28 มิ.ย. 2022 เวลา 06:47 • กีฬา
เทนนิส-พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ อัจฉริยะแห่งวงการเทควันโด้ พลาดท่าแพ้คู่แข่งเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี 7 เดือนอย่างน่าตกใจ และไม่ใช่เพียงแค่เธอเท่านั้น นักกีฬาไทยทั้งหมด ไม่มีใครไปถึงเหรียญทองได้เลยในศึกชิงแชมป์เอเชียที่เกาหลีใต้ มันเกิดอะไรขึ้น วิเคราะห์บอลจริงจังจะอธิบายให้ฟัง
1
ตามปกติแล้ว ทาง WT (สหพันธ์เทควันโด้โลก) มีแนวคิดคือ Always Evolving พัฒนาอยู่ตลอด เพื่อทำให้กีฬาไม่หยุดนิ่ง ไม่น่าเบื่อ ดังนั้นทุกๆ 4 ปี เทควันโด้จะทำการเปลี่ยนกฎการแข่งขันบางอย่าง เพื่อให้การแข่งมันเข้มข้นยิ่งขึ้น
ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา ก็ถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนกฎอีกครั้ง โดยคราวนี้ WT เปลี่ยนกฎใหม่เกินกว่า 10 อย่างเลยทีเดียว
WT เป็นหน่วยงานที่ดูแลเทควันโด้ในโอลิมปิกโดยตรง แปลว่าในโอลิมปิก 2024 ที่ฝรั่งเศส ก็น่าจะยึดตามกฎใหม่นี้แหละ ดังนั้นถ้าเราปรับตัวเข้ากับกฎใหม่ได้เร็ว ก็มีโอกาสคว้าเหรียญที่โอลิมปิกเช่นกัน
กฎใหม่ที่ว่ามีหลายอย่างอยู่ แต่ผมขออนุญาตคัดเรื่องที่ผมคิดว่าสำคัญนะครับ
--------------------
1) เปลี่ยนจากการนับคะแนนรวม 3 ยก เป็นนับคะแนนแยกเป็นยก
เพื่ออธิบายให้เห็นภาพ ผมจะยกนัดชิงเหรียญทองโอลิมปิกรุ่น 49 กก.หญิง ที่โตเกียวมาละกันนะครับ ระหว่างพาณิภัค กับ อาเดรียน่า เซเรโซ่
ยกแรก : พาณิภัค 2 แต้ม, อาเดรียน่า 4 แต้ม
ยกสอง : พาณิภัค 7 แต้ม, อาเดรียน่า 2 แต้ม
ยกสาม : พาณิภัค 2 แต้ม, อาเดรียน่า 4 แต้ม
ถ้าเป็นกฎเดิม พาณิภัค ก็จะชนะไป ด้วยคะแนนรวมสามยก 11-10 ถูกไหมครับ แต่ถ้าด้วยกฎใหม่ล่ะก็ คนที่จะได้เหรียญทองคืออาเดรียน่า ด้วยคะแนน 2-1 ยก เพราะอาเดรียน่าชนะแต้มในยก 1 กับ ยก 3 ส่วน พาณิภัคชนะแค่ยก 2 ยกเดียว
สาเหตุที่ต้องเปลี่ยนกฎแบบนี้ เพราะสหพันธ์เทควันโด้โลก ต้องการให้การแข่งมันตื่นเต้นกว่าเดิม คือลองคิดดูว่า ถ้ายกแรกนักกีฬา A นำคู่แข่ง 10 แต้มอัพ ทีนี้นักกีฬา B ก็คงถอดใจในยกที่เหลือ เพราะยังไงก็ไล่ไม่ทัน กลายเป็นว่ายก 2 ยก 3 ก็จะดูไม่สนุกไป แต่ถ้าใช้กฎแบบนี้ ยกแรกจะแพ้เยอะแค่ไหนก็ไม่เป็นไร มาเอาชนะยกสอง และยกสามได้ ก็พลิกชนะ 2-1 ได้เหมือนกัน
1
แต่ถ้าเกิดกรณีที่ นักกีฬาคนไหนชนะ 2 ยกแรกไปแล้ว การแข่งก็จะตัดจบทันทีด้วยสกอร์ 2-0 ไม่ต้องแข่งกันต่อแล้วในยกที่ 3 ซึ่งที่ต้องตัดจบเลย ก็เพื่อจะได้เซฟพละกำลังของนักกีฬาที่ได้เข้ารอบ เนื่องจากเทควันโด้มันแข่งวันเดียวจบทั้งทัวร์นาเมนต์
การเปลี่ยนกฎแบบนี้ ทำให้ทีมงานต้องวางกลยุทธ์กันใหม่ ว่าจะลุยอัดให้ชนะ 2 ยกรวดจบเลยไหม จะได้ไปพักเร็วๆ หรือว่าจะเล่นอย่างระวัง เพื่อเก็บพลังงานให้เหลือพอทั้ง 3 ยก เรียกได้ว่ามีความซับซ้อนกันไปอีกสเต็ป
ส่วนตัวผมไม่ชอบกฎแบบนี้เลย คิดว่าการให้ความสำคัญกับแต้มทุกแต้ม มันสนุกกว่ามาก มันตรงไปตรงมาดี อันนี้มันต้องใช้แท็กติกมากขึ้น ซึ่งภาระก็จะตกอยู่ที่ทีมโค้ช ว่าจะวางแผนในแต่ละไฟต์อย่างไร
-------------------
2) จังหวะที่เข้ากอดกัน (Clinch) ห้ามเอาเท้าไปเตะที่ด้านหลังศีรษะ
คำอธิบายคือ เวลานักกีฬาสู้ๆ กันอยู่ พอมีการเข้ากอด คนที่ขายาว มักจะใช้ท่าเกี่ยวหัว (Scorpion Kick) เอาขาอ้อมมาเตะเฮดการ์ดของอีกฝ่าย จนเก็บ 3 แต้มไปง่ายๆ ดังนั้นทาง WF จึงเอาท่านี้ออกไป เพื่อลดความได้เปรียบของคนขายาว
ในโลกออนไลน์หลายคนก็เห็นด้วย เพราะท่านี้มันสร้างความแตกต่างได้มากจริงๆ คือปกติคนที่ช่วงขายาว ก็ได้เปรียบเยอะอยู่แล้ว ยิ่งมีท่าเกี่ยวหัวเพิ่มมาอีก ทำให้คนที่ช่วงขาสั้นกว่าจะยากมากๆ ที่จะชนะ ดังนั้นการเอาท่านี้ออกไป น่าจะทำให้การแข่งสนุกยิ่งขึ้น
แต่คนที่โดนผลกระทบโดยตรงก็คือพาณิภัคนี่แหละ เพราะเธอมีช่วงขาที่ยาวมาก และใช้ท่านี้บ่อยในการแข่ง เมื่ออาวุธหายไปหนึ่งชิ้น พาณิภัคก็ลำบากมากขึ้นแน่นอน
1
-------------------
3) จังหวะเตะหมุนตัว ถ้าหากร่วงลงไปกับพื้นจะไม่โดนตัดแต้ม เพราะสหพันธ์เทควันโด้โลก ต้องการสนับสนุนการโจมตีด้วยท่าสวยๆ ท่ายากๆ ถ้าหากหมุนตัวเตะแล้วเสี่ยงโดนตัดแต้ม ใครจะไปกล้าทำกัน
-------------------
4) ห้ามเตะด้วยขาข้างเดียว กลางอากาศ 3 ครั้ง (คือถ้าจะเตะด้วยขาข้างเดิม ต้องเอาขาเหยียบพื้นก่อน ถึงจะเตะต่อได้)
-------------------
1
5) ถ้าหากถอยหลัง หรือ ฉีกออกด้านข้าง 3 ครั้งแล้วไม่มีการโจมตี จะโดนกัมเจิม (ตัดแต้ม) โทษฐานถ่วงเวลา หลบเลี่ยงการต่อสู้
-------------------
6) ในแต่ละยก ถ้าโดนกัมเจิม ไป 4 ครั้ง โดนปรับแพ้ยกนั้นทันที
-------------------
7) แต่ละยกถ้าห่าง 12 แต้ม ถือว่าเอาต์คลาสในยกนั้น เริ่มยกใหม่ทันที
-------------------
ด้วยความที่มีการเปลี่ยนแปลงกฎมากมาย ทำให้เกิดความสับสน ทั้งกับนักกีฬาและกับกรรมการที่ตัดสินเอง โดยโค้ชเช อธิบายว่า "กติกาใหม่ที่นำมาใช้ กรรมการหลายคนทำหน้าที่ผิดพลาดทำให้มีผลกับการแข่งขัน และหลายๆ ชาติก็บ่นถึงความตัดสินที่มีความผิดพลาดเยอะ โดยเฉพาะเรื่องกัมเจิม"
ดังนั้นการที่นักกีฬาไทยทั้งหมด 11 คน ที่ส่งเข้าแข่งขัน ไม่ได้เหรียญทองแม้แต่คนเดียว ก็ด้วยเหตุผลนี้แหละ ทำแบบนี้โดนตัดแต้ม ทำแบบนั้นไม่ได้แต้ม มีความมึนงงเกิดขึ้น นอกจากนั้นนักกีฬาบางคนก็เพิ่งได้กลับมาแข่งรายการนานาชาติครั้งแรก หลังจากวิกฤติโควิดด้วย ยังต้องใช้เวลาฟื้นฟูจังหวะของตัวเองอีก
แน่นอน ความพ่ายแพ้ครั้งนี้ มันไม่ได้สะท้อนว่าวงการเทควันโด้ไทยจะตกต่ำอะไรแบบนั้น คือมันเป็นอีเวนต์แรกๆ ที่ใช้กฎใหม่ ดังนั้นคงต้องให้เวลานักกีฬาและโค้ชปรับตัวกันนิดนึง
ส่วนเหตุการณ์ที่น่าช็อกหน่อยในทัวร์นาเมนต์นี้ คือเทนนิส-พาณิภัค "ตกรอบตั้งแต่นัดแรก"
2
มันน่าตกใจเพราะ พาณิภัค ไม่เคยแพ้ใครในรอบ 3 ปี 7 เดือน เธอคว้าแชมป์โอลิมปิก, เอเชียนเกมส์, เทควันโด้ชิงแชมป์โลก, เวิลด์แกรนด์แสลม, กีฬามหาวิทยาลัยโลก และ ซีเกมส์สองสมัย คือทุกรายการที่มีบนโลกว่างั้นเถอะ แต่กลับมาสะดุดเอาในนัดนี้
นอกจากเรื่องของกฎใหม่แล้ว เรื่องน้ำหนัก ก็น่าจะมีส่วนเช่นเดียวกัน
อธิบายคือ แชมป์ทุกๆ อย่างที่เธอได้มาก่อนหน้านี้ เธอลงแข่งในรุ่นน้ำหนักไม่เกิน 49 กิโลกรัม แต่หลังจบโอลิมปิก มีความคิดที่จะขยับน้ำหนักของพาณิภัค จากรุ่น 49 กิโลกรัม มาเป็น 53 กิโลกรัม เพราะว่ากันตรงๆ เธอสูง 173 ซม. การคุมน้ำหนักให้ต่ำกว่า 49 กิโลกรัมอยู่ตลอด ด้วยอายุที่เพิ่มขึ้น (ปัจจุบัน 24 ปี) เป็นอะไรที่สาหัสมากๆ
ทำให้ในเดือนเมษายน 2022 ในรายการสแปนิช โอเพ่น ที่เมืองอาลิกันเต้ พาณิภัค เปลี่ยนรุ่นจาก 49 กก. มาเป็น 53 กก. ซึ่งในวันนั้นเธอได้เหรียญทองแบบไม่ยากนัก แต่เอาจริงๆ ก็วัดอะไรไม่ได้มาก เพราะรายการนั้น ไม่มีคู่แข่งจากเกาหลีใต้, จีน และ ญีปุ่น ส่วนใหญ่เป็นคู่แข่งจากยุโรป ซึ่งอยู่คนละเลเวลกับพาณิภัคอยู่แล้ว
พอมาแข่งศึกชิงแชมป์เอเชีย 2022 พาณิภัคจึงลงแข่งในรุ่น 53 กิโลกรัมต่อไป คือถ้าเวิร์ก ก็จะได้ยึดรุ่นนี้ไปยาวๆ เลย ตัวพาณิภัคเองก็ไม่ต้องฝืนลดน้ำหนักจนหมดแรง
(Note : แต่ในโอลิมปิก 2024 จะไม่มีรุ่น 53 กก. ถึงวันนั้นเธอค่อยลดน้ำหนักลงเพื่อแข่งรุ่น 49 กก. ให้ได้ แต่ระหว่างนี้ 2-3 ปี ก็จะได้ไม่ทรมานตัวเองจนเกินไป)
1
ในการแข่งขันวันที่ 23 มิถุนายน ที่ผ่านมา พาณิภัคได้บายรอบแรก เข้ารอบ 2 อัตโนมัติไปเจอกับ หวัง เซียวหลู จากจีน
ในยกแรกพาณิภัค ยังจับจังหวะไม่ได้เลย กอดแล้วเกี่ยวหัวก็ไม่ได้ ทำให้เธอโดนคู่แข่งจากจีน เตะหัวไปถึง 4 ครั้งในยกเดียว จบยกแรกแพ้ไป 15-9 คะแนน หวัง เซียวหลู นำ 1-0
เข้าสู่ยกสอง พาณิภัคกลับมาตั้งสติได้ ชก 1 หมัด บวกเตะเฮดช็อตไป 2 ที เอาชนะหวัง เซียวหลู 7-1 คะแนน ตีเสมอเป็น 1-1 ยก ต้องตัดสินกันในยกที่ 3
เข้าสู่ยกที่ 3 พาณิภัคยังได้เปรียบนิดๆ ตอนเหลืออีก 4 วินาทีสุดท้ายเธอนำอยู่ 8-6 คะแนน ถ้าหากประคองตัวดีๆ ก็น่าชนะได้ (อีกแค่ 4 วิเอง) แต่พาณิภัคเสียสมาธิ เธอโดนคู่แข่งดันออกจากสนามติดกัน 2 ครั้งซ้อนๆ โดนปรับกัมเจิม 2 หน ทำให้แต้มตีเสมอเป็น 8-8 คะแนน
สำหรับกฎของเทควันโด้นั้น ถ้าหากมีแต้มเท่ากัน จะตัดสินดังนี้
1- ดูว่านักกีฬา 2 คน มีใครทำแต้มจากท่าหมุนตัวเตะมากกว่ากัน
2- ถ้าหากทำแต้มจากท่าหมุนตัวเตะ ได้เท่ากัน ให้ดูว่านักกีฬาคนไหนโดนกัมเจิมน้อยกว่า
3- ถ้าหากทุกอย่างเท่ากันอีก กรรมการจะตัดสินจากยก 3 ว่าใครเป็นฝ่ายเดินเข้าทำมากกว่า
ในการแข่งครั้งนี้ นักกีฬาทั้ง 2 คน ไม่มีใครทำแต้มได้จากท่าหมุนตัวเตะ ดังนั้นจึงต้องมาดูกันว่า นักกีฬาคนไหนโดน "กัมเจิม" มากกว่า ปรากฎว่า เทนนิสโดนกัมเจิม หรือทำฟาวล์ไป 4 ครั้ง ส่วนหวัง เซียวหลู ทำฟาวล์ไปแค่ 1 ครั้ง ทำให้หวัง เซียวหลู คว้าชัยชนะในไฟต์นี้ในที่สุด
ผมดู Live ในไฟต์นี้อยู่สดๆ และสิ่งที่รู้สึกได้คือ เทนนิสยังไม่ชินเท่าไหร่กับน้ำหนัก 53 กิโลกรัม มันทำให้เธอเคลื่อนไหวไม่ค่อยปราดเปรียวเหมือนก่อน นอกจากนั้นยังเสียสมาธิมากๆ ในช่วง 4-5 วิสุดท้าย จนเสียกัมเจิมติดๆ กัน 2 หน
และที่เหนืออื่นใด "ไม้ตาย Scorpion Kick" ของเธอ ถูกสั่งแบนไปแล้ว อาวุธที่ทำให้เธอโกยแต้มมากมายในโอลิมปิก ตอนนี้ใช้ไม่ได้แล้ว ดังนั้นพาณิภัคกับโค้ชเชก็ต้องมาแก้ปัญหาเหมือนกันว่า ท่าไม่มีอาวุธเตะเกี่ยวหัว แล้วจะใช้กลยุทธ์อะไรในการชนะคู่แข่ง
1
สำหรับโอลิมปิก 2024 ที่ปารีส เทควันโด้จะมี 8 เหรียญเท่าเดิม (ชาย 4 หญิง 4)
1
ผู้ชายจะมี 58 กิโลกรัม, 68 กิโลกรัม, 80 กิโลกรัม และ มากกว่า 80 กิโลกรัม
ผู้หญิงจะมี 49 กิโลกรัม, 57 กิโลกรัม, 67 กิโลกรัม และ มากกว่า 67 กิโลกรัม
โดยแต่ละรุ่น จะมีนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันที่โอลิมปิกได้แค่รุ่นละ 16 คนเท่านั้น
สำหรับการควอลิฟายไปปารีส 2024 นั้น นักกีฬาที่มีคะแนนสะสมโลก WT Olympic Ranking อันดับ 1 ใน 5 ในแต่ละรุ่น (นับจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2023) จะได้สิทธิ์เข้าแข่งโอลิมปิกโดยอัตโนมัติเลย
โดยในรุ่น 49 กิโลกรัมหญิง เทนนิส-พาณิภัค เป็นอันดับ 1 ของโลกในเวลานี้ ทำแต้มทิ้งห่างอันดับอื่นๆ ไกลลิบ ดังนั้นก็แทบจะการันตีได้โควต้าอยู่แล้วล่ะ ขอแค่เธอประคองตัว ไม่เจ็บไม่ป่วย (และควบคุมน้ำหนักได้สำเร็จ) ก็จะได้ไปแข่งโอลิมปิกที่ปารีสแบบไม่มีปัญหา
1
แต่ในรุ่นอื่นๆ ไม่มีนักกีฬาไทย ติด 1 ใน 5 ของโลก ดังนั้นก็ต้องคว้าสิทธิ์โอลิมปิกด้วยวิธีอื่น เช่น เก็บคะแนนสะสมในรายการแกรนด์แสลม แชมเปี้ยนส์ ซีรีส์ หรือคว้าชัยในรอบคัดเลือกทวีป ซึ่งก็ยาก แต่เรายังมีโอกาสอยู่
ดังนั้นขอเป็นกำลังใจให้นักกีฬาทุกคน ฝ่าฟันรอบคัดเลือกไปให้ได้ เราจะได้มีตัวแทนไปแข่งที่ปารีสเยอะๆ ลุ้นเหรียญทองกันยาวๆ
ส่วนความพ่ายแพ้ในศึกชิงแชมป์เอเชียครั้งนี้ ไม่มีอะไรต้องซีเรียสมาก มันเป็นประสบการณ์นั่นแหละ กฎใหม่ที่ซับซ้อน ใครๆ ก็ต้องปรับตัวทั้งนั้น
ทันทีที่แพ้คู่แข่ง ผมเห็นเทนนิสโพสต์ใน FB ว่า "เป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากที่ไหน และเป็นอีกหนึ่งบทเรียนบทใหม่ที่ต้องเรียนรู้ เดี๋ยวมาเจอกันใหม่ฮะ"
3
เข้าใจความรู้สึกของคนที่แพ้ครั้งแรกในรอบ 3 ปี 7 เดือน มันคงมีนอยกันบ้าง แต่สุดท้ายแล้ว ผมเชื่อเสมอว่า น้องเทนนิส เธอคือ The Best of the world ในรุ่นของเธอ ต่อให้โดนจำกัดห้ามใช้ไม้ตายถนัด แต่เธอสามารถที่จะสรรหาอาวุธแบบใหม่ แล้วกลับมายืนหนึ่งได้เหมือนเดิมอยู่แล้วล่ะ
1
#STILLTHEBEST
โฆษณา