่มีใครอื่นใดจะทำให้เธอ"
ป่าวหรอก นี่ไม่ใช่หนึ่งในกลข้อไหนที่รูธสอนให้กับเจมส์ แต่เป็นสิ่งที่รูธพร่ำบอกกับเจมส์ตลอดช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกัน สำหรับเรา นี่ไม่ใช่คำพูดที่แปลกใหม่ แต่อย่างไรก็ยังคงมอบพลังให้กับเราเสมอ...
เมื่อจบตอนแรกของหนังสือ ทั้งเจมส์และเราได้เข้าใจว่าชีวิตมีสิ่งที่พวกเราควบคุมให้เกิดหรือไม่เกิดขึ้นได้ ขณะเดียวกัน ชีวิตก็มอบเหตุการณ์หรือสถานะบางอย่างที่เกินกว่าขอบเขตการควบคุมของเรา แต่อย่างไรก็ตาม อำนาจเดียวที่อยู่ในมือเรา อำนาจเดียวที่เราทำได้ นั่นคือความหมายที่เรามอบให้กับเหตุการณ์เหล่านั้น...
"เพียงเพราะบางอย่างหักพัง ไม่ได้แปลว่ามันหักพังไปเสียหมด"
มันอาจเป็นเรื่องที่ทำให้เรารู้สึกแตกสลายแต่ขณะเดียวกันก็ทำให้เราเห็นว่าคนรอบข้างของเรามีค่าขนาดไหน มันอาจเป็นเรื่องที่ทำให้ใจเราบอบช้ำแต่ขณะเดียวกันก็ทำให้เราเติบโตและเข้าใจความเป็นไปของโลกมากขึ้นอีกนิด นิยามของมันขึ้นอยู่กับเรา และสมาธิคือสิ่งที่ทำให้เรามีสติมากพอที่จะคงความคิดนี้ในวันที่เมฆหมอกที่มืดมิดคืบคลานเข้าปกคลุมจิตใจ...
ทุกคนล้วนมีบาดแผลและฉันคือผู้เยียวยา — Compassion
หัวข้อนี้เชื่อมโยงกับกลก่อนหน้า กลที่ว่าด้วยเรื่องของการเปิดใจให้แก่ผู้อื่น...
"บางครั้งไม่ใช่ว่าคุณไม่สำคัญ เพียงแต่ไม่มีใครมองเห็นคุณเพราะความเจ็บปวดของคนรอบ ๆ ตัวคุณมันบดบังตัวตนของคุณ"
สิ่งหนึ่งที่เราต้องเข้าใจคือคนทุก ๆ คนกำลังเผชิญความเจ็บปวดบนเส้นทางชีวิตในแบบของตัวเอง
ทุกคนเก็บสะสมตัวต่อความคิดทีละชิ้น ๆ จากประสบการณ์ที่พวกเขาพบเจอมาตั้งแต่เยาว์วัยและส่งผลให้เขาเหล่านั้นเลือกตัดสินใจแสดงออกมาเป็นสิ่งที่เราเห็นตรงหน้าในท้ายที่สุด ถูกใจเราบ้าง ไม่ถูกใจเราบ้าง แต่ก็อีกนั่นแหละ ด้วยภาพประกอบตัวต่อทั้งหมดที่เขามี สิ่งที่เขาแสดงออกคือสิ่งที่เขาพอจะเลือกได้ในวันนี้...
หนึ่งในหนทางที่เราจะเยียวยาเขาเหล่านั้นได้ (หรืออย่างน้อยก็อยู่ร่วมกันอย่างสบายใจ)
คือ การมอบความเข้าใจ...
เข้าใจในความแตกต่างของชิ้นส่วนประสบการณ์...
เข้าใจว่าผู้คนมีส่วนบอบช้ำและเปราะบาง และในบางครั้ง…กำลังหลงทาง
เข้าใจว่าทุกคนกำลังดิ้นรนอย่างสุดความสามารถบนเส้นทางของตัวเอง...
"เรารักษาสิ่งที่มีไว้ได้ด้วยการให้ออกไป...
หากเราอยากมีความสุข เราต้องทำให้คนอื่นมีความสุข...
หากเราต้องการความรัก เราต้องให้ความรัก...
หากเราต้องการความเบิกบาน เราต้องทำให้คนอื่นเบิกบาน...
หากเราต้องการการให้อภัยก็ต้องให้อภัยผู้อื่น...
หากเราต้องการความสงบ เราก็ต้องสร้างความสงบให้โลกรอบตัวเรา"
Cr. Porpia Patcharaphon
"Into the Magic Shop"
-James R. Doty-
__ 170฿ __
#หนังสือมือสอง #หนังสือมือสองคุณภาพดี #รับฝากขายฟรี
โฆษณา